พลันที่มีกระแสข่าวกระเซ็นกระแซ่ออกมาว่า“เนติพร เสน่ห์สังคม/บุ้ง ทะลุวัง” นักกิจกรรมด้อยประสบการณ์ออกอาการโคม่า จนโรงพยาบาลราชทัณฑ์ต้องนำตัวส่งต่อไปยังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ รังสิต เพื่อยื้อชีวิตแต่ร่างกายไม่ตอบสนอง จนแพทย์ไม่พบสัญญาณชีพ ทำให้ผู้ป่วยจากไปอย่างสงบ
จะมีใครสักคนไหมคิดว่า ท่ามกลางการสูญเสียครั้งนี้ มีนักการเมืองชังชาติ, นักอุดมคตินิยม,พรรคการเมืองบางพรรคฉกฉวยร่างไร้วิญญาณนี้มาทบเป็นบันได ตะเกียกตะกายปีนป่ายสู่ดวงดาวที่เขียนฝัน
“ช่อ-พรรณิการ์ วานิช”อดีตท่านผู้ทรงเกียรติ นักการเมืองที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาประหารชีวิตทางการเมืองราวเดือนกันยายน 2566 ฐานความผิดโพสต์ข้อความลักษณะไม่เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้ในเฟซบุ๊กของตนเอง ก็ใช้จังหวะความสูญเสียออกมาให้ข้อเท็จจริงการเสียชีวิตครึ่งหนึ่ง บิดเบือนครึ่งหนึ่ง
ไม่ต่างจากข้อความของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ที่บิดเบือนการเสียชีวิตของ “บุ้ง ทะลุวัง”อย่างสิ้นเชิง เช่นเดียวกับแถลงการณ์พรรคก้าวไกลที่บิดเบือนเหตุการเสียชีวิตนี้อย่างชัดเจน ซ้ำดิสเครดิตกล่าวหากระบวนการยุติธรรมของไทยอีกครั้ง
“ในสังคมประชาธิปไตย สิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชนต้องได้รับการรับรอง ไม่ควรมีใครต้องติดคุกเพียงเพราะเห็นต่างทางการเมือง ไม่ควรมีใครถูกปฏิเสธสิทธิในการได้รับประกันตัวซึ่งเป็นสิทธิที่รัฐธรรมนูญให้การรับรอง เพียงเพราะเห็นต่างทางการเมือง และไม่ควรมีใครถูกผลักให้ต้องต่อสู้ด้วยวิธีการที่เสี่ยงเป็นอันตรายต่อชีวิต”
ดูกรท่านผู้เจริญ การเสียชีวิตของ “เนติพร เสน่ห์สังคม/บุ้ง ทะลุวัง” ไม่ได้มีเหตุมาจากความเห็นต่างทางการเมืองจนต้องติดคุก แต่เป็นเพราะนางกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา และไม่ได้ถูกปฏิเสธสิทธิการได้รับการประกันตัว ซึ่งเป็นสิทธิที่รัฐธรรมนูญให้การรับรอง นางยังเป็นผู้บริสุทธิ์ที่ถูกคุมขังระหว่างการพิจารณาคดี เสมือนผู้ต้องหาคดีทั่วไป
ที่สำคัญแทบไม่มีผู้ต้องหาที่เห็นต่าง ที่ละเมิดผิดพลาดฝ่าฝืนประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ถูกกีดกันไม่ให้ประกันตัวตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ แต่มีผู้ถูกถอนประกันหลังจากที่กระทำความผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าและผิดเงื่อนไขที่ให้ไว้กับศาลเมื่อครั้งได้รับการประกันตัว “พิธาคิโอ/พิธา ลิ้มเจริญรัตน์”นักการเมือง/อดีตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีซึ่งเคยเป็นนายประกันน่าจะรู้ซึ้งและเข้าใจเงื่อนไขและบทบาทนี้เป็นอย่างดี
“ตะวัน-ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ แฟรงค์-ณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร” เป็นอีกสองผู้ต้องหาที่กระทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าในฐานความผิดเดิมๆ และเลือกที่จะปฏิบัติตนระหว่างถูกคุมขังในขณะพิพากษาคดีด้วยการอดอาหารอดน้ำเฉกเช่นที่ “เนติพร เสน่ห์สังคม/บุ้ง ทะลุวัง”ปฏิบัติที่สุดเมื่อร่างกายทานทนไม่ไหวก็เสียชีวิตอย่างสงบตามหลักการ/อุดมการณ์ของตนเอง
นี่คือข้อเท็จจริงที่สังคมไทยควรรับรู้และตระหนัก
สังคมไทยไม่ควรรับรู้พฤติกรรมที่บิดเบือน เอาร่างไร้วิญญาณของเยาวชนผู้เป็นผลผลิตที่ด้อยประสบการณ์ทางการเมืองจนง่ายต่อการถูกล้างสมองให้เป็นเครื่องมือทางการเมืองของฝ่ายอุดมคตินิยมระหว่างมีชีวิต และถูกนำมาทบเป็นบันไดให้นักการเมืองสามานย์ตะเกียกตะกายก้าวเหยียบก้าวข้ามไปยังดวงดาวที่จินตนาการขึ้น
อย่าหาทำเอาศพมาทบเป็นบันไดตะเกียกตะกายเหยียบก้าวข้ามไปยังดวงดาวเป้าหมาย
ท่านจะไม่ใช่แค่นักการเมืองสามานย์ แต่เป็นเดรัจฉานที่ไร้สามัญสำนึก
ในวันที่จิตสำนึกเดรัจฉานครอบงำนักการเมืองสามานย์ เรายังรู้สึกขอบคุณและชื่นชม “ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนบ้านกาญจนาภิเษก กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนที่เขียนข้อความแสดงความอาลัยเสียใจต่อการสิ้นลมหายใจของ “เนติพร เสน่ห์สังคม/บุ้ง ทะลุวัง” ได้อย่างอบอุ่น
“...ความเศร้าโศกในวันนี้ของทุกคน จะเปลี่ยนแปลง จะตกผลึกเป็นความทรงจำ เป็นแรงบันดาลใจ เป็นพลังในการเดินทางไกล แล้วพบกัน ... เยาวชนที่เสียสละและกล้าหาญแห่งยุคสมัย...”
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี