การตัดสินใจก่อสงคราม ไม่ว่าจะเป็นสงครามกลางเมืองหรือสงครามระหว่างประเทศนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับประชาชนพลเมือง หากแต่ขึ้นอยู่กับบรรดาผู้นำผู้ปกครองทั้งหลาย โดยผู้รับเคราะห์กรรมก็ไม่พ้นประชาชนพลเมือง และฉะนั้น ประชาชนพลเมืองหรือชาวโลกโดยทั่วไป จึงต่างต้องการมีชีวิตอยู่ท่ามกลางสันติภาพ และไม่ประสงค์ที่จะใฝ่หา หรือตกไปอยู่กับสถานการณ์สงครามสู้รบใดๆ
โลกวันนี้มีความเจริญก้าวหน้าทั้งทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี มีความเพียงพอในเรื่องอาหารน้ำใช้และยารักษาโรค มีสิ่งบันเทิงที่หลากหลายเข้าถึงได้ง่ายและรวดเร็ว อีกทั้งสิทธิเสรีภาพต่างๆ ก็ได้รับการตอบสนองมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ แต่ความไม่แน่นอนในชีวิตเป็นเรื่องแห่งความจริง โดยปัญหาบางอย่างนั้นมีความหนักหน่วง เป็นที่น่าท้าทายเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะรื่องสภาวะโลกร้อน ภัยธรรมชาติ และโรคระบาดต่างๆ
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ไม่ได้เกินขีดความสามารถหรือสติปัญญาของมนุษย์ที่จะหาทางรับมือ แก้ไข บรรเทาและป้องกันความท้าทายต่างๆ ซึ่งจะสัมฤทธิผลได้ มวลมนุษยชาติก็ต้องร่วมมือกันอย่างแข็งขัน ด้วยความจริงใจและความไว้เนื้อเชื่อใจต่อกัน แต่ประเด็นปัญหาที่ก้าวข้ามได้ยากก็คือ การไร้ซึ่งความสมัครสมานสามัคคีการชิงดีชิงเด่น เอาแพ้เอาชนะกันให้ถึงที่สุด โดยมนุษย์ส่วนนี้ก็คือ บรรดาผู้นำ ผู้ปกครองในประเทศต่างๆ รวมทั้งผู้นำทางศาสนาและลัทธิความเชื่อถือต่างๆ ที่มักจะมีความสุดโต่ง จึงเท่ากับว่าผู้นำของโลกบ่อนทำลายสันติภาพ และมุ่งหักล้างกันด้วยสงครามสู้รบ ซึ่งการสู้รบนั้น เราจะไปแยกแยะว่า เป็นสงครามกลางเมือง หรือจะเป็นสงครามระหว่างประเทศ ก็ยากลำบากเป็นอย่างยิ่ง เพราะในแต่ละสงครามกลางเมือง ก็มักจะมีผู้เข้ามาเกี่ยวข้องจากภายนอก หรือมาเป็นผู้ถือหางคู่อริ ส่งผลให้สงครามกลางเมืองก็กลับกลายเป็นสงครามระหว่างประเทศไปโดยปริยาย
ณ วันนี้ ชาวโลกต้องทนเห็นเพื่อนร่วมโลกรับเคราะห์กรรมจากสงครามและความขัดแย้งที่ซีเรีย เยเมน ลิเบีย ซูดาน พม่า ยูเครน และในขณะเดียวกัน ชาวโลกก็ได้ยินได้ฟังเรื่องผู้นำประเทศต่างๆ ประกาศเพิ่มงบประมาณเพื่อกิจการทหาร ทั้งเพื่อเพิ่มพูนสมรรถภาพขีดความสามารถ และเพื่อการส่งออกสินค้าอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นที่ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เกาหลีเหนือ จีน ออสเตรเลีย อินเดีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ในแถบเอเชียแปซิฟิก ขณะที่ผู้นำสหรัฐฯ แคนาดา อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี โปแลนด์ สาธารณรัฐเช็ก ก็มุ่งเสริมกำลังให้ยูเครนรบต่อไปกับรัสเซีย เสมือนว่าให้ยูเครนสิ้นเนื้อประดาตัว และตายแทนอเมริกาเหนือและยุโรปตะวันตก เพื่อตรึงรัสเซียไม่ให้กำเนิดเติบใหญ่ และอ่อนเปลี้ยไปในที่สุด
ในขณะเดียวกัน อิสราเอลก็ไม่แคร์ว่า ชาวปาเลสไตน์ตาดำๆ ทั้งหลาย จะตายอีกกี่หมื่นกี่พันคน ตราบใดที่อิสราเอลยังสามารถตามเก็บตามฆ่าขบวนการติดอาวุธฮามาสที่เป็นส่วนหนึ่งของชาวปาเลสไตน์ได้วันละคนสองคนไปเรื่อยๆ และในภาพรวมทั้งหมดชาวโลกก็รอดูว่า ระหว่างฝ่ายยิวอิสราเอล กับฝ่ายอาหรับมุสลิม รวมทั้งมุสลิมอิหร่านใครจะกะพริบตาก่อน เพื่อประหัตประหารกันให้ถึงที่สุด
ส่วนจีนนั้นก็ดูไม่ลดละในการทดสอบความอดกลั้นของอินเดีย ของฟิลิปปินส์ ของเวียดนาม ของญี่ปุ่น และของไต้หวัน ด้วยการรุกคืบ ยั่วโทสะด้วยการขยายพื้นที่การลาดตระเวน การซ้อมรบ และกีดกันการประมง เป็นต้น
ทั้งนี้ประเทศผู้ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ต่างก็เร่งการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ และลืมเลือนข้อตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยการลดอาวุธ การไม่เผยแผ่ และการขจัดอาวุธนิวเคลียร์ไปให้หมด อีกทั้งประธานาธิบดี ปูติน ผู้นำรัสเซีย ก็จะมีการพูดจาเชิงขู่เชิงเตือนว่า รัสเซียมีการเตรียมการและพร้อมที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์ป้องกันตนเอง ถ้าสหรัฐฯ และองค์การนาโตเข้ามาคุกคามรัสเซีย โดยใช้เรื่องสงครามรัสเซีย-ยูเครนเป็นข้ออ้าง
และก็เป็นที่น่าผิดหวังที่สื่อสำคัญๆ ของโลกที่เจ้าของเป็นชาวตะวันตก ก็ได้กลับกลายมาเป็นกระบอกเสียงให้กับรัฐบาลต่างๆ ของกลุ่มประเทศตะวันตก ออกข่าวแบบเห็นดีเห็นงามกับเรื่องการใช้กำลังและการเผชิญหน้า แทนที่จะเรียกร้องส่งเสริมให้มีการยุติการสู้รบ ให้มีการพูดจาและเจรจาทางการทูต เพื่อนำมาซึ่งการยุติความขัดแย้งใดๆ ด้วยสันติวิธี
เมื่อชาวโลกจะพึ่งพาผู้นำประเทศและสื่อหลักๆ ของโลกมิได้แล้ว ก็ต้องหันกลับมาพึ่งตนเองเป็นสำคัญ ด้วยการทำตัวเป็นนักสันติภาพ เรียกร้องสันติภาพ และคัดค้านบรรดาผู้นำบ้าการใช้กำลังทั้งหลาย ให้กลับเนื้อกลับตัว เลิกถมงบประมาณไปกับการสะสมอาวุธ แล้วหันมาพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในประเทศแทน พร้อมกับร่วมมือกันในการแก้ปัญหาส่วนกลาง เช่น ปัญหาภาวะโลกร้อน และโรคระบาด
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี