หลังจากเกิดเหตุการณ์สิ่งมีชีวิตที่ไร้จิตสำนึกใช้ชีวิตเพียงเพื่อขยายเผ่าพันธุ์บังอาจกระทำการกระทบจิตใจพสกนิกรผู้จงรักภักดี ด้วยการนำเสนอข้อมูลอันเป็นเท็จเกี่ยวกับขบวนเสด็จฯ 905 “สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” รวมทั้งบีบแตรยาว และเร่งขับรถยนต์ส่วนบุคคลจี้ขบวนเสด็จฯ
เมื่อสังคมไทยตั้งสติได้ ก็เริ่มเรียกร้องให้รัฐบาล, เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบปฏิบัติอย่างเคร่งครัดในการถวายความปลอดภัยพระบรมวงศานุวงศ์ มีการเสนอญัตตินี้หารือในที่ประชุมสภาอย่างที่ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร “ชัยธวัช ตุลาธน” โพสต์แสดงความเห็นไว้ในแฟนเพจเฟซบุ๊กที่ว่า “การเจาะหนองระบายความขัดแย้งทางการเมืองที่เรื้อรัง ให้ทุกฝ่ายเย็นลงมากพอที่จะมานั่งคุยกัน หาทางออกจากความขัดแย้งทางการเมือง”
พร้อมๆกับเสียงเพรียกร้องของสังคมไทยให้“นักการเมืองบางคนร่วมรับผิดชอบต่อการกระทำอันมิบังควรของ “สิ่งมีชีวิตที่ไร้จิตสำนึก/ตะวัน-ทานตะวัน ตัวตุลานนท์” เหตุเนื่องจากเป็นผู้ปกครองและเป็นนายประกันที่ศาลวางเงื่อนไขให้อบรมสั่งสอนดูแลความประพฤติไม่ให้ก่อคดีซ้ำซาก และด้วยความเชื่อได้ว่าเข้าอกเข้าใจ “ตะวัน-ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ แบม-อรวรรณ ภู่พงษ์”เป็นอย่างดีจากวาทกรรมประดิษฐ์เลิศหรูที่ว่า “ทุกครั้งที่ผมไปหาคุณตะวันและคุณแบม ผมมองตาตะวันแล้วเห็นพิพิมลูกสาวของผมอยู่ในนั้น”
แต่ “พิธาคิโอ-พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ก็ไม่แสดงความคิดเห็นและความรับผิดชอบใดๆอีกเช่นเคยทั้งยังพยายามปลีกตัวออกห่างยืนยันหนักแน่นว่าไม่ได้เป็นนายประกันให้เมล็ดพันธุ์ที่ถูกใส่ข้อมูลชุดความคิดที่บิดเบี้ยวกลายเป็นอุปกรณ์การเกษตรเทียมเกวียน
ดั่งภาษิตจีนที่ว่า “งาช้างไม่งอกจากปากสุนัข”... งาช้างย่อมไม่งอกออกมาจากปากวรนุส ก็ฉันนั้น
สำคัญที่สุด...มธุรสวาจา ย่อมไม่ออกมาจากปากอัปรีย์ชนเช่นกัน
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร เรายังเชื่อว่า ความจริงซึ่งมีเพียงหนึ่งเดียวเป็นสิ่งไม่ตายจะต้องปรากฏ
ที่สุด “จดหมายช็อตโน้ต” ฉบับหนึ่งจากอดีตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกลที่ชื่อ “พิธาคิโอ-พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เขียนถึงน้องตะวัน-ทานตะวันตัวตุลานนท์ และ คู่หู-น้องแบม-อรวรรณ ภู่พงษ์2 นักกิจกรรมเคลื่อนไหวประเด็นจาบจ้วงพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ เนื้อหาใจความเราไม่สามารถเปลี่ยนเจตนารมณ์เป็นอย่างอื่นไปได้ลองพิจารณาดูเถิด “ผมคารวะหัวจิตหัวใจความกล้าหาญของทั้งคู่มากๆ ผมเองละอายใจ แต่ต้องยอมรับอย่างตรงไป ตรงมาว่า วันนี้สังคมได้ลืมตาตื่นขึ้นเห็นถึงความวิปริต บิดเบี้ยวของกระบวนการยุติธรรม, ไม่ใช่เพราะผม เพราะพรรคก้าวไกล แต่เพราะพวกคุณ พวกเราทำน้อยเกินไป พวกคุณคือคนผลักดันสังคมมาถึงจุดนี้ … เชื่อเถอะว่าภารกิจของพวกคุณสำเร็จแล้ว สำเร็จอย่างสวยงามที่สุด และผมต้องการให้คุณอยู่ร่วมฉลองชัยชนะของประชาชนร่วมกันกับเราทุกคนขอคารวะในความกล้าหาญของคุณทั้ง 2 คน
ข้อความเหล่านี้สิ่งมีชีวิตที่ไร้สำนึกคงยังจำได้ดีใช่หรือไม่ คงไม่ปฏิเสธข้อความเหล่านี้ดอกหนา
เราอ่านทบทวนไปมาเป็นสิบเป็นร้อยรอบด้วยวาทกรรมเลิศหรู เราคิดได้ในมิติเดียวเท่านั้นว่าเป็นไปตาม “ทฤษฎีสมคบคิด” ท่านทั้งหมดคือกลุ่มคนในอุดมการณ์เดียวกันขบวนการเดียวกัน
ไม่ใช่เพราะเราอคติต่อพรรคก้าวไกล ต่อต้านแนวคิดในการแก้ไข/ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 แต่มันชัดเจนท่านคือคนกลุ่มเดียวกันกลุ่มที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ากระทำการเป็นขบวนการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
เยี่ยงนี้แล้วจะสรรหาวาทกรรมใดมาบิดเบี้ยวข้อเท็จจริงนี้ได้อีก
โปรดจำไว้ “งาช้างย่อมไม่งอกออกจากปากวรนุส” แน่นอน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี