“บุคคลแนวหน้า ในหนังสือพิมพ์แนวหน้า, แนวหน้าออนไลน์/www.naewna.com สื่ออุดมการณ์ มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสามย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ทำความจริงให้ปรากฏ ให้สังคมไทยรู้เท่าทันเล่ห์ทันเหลี่ยม นักการเมืองเสียชาติเกิด, นักเลือกตั้งชังชาติ ส่ำสัตว์ติ่งสัมภเวสี สลิ่มติ่งแดงด้อมส้ม อุปกรณ์ทำการเกษตรที่พร้อมถูกสนตะพายอย่างเท่าเทียม”...

nn พระโคพอพระโคเพียงเสี่ยงทายกินน้ำ หญ้า เหล้า ใน “พิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญในพระราชพิธีพืชมงคล” พยากรณ์ว่า น้ำท่าจะบริบูรณ์พอสมควร ธัญญาหาร ผลาหาร ภักษาหาร มังสาหารจะอุดมสมบูรณ์ ส่วนบริโภคเหล้าพยากรณ์ว่าการคมนาคมจะสะดวกขึ้น ค้าขายกับต่างประเทศดีขึ้น เศรษฐกิจรุ่งเรือง, ส่วนการเสี่ยงทายผ้านุ่งพระยาแรกนาได้ผ้านุ่ง 5 คืบ พยากรณ์ว่า น้ำจะมีปริมาณพอดี ข้าวกล้าในนาจะได้ผลบริบูรณ์ และผลาหาร มังสาหารจะอุดมสมบูรณ์ดี... คำพยากรณ์จะเป็นผลแค่ไหนขึ้นอยู่ว่ารัฐบาลจะเป็นโล้เป็นพายแค่ไหนกับการบริหารประเทศ หากยังสาละวนอยู่กับการเคาะกะลาเติมเงินหมื่นผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ก็ยากจะคาดเดา...

nn ประกาศิต “ยักษ์ปักหลั่น–เศรษฐา ทวีสิน”...“นำกัญชากลับมาเป็นยาเสพติด” คือเก่า...ดู “หมอหนู–อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เจ้าของนโยบาย “กัญชาเสรี” กับทฤษฎี “อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอเวลาไปต่อ”...

nn “หมอหนู” มองว่า “การนำกัญชากลับมาเป็นยาเสพติด ไม่ทำให้เกิดความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล ยันนายกฯ พูดไม่ผิดเพราะทุกฝ่ายต้องทำเพื่อประชาชน” ฉวยสถานการณ์พลิกเกมเร่งออกกฎหมายกัญชาหลังตกม้าตายในสภาฯชุดที่ 25 พร้อมวาทกรรม “ถูกหักหลัง” จนกลายเป็นพฤติกรรม “แตกหัก” ในการเลือกตั้งต่อมา...

nn มาถึงวันนี้พอ “เป็ดง่อย–เศรษฐา ทวีสิน” เกิดระคายคอ ไอกระแอมจะเอา “กัญชา” กลับเข้าบัญชียาเสพติด...“หมอหนู” อยู่เป็นให้สัมภาษณ์ ประเด็นนี้อย่างรื่นหูอยู่เป็นจนนายกฯเคลิ้ม ลิ่วล้อก็ไม่แตกแถวออกอาการ “ขี้ข้าพลอย” เป็นก็ยังเอาผลประโยชน์ที่ประเทศชาติได้รับมาแสดงให้เห็นเหมือนจะโต้แย้งเล็กๆ เมื่อคิดว่า“ผลประโยชน์ประชาชน” เป็นที่ตั้ง ก็ต้องรอการหารือกัน ...“ไม้หน้าสาม” มั่นใจ “กัญชาเสรี” ยังคงเอกลักษณ์ต่อไป แต่จะเร่งดันกฎหมายรองรับที่ไม่มาตามนัดในสภาชุดที่ 25 มาดำเนินการโดยพลัน...

nn “เป็ดง่อย–เศรษฐา ทวีสิน”นายกรัฐมนตรีขนลิ่วล้อบริวารอุปโลกน์สัญจรแบบ “นกขมิ้น” รับทราบปัญหาประชาชนยัง 4 บุรี “สุพรรณบุรี, กาญจนบุรี, ราชบุรี และเพชรบุรี (ประชุมครม.) ตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา “พี่เบิร์ด–ประภัตร โพธสุธน” ศิษย์เก่าคณะเรา/อำนวยศิลป์โชว์เพาแทน “หลงจู๊เบ๊เต็กเซียง/บรรหาร ศิลปอาชา” บ้านใหญ่สุพรรณ/อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 21 ที่ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อปี 2559 จัดยิ่งใหญ่ ขนผู้นำท้องถิ่น ชาวสุพรรณบุรีกว่า 500 คน แห่กลองยาว ต้อนรับ “เป็ดง่อย–เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ที่มาเยือนบ้านเรือนไทยโพธสุธนชื่นมื่น จัดสำรับพื้นบ้าน 17 เมนูเด็ด เลี้ยงมื้อเย็นฐานะนายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ได้มาเยือน พรรณนา เป็นประวัติศาสตร์การเมืองเพื่อไทย VSชาติไทยพัฒนา อยู่ด้วยกัน ช่วยเกื้อหนุนทางการเมืองกันมาอย่างอบอุ่น ทั้งหลายทั้งปวงนี่คือ บารมี+ศรัทธาต่อ “เบ๊เต็กเซียง–บรรหาร ศิลปอาชา” โดยแท้...

nn ประเด็นข้าวเก่าเก็บโกดังกว่า 10 ปี ถูกฟื้นฝอยหาตะเข็บอีกครั้งประเด็น “ข้าวการเมือง” ยิ่งเจอข้อความที่ “หมอสัตว์รัฐบาล–ชัย วัชรงค์” นำออกสู่สื่อโซเชียลเพียงเพื่อตอกย้ำว่าเกษตรกรชาวนา, มวลมหาประชาชนกว่า10 ล้านคน ที่รวมตัวกันขับไล่ “ปูจ๊าดง่าว–ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” และ “พรรคเพื่อไทย” ในครั้งนั้นเป็นความเขลาให้กลุ่มคนบางกระบวนการลวงโลกสนตะพายว่าข้าวยุคนั้นเป็น “ข้าวเน่า” คุณหมอทำงานหนักจนเกิดอาการผิดปกติใดหรือไม่...

nn โครงการนี้ชาวนาไม่ได้ประโยชน์อย่างที่นำเสนอ วันนี้ 10 ปีผ่าน ยังมีเกษตรกรถือใบประทวนที่ไม่ได้เงินอีกจำนวนไม่น้อย ถือไว้เตือนสติตนเองว่า “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” ผลเป็นอย่างไร ถ้าเงินถึงชาวนาให้หน้าชื่นตาบาน จะมีโศกนาฏกรรม/อัตวินิบาตกรรมผูกคนตาย เป็น 10 รายงั้นหรือท่านสัตวแพทย์ผู้เปี่ยมล้นสติปัญญาจะมีชาวนาอย่าง “นางนวลจันทร์ ญาติประทุง” ราษฎรตำบลทุ่งใหญ่ อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร ขึ้นเวทีน้ำตาพรากอาบแก้มวิงวอนให้ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์จ่ายค่าข้าวจำนำจำนวน 280,000 บาท ชีวิตอดสูต้องกินมะละกอจิ้มปลาร้าประทังชีวิต เยี่ยงนี้หรือที่ท่านสัตวแพทย์รัฐบาลบอกว่ารู้เรื่องดีเกษตรกรชาวนารับประโยชน์เต็มที่ รัฐบาลใช้งบประมาณจ่ายให้เกษตรกรอิ่มหมีพีมัน จริงหรือ !?!?!...

nn ท่าน “หมอสัตว์รัฐบาลชัย วัชรงค์” ทราบหรือไม่ โครงการรับจำนำข้าวทุกเม็ดที่ระบุว่ามีกระบวนการปั่นวาทกรรมให้ข้าวเป็นข้าวการเมือง “ข้าวเน่า” เวลานั้น “รัฐบาล” รับจำนำราคาตันละ 15,000 บาท สูงกว่าราคาตลาดโลก หนึ่งเท่าตัว ทำให้ราคาข้าวของไทยสูงกว่าคู่แข่งในตลาดโลกมาก ส่งผลให้ครึ่งแรกของปี 2555 ไทยส่งข้าวออกไปได้เพียง 3.45 ล้านตัน ลดลงจากเมื่อก่อนหน้าเกือบครึ่งหนึ่ง และในปีนั้นไทยก็เสียอันดับผู้ส่งออกข้าวอันดับหนึ่งของโลก โดยมีคู่แข่งคืออินเดียและเวียดนามแซงหน้าไปมี “ส่ำสัตว์ติ่งสัมภเวสี” จำนวนไม่น้อยเกิดคำถามที่น่าขันน่าสมเพช อย่าง “เหวง โหวกเหวก/เหวง โตจิราการ” เสื้อแดงตัวพ่อผู้เคยประกาศเสียงแข็ง “...ไม่เคยเห็นกองกำลังติดอาวุธชุดดำในม็อบคนเสื้อแดง...”ตั้งคำถามว่า รัฐบาลเผด็จการประยุทธ์ จันทร์โอชา บริหารประเทศมา 8-9 ปี ปล่อยข้าวค้างสต๊อก 10 ปีจำนวนมหาศาลเพราะโง่, ขายไม่เป็น หรือวางยายิ่งลักษณ์ และรัฐบาลปัจจุบัน สาธารณชนต้องได้คำอธิบาย ใครรับผิดชอบข้าวเก็บโกดังมาตั้ง 10 ปี ราว 18 ล้านตัน หากเป็นอย่างเสียงสำรอกสำรากของผู้รับผิดชอบในปัจจุบันก็จะเหลือข้าวอยู่ราว 15,000 ตัน นั่นหมายความว่ามีการประมูลข้าวและส่งออกไปยังตลาดโลกจำนวนมากมายเลยไม่แน่ใจว่าคนที่กล่าวหาว่ารัฐบาลพลเอกประยุทธ์โง่ขายสินค้าไม่เป็น หรือวางยาแกล้งยิ่งลักษณ์และรัฐบาลพรรคเพื่อไทยนั้นเป็นผู้เฒ่ากะโหลกกะลาหรือเปล่า...

nn ทิ้งท้าย “ไม้หน้าสาม” นักเรียนเก่าอำนวยศิลป์ (รุ่นลูกป๋า 52)ขอกราบและส่งดวงวิญญาณคุณครูแม่ “อาจารย์ทองทิพย์ พงษ์รูป” ยังสัมปรายภพและขอเผยแพร่กำหนด “พระราชทานเพลิงศพคุณครูทองทิพย์ พงษ์รูป บ.ช., บ.ม.” อังคารที่ 14 พฤษภาคม 2567 เวลา 14.00 น. ณ เมรุวัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร...nn

ไม้หน้าสาม