ผ่านไปหลายวันแล้ว สำหรับการอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรีโดยไม่มีการลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ทางนายกฯเศรษฐา ทวีสิน คงจะได้รู้ว่าอะไรของจริงอะไรของปลอม รวมทั้งสถานการณ์เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินที่พึงกระทำได้
ก็ถูกต้องแล้วที่นายกฯเศรษฐา สั่งให้ผู้ใช้บังคับบัญชารวบรวมข้อมูลในการอภิปรายทั้งหมดทั้งที่เชียร์ ทั้งที่เสนอแนะนำไปปรับปรุงแก้ไขในการบริหารประเทศต่อไป และพอเข้าใจกันว่าในซีกของฝ่ายค้านนั้นบางครั้งรุนแรง บางครั้งเลยเถิดแต่ก็แฝงไว้ด้วยเนื้อหาสาระที่จะละเลยไม่ได้
นอกเหนือไปจากสิ่งที่พูดกันในสภาแล้วเสียงสะท้อนข้างนอกเป็นเรื่องที่ต้องรับฟังอย่างยิ่ง โดยเฉพาะจากศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน (ECBER) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดผลสำรวจ “ดัชนีภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนอีสาน ไตรมาส 1/2567 และคาดการณ์ไตรมาส 2/2567” จากการสำรวจระหว่างวันที่ 29 มี.ค. - 1 เม.ย. 2567 จากกลุ่มตัวอย่างอายุ 18 ปีขึ้นไป 1,100 รายในเขตพื้นที่ภาคอีสาน 20 จังหวัด พบว่า ดัชนีภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนอีสาน ไตรมาส 1/2567 (ม.ค. - มี.ค. 2567) เท่ากับ 32.3 เต็ม 100 อยู่ในระดับแย่ลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนที่ 32.8 ขณะที่มาตรการด้านเศรษฐกิจใหม่ๆ ใหญ่ๆ ยังไม่มีผลเป็นรูปธรรม ส่งผลให้คะแนนผลงานรัฐบาลด้านเศรษฐกิจยังคงเท่าเดิมที่ 33.0
ข้อมูลเหล่านี้เป็นตัวเลขทางวิชาการ แต่ สรุปง่ายๆ คืออีสานโพลไม่ได้แฮปปี้การกับทำงานของรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน มากเท่าไหร่นักทั้ง กลุ่มตัวอย่างต้องการให้รัฐบาลแก้ปัญหาให้เห็นผลโดยเร็ว 7 เรื่องที่เร่งด่วน คือ ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ทำให้เศรษฐกิจคึกคัก แจกเงินดิจิทัล บรรเทาปัญหาหนี้สิน แก้ปัญหายาบ้าระบาดลดค่าครองชีพ และเพิ่มรายได้ลดต้นทุนภาคเกษตรนอกจากนี้ พบว่าคะแนนนิยมพรรคก้าวไกลยังนำพรรคเพื่อไทยในอีสาน
มีคำถามว่าทำไมอีสานโพลถึงไม่ค่อยปลื้มกับรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน เท่าที่ควรทั้งๆ ที่อีสานเป็นฐานที่มั่นด้านคะแนนเสียงของพรรคเพื่อไทย จะดีๆ ชั่วๆ ก็ต้องแบกหามกันไปก่อน แต่ในยุคปัจจุบันคำตอบโดยสัจธรรม คือต่อให้รักชอบพอมากแค่ไหน ถ้าบริหารประเทศแล้วถ้ากระทบต่อการดำรงชีวิต เขาก็ไม่เอาด้วยโดยเฉพาะนโยบายทางการเมืองของรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ที่ประกาศไว้แล้วกลับลุ่มๆ ดอนๆ ผิดกับรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ที่ประกาศนโยบายหมู่บ้านละล้าน 30 บาทรักษาทุกโรค บุญเก่าอันนั้นยังได้ช่วยค้ำจุนรัฐบาลเศรษฐา เอาไว้
ผลโพลล์ยังบอกว่า ถ้าเลือกตั้งวันนี้ จะลงคะแนนให้พรรคใด พบว่า คะแนนพรรคก้าวไกลเพิ่มขึ้นจาก 35.1% เป็น 47.4% คะแนน พรรคเพื่อไทย ลดลงจาก 45.7% เหลือ 40.7% คะแนนพรรคภูมิใจไทย ลดลงจาก 4.7% เหลือ 2.4% คะแนนพรรครวมไทยสร้างชาติ ลดลงจาก 5.6% เหลือ 1.9% คะแนน พรรคไทยสร้างไทย ลดลงจาก 1.7%เป็น 1.5% คะแนน พรรคพลังประชารัฐ ลดลงจาก1.2% เหลือ 0.7% คะแนน พรรคประชาธิปัตย์ ลดลงจาก 1.1% เหลือ 0.5% คะแนน พรรคเสรีรวมไทย ลดลงจาก 1.1% เหลือ 0.4% และอื่นๆ ลดลงจาก 1.2% เป็น 0.6% ยังไม่มีพรรคที่ถูกใจ 3.9%
ภาคอีสานมีจำนวนสส.มากที่สุดใครพรรคการเมืองใดได้ครอบภาคอีสานก็มีโอกาสได้เป็นรัฐบาลสูง แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับข้อเรียกร้องของคนอีสาน ที่สอดคล้องกับข้อเรียกร้องของทุกภาคที่ให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหา รัฐบาลโพลล์อย่าชะล่าใจทำตัวเป็นแมลงวันบินไปบินมาโดยไม่ได้สร้างผลงานอะไรดังที่ฝ่ายค้านเหน็บแนม ต้องเร่งแก้ไขวันนี้เพื่อต่อลมหายใจรัฐบาลในวันข้างหน้า
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี