มีข้อสังเกตว่า ในหลายๆ ประเทศกำลังพัฒนาใครก็ตามเมื่อได้ก้าวขึ้นมาเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ก็มักจะคิดถึงเส้นทางและอนาคตของลูกหลานตนเองในเวทีการเมือง ในการที่จะสืบทอดอำนาจ และเจตนารมณ์ของตน ปรากฏการณ์นี้ในยุคประวัติศาสตร์ร่วมสมัยต่างเกิดขึ้นที่ ประเทศลิเบีย อียิปต์ ซีเรีย ปากีสถาน และศรีลังกา ซึ่งสุดท้ายแล้วมักจะล้มหายตายจากกันไป ทิ้งไว้ซึ่งความสับสนวุ่นวายให้กับบ้านเมืองของตน
แม้บางประเทศ ครอบครัวหรือราชวงศ์การเมืองอาจประสบความสำเร็จในการคงอำนาจ ตราบใดที่ผู้พ่อนั้นยังสามารถคงไว้ซึ่งอำนาจและอิทธิพลอยู่ แต่อนาคตก็หามีความแน่นอนไม่ และมักจะทิ้งไว้ซึ่งชนวนแห่งความยุ่งเหยิงของบ้านเมืองต่อไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะบรรดาลูกหลานที่เข้ามารับอำนาจต่อจากผู้บิดา ก็มักจะอ่อนประสบการณ์ กระดูกไม่แข็ง ไม่มีบารมีเป็นของตัวเอง ที่จะทำให้ได้รับความศรัทธาและการยอมรับนับถือ ถึงอย่างนั้นก็ตาม บรรดาราชวงศ์การเมืองเหล่านี้ต่างก็คิดจะกอบโกยความมั่งมีมั่งคั่งไปให้ได้มากเสียก่อนแล้วค่อยไปตายเอาดาบหน้า
ที่ประเทศกัมพูชา สมเด็จฯ ฮุน เซน ผู้นำกัมพูชาตลอดกาล เพิ่งจะประสบความสำเร็จในการปูทางให้สมเด็จฯ ฮุน มาเนต ได้ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของกัมพูชา โดยมีสมเด็จฯ ฮุน เซน ผู้พ่อคุ้มศีรษะอยู่จนกว่าชีวิตของเขาจะหาไม่
ที่ประเทศอินโดนีเซีย ประธานาธิบดีโจโคโว ก็สามารถวางตัวให้บุตรชายคนโตขึ้นมาดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี คู่กับ นายพล ปราโบโว ซูเบียนโต ประธานาธิบดีคนใหม่ของอินโดนีเซีย ในเดือนตุลาคมนี้โดยการเปลี่ยนแปลงข้อบังคับว่าด้วยอายุขั้นต่ำของผู้ที่จะดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี ให้ต่ำกว่าอายุ 39 ปีได้
ที่ประเทศฟิลิปปินส์ นางอีเมลดา มาร์กอส อดีตสตรีหมายเลข 1 ของฟิลิปปินส์ และวุฒิสมาชิกตลอดกาลของฟิลิปปินส์ ก็สามารถใช้ชื่อเสียงของผู้สามี นายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส อดีตประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์ และอิทธิพล และเครือข่ายของตระกูลมาร์กอส ประคับประคองให้นายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ บุตรชายคนโตของตนให้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนปัจจุบันของฟิลิปปินส์ได้
ที่ประเทศเกาหลีเหนือ ประธานาธิบดี คิม จอง-อึน ก็กำลังฟูมฟักบุตรสาว (เด็กหญิง คิม จู-แอ) ให้ขึ้นมาเป็นผู้นำเกาหลีเหนือคนต่อไป
ที่ประเทศไทย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เจ้าของพรรคเพื่อไทย และก่อนนี้พรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน ก็ได้ปั้นให้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ขึ้นมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และรอการขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของราชอาณาจักรไทย
ทั้งนี้ในหลายๆ ประเทศ เช่นที่ จีน ญี่ปุ่น และลาว ก็มักจะมีลูกหลานแบบครอบครัวการเมือง ที่มีตำแหน่งทางการเมืองทั้งในพรรคและในคณะรัฐบาล และต่างก็มีโอกาสที่จะเติบใหญ่ในอนาคต ซึ่งในแง่หนึ่งก็ดูเป็นเรื่องธรรมดาๆ แต่ในขณะเดียวกันก็มีการเคลื่อนไหวผลักดันที่จะให้ได้ผู้นำทางการเมืองที่มาจากระบบคุณธรรม หรือจากระบบการคัดกรองบนพื้นฐานของขีดความสามารถ (Meritocracy) ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่ดี และจะต้องติดตามกันต่อไป
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดดังกล่าวนี้ ก็เป็นเรื่องของบิดามารดาผู้ยิ่งใหญ่ ที่ห่วงอนาคตของลูกหลานมากกว่าอนาคตของประเทศชาติ ในขณะที่ประเทศจีนนั้นมีความเป็นพิเศษในแง่ที่ว่า ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง มิได้มีทีท่าที่จะให้บุตรสาว (สี หมิงเจ๋อ) ซึ่งขณะนี้ศึกษาในระดับปริญญาตรีอยู่ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา ก้าวขึ้นมาเป็นทายาททางการเมืองแต่อย่างใด แต่ยังกับพยายามปกป้องคุ้มครองและป้องกันมิให้บุตรสาวต้องตกเป็นข่าวใดๆ เช่น ในการจัดเลี้ยงอาหารกับผู้นำ หรือนักธุรกิจรายใหญ่จากต่างประเทศ แม้จะมีบุตรสาวเข้าร่วมด้วย แต่ในการถ่ายภาพเป็นที่ระลึกใดๆ นั้น จะสังเกตได้ว่าไม่มีบุตรสาวร่วมเฟรมอยู่ด้วยเลย ซึ่งก็จัดได้ว่าเป็นการดำเนินการที่ถูกที่ควร ที่ไม่เอาเรื่องครอบครัวไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการการเมือง และในการนี้ก็เท่ากับเป็นการปกป้องคุ้มครองบุตรสาวให้มีชีวิตแบบธรรมดาๆ เหมือนครอบครัวทั่วไป และยังช่วยไม่ให้เป็นที่ครหานินทา หรือตกเป็นเป้าทางการเมืองแต่อย่างใด บ่งบอกซึ่งความรักและหวงแหนของพ่อแม่ต่อลูกหลาน แทนที่จะเคี่ยวเข็ญและผลักดันให้ไปตกอยู่ท่ามกลางสังคมการเมืองของการแข่งขัน ชิงดีชิงเด่น ประหัตประหารต่อกัน และเป็นวิบากกรรมโดยใช่เหตุ
ทั้งนี้ ก็อดคิดไม่ได้ว่า การส่งลูกหลานเข้าสู่สนามการเมืองนั้น น่าจะเป็นการทำร้ายลูกหลานมากกว่า แทนที่จะปกป้องคุ้มครอง และส่งเสริมให้มีชีวิต มีความเป็นธรรมดาสามัญ และในกรณีของไทยเรา ในแง่หนึ่งผมเองก็เห็นใจคุณแพทองธาร และในอีกแง่หนึ่ง ก็สงสัยว่าทำไมคุณทักษิณถึงจะต้องไปสร้างวิบากกรรมให้กับลูกหลานตนเองอีก ซึ่งผมก็หวังว่าทั้งคุณทักษิณ และคุณแพทองธาร จะได้ลองใช้สติทบทวนตนเองในเรื่องนี้
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี