“บุคคลแนวหน้า ในหนังสือพิมพ์แนวหน้า, แนวหน้าออนไลน์/www.naewna.com สื่ออุดมการณ์ มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสามขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบทำความจริงให้กระจ่าง ให้สังคมไทยรู้เท่าทันเล่ห์ทันเหลี่ยมนักการเมืองเสียชาติเกิดนักเลือกตั้งชังชาติ ส่ำสัตว์ติ่งสัมภเวสีติ่งแดงด้อมส้มเบิกเนตรอุปกรณ์การเกษตรเทียมคันไถให้ตาสว่างอย่างเท่าเทียม”...
■■ เริ่มต้นด้วยการเคลื่อนไหวของ “พรรคก้าวไกลกับร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม” ผู้ต้องหาคดีการเมืองกับความพยายามสุดฤทธิ์ที่จะแทรกจะแฝงจะซุกคดีกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เข้าอยู่ในร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้โดยไม่อยู่บนพื้นฐานความจริง ... ผู้ต้องหาคดีมาตรา 112ไม่ใช่ผู้เห็นต่างทางการเมือง แต่เป็นผู้มีพฤติการณ์กระทำความผิดในการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเป็นการกระทำหลายกระทอกราวต้องการท้าทายความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย...
■■ อย่างกรณี “ตะวัน-ทานตะวัน ตัวตุลานนท์”ผู้ต้องหาคดี มาตรา 112 ที่ “พรรคก้าวไกล” ลงทุนเอาภาพโปสเตอร์เด็กน้อยไร้สามัญสำนึกไร้การอบรมสั่งสอนอย่างดี/อบอุ่นจาก บุพการีและบูรพาจารย์ไปโชว์ระหว่างการอภิปรายเรียกร้องให้ศาลอนุญาตประกันตัวต้องคดีฐานความผิดนี้จำนวน 2 คดีครั้งแรก 8 ก.พ. 2565 กรณีทำโพลล์ติดสต๊ิกเกอร์เรื่องขบวนเสด็จฯที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน แต่ได้รับการประกันตัว ต่อมา 5 มี.ค. 2565 ถูกดำเนินคดีกรณีเฟซบุ๊กไลฟ์รอรับขบวนเสด็จบริเวณถนนราชดำเนิน ทั้งสองคดีผู้พิพากษาอนุญาตให้ประกันตัวโดยมีเงื่อนไขไม่ให้กระทำซ้ำพฤติการณ์เดิม แต่เมื่อคนเหล่านี้ไร้สามัญสำนึกไร้วุฒิภาวะขาดจิตสำนึกกลับมองประเด็นนี้เป็นเกมยังคงกระทำความผิดเดิมๆ ซ้ำอีก จนศาลสั่งให้ถอนประกัน “ตะวันพร้อมเพื่อนสาว แบม-อรวรรณ ภู่พงษ์” ส่งเข้าทัณฑสถานหญิงกลางทั้งสองหาได้มีจิตสำนึกเยี่ยงวิญญูชนที่กระทำความผิดไม่กลับใช้วิธีอดอาหารอดน้ำประท้วงการไม่ได้รับการประกันตัวกับความผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า...
■■ ที่สุดศาลก็ยอมให้ประกันตัว โดยมี “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล”เป็นนายประกัน พร้อมเงื่อนไขว่า ให้ “พิธาว่ากล่าวตักเตือนและควบคุมมิให้จำเลยกระทำผิดเงื่อนไขของศาลอย่างเคร่งครัด หากมีการกระทำผิดเงื่อนไขถือว่าผู้ร้องขอปล่อยชั่วคราวผิดสัญญาประกัน” ล่าสุดสดๆ ร้อนๆ “ตะวัน-ทานตะวัน ตัวตุลานนท์” กับ “สายน้ำ ทะลุวัง” ขับรถป่วนขบวนเสด็จฯ “สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ... เอาล่ะ “พิธาคิโอ/พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ยังคงอึ้งงงกับพฤติกรรมก่อการร้ายเมื่อพฤติการณ์เป็นเยี่ยงนี้จึงจำคำอภิปรายของตนเองในสภาที่เรียกร้องให้ศาลอนุญาตประกันตัวตะวันและแบมก่อนจะถึงแก่ชีวิตที่ว่า “ทุกครั้งที่ผมไปหาคุณตะวันและคุณแบม ผมมองตาตะวันแล้วเห็นพิพิมลูกสาวของผมอยู่ในนั้น”...
■■ ที่สุดแล้วนางสำนึกไหม?? “ไม้หน้าสาม” มีประเด็นที่ต้องการคำตอบจากผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายทั้ง “พิธาคิโอ/พิธา ลิ้มเจริญรัตน์”นายประกันที่ศาลมีคำสั่งให้ดูแลผู้ต้องหาไม่ให้กระทำความผิดซ้ำอีก นักการเมืองที่แสร้งมีเมตตามีความรักในตัวเยาวชนเฉกเช่น “น้องพิพิม/ลูกสาว” จะรับผิดชอบต่อสัญญานายประกันที่ให้กับศาลไว้อย่างไร และผู้ต้องหาความผิดคดี ม.112 สมควรถูกบัญญัติไว้ในร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมอีกหรือ อย่าตะแบงแถไถว่าการออกกฎหมายนิรโทษกรรมนั้นกระทำได้เฉพาะคณะรัฐประหารเท่านั้นหรือ ท่านผู้ทรงเกียรติฝีปากกล้าน่าจะมีสมองตริตรองอย่างผู้มีวุฒิภาวะ มีการศึกษา, เป็นผู้ได้รับการอบรมสั่งสอนจากบุพการีบูรพาจารย์มาแต่เยาว์วัยว่า “สันดอนขุดง่าย สันดานขุดยาก” เยี่ยงนี้ยังสมควรนิรโทษกรรมให้ “สิ่งมีชีวิตที่ไร้สำนึก” เหล่านี้หรือท่านทั้งหลายไม่เคยได้รับการอบรมสั่งสอนจากบุพการีบูรพาจารย์มาซึ่งก็ไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะมีวุฒิการศึกษามีชาติตระกูลดีด้วยกันทั้งสิ้น...
■■ กรณี “เรือนเจ้าพระยาอภัยภูเบศร” ที่พระตะบอง กลายเป็นประเด็นที่กลับตาลปัตรว่าเป็นประเด็นทางการเมืองซะงั้น “ไม้หน้าสาม”ก็เขียนถึงเรื่องนี้กรณีนี้จะบอก “พิธาคิโอ/พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ว่าไม่ใช่ประเด็นทางการเมือง ไม่ใช่เรื่องกระทบกระทั่งระหว่างประเทศ แต่ผมตอกย้ำสิ่งที่“ท่านผู้ทรงเกียรติ/ท่านนายกฯว่านายกฯทิพย์” ว่าข้อเท็จจริงของอาคารที่บอกว่า “คุณยาย” เคยพำนักมันจะคลาดเคลื่อนจากบันทึกประวัติศาสตร์ดังนั้น หากจะโพสต์ข้อความใดก็สมควรชี้แจงข้อเท็จจริงประกอบภาพนั้นๆ อย่างกรณีภาพ “รูปแม่ลูกเดินเล่นชานเมืองปารีส” ถ้ากล้ายอมรับความจริงสักนิดว่า ต้นแบบภาพนี้เป็นของ “claude monet-ออสการ์-โกลด มอแน” จิตรกรลัทธิประทับใจ และเป็นจิตรกรคนสำคัญของฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 19 ถึง 20 แต่ผมอยากช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้โรคมะเร็งจึงวาดและนำมาหารายได้เป็นการกุศลที่ยิ่งใหญ่ด้วย เชื่อว่ามีคนชื่นชมมากกว่าร้องยี้กับเรื่องราวนี้ ทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับ “เจตนารมณ์ของพฤติกรรม” ครับ “ท่านนายกฯว่า/นายกฯรถแห่/นายกฯทิพย์” และถ้าจำกันได้ดี “สมเด็จฮุนเซน” นายกรัฐมนตรีกัมพูชาก่อนหน้านี้เคยแสดงความไม่พอใจกับนโยบายต่างประเทศที่ท่านนำเสนอช่วงหาเสียงเลือกตั้งมันกระทบความสัมพันธ์เป็นทุนอยู่แล้วคงไม่ใช่เพราะเหตุที่ว่า “บ่าว/ทาส” อย่างที่ท่านตั้งสมมุติฐานดอก...
■■ “ศีลเสมอกัน” ถึงอยู่ร่วมชายคาเดียวกันได้โดยแท้แถไถ อ้างนั่นโน่นนี่ทั้งกรม โยนความผิดให้ผู้อื่นแล้วตะโกนบอกโดนกลั่นแกล้งร่ำไป ย้อนความหลังของ “พลพรรคก้าวไกล” ... คุกคามข่มขู่ล่วงละเมิดทางเพศ,โฆษณาเบียร์ท้องถิ่นบนสื่อโซเชียลอ้างปลดแอกทุนใหญ่ผูกขาด, เฮโลไปดูงานสิงคโปร์ช่วงเทศกาลเบียร์, ใช้งบรับรองเลี้ยงหมูกระทะแม่บ้านรัฐสภาอ้างศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์, หนีทหารกับพิรุธสด.43 อ้างกองทัพทุจริตเกณฑ์ทหาร ตัวละครจากก้าวไกลมีใครยอมรับความจริงเต็มร้อยบ้าง เข้าตำรา “ทำก็อย่า ให้รู้ ถึงรู้ก็อย่า ให้เห็นถ้าเห็นก็อย่าให้ จับได้ ถ้าจับได้ก็อย่า ไปรับ ถ้ารับก็รับแค่ ครึ่งเดียว” ทั้งนั้นทั้งสิ้น นี่ถ้า “ยอดรัก สลักใจ”ยังมีลมหายใจสงสัยจะมีคดีความฟ้องลิขสิทธิ์ “เพลงรับครึ่งเดียว” เป็นแน่แท้ สมเพชว่ะนักการเมืองเสียชาติเกิดนักเลือกตั้งชังชาติซุกในร่มผ้าใต้กระโปรงนักเรียนนักศึกษาหญิงจนจับไม่ได้คาหนังคาเขา ก็อ้างร้อยแปดพันประการยัดผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 เข้าไปอยู่ในพ.ร.บ.นิรโทษกรรมผู้ต้องหาคดีการเมืองอย่างสุดฤทธิ์ เพื่อ??? (เอาความจริงน่ะ) #ยกระดับถวายความปลอดภัยพระบรมวงศ์ทุกพระองค์#คัดค้านนิรโทษกรรมคดี ม.112...
■■ “แนวหน้า” เสริมทัพ เพิ่มกำลัง “คอลัมนิสต์” ให้เข้มข้น โดยทุกวันพฤหัสบดี หน้า 3 พบกับคอลัมน์ “เรื่องเล่าจากสภา” จากปลายปากกาของ “ศ.พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร”...และทุกๆ วันศุกร์ หน้า 3 พบกับข้อเขียนของ “ดร.ธิติสุวรรณทัต” จากคอลัมน์ปรีชาทัศน์...■■
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี