อาทิตย์ก่อนคอลัมน์ ทวนกระแส วิเคราะห์ข่าวว่า ทักษิณ ชินวัตร จุ้นจ้านเรื่องสงครามกลางเมืองพม่าเพื่อขัดขวางความคืบหน้าการแก้ปัญหาวิกฤตการเมืองพม่าของอาเซียน วันนี้เสนอมุมมองของสื่อตะวันตกที่ชี้ว่า ทักษิณจุ้นจ้านเรื่องพม่ามากไปน่าจะมีแรงผลักดันจากความพล่านทางการเมือง และผลประโยชน์เรื่องเงิน
The Interpreter สื่อออนไลน์ โดย CRAIG KEATING รายงานวันที่ 12 พฤษภาคม ว่า “ทักษิณ ชินวัตร จุ้นจ้านเรื่องพม่าน่าจะเกิดจากแรงผลักดันทางการเมืองและเรื่องเงิน” Keating โปรยข่าวว่า “นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทักษิณ ชินวัตร แสดงให้สมุนบริวารเห็นว่า เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญทางการเมืองผู้เก่งกล้าสามารถ อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย เสนอตัวเป็นคนกลางแก้ปัญหาสงครามกลางเมืองพม่า ดูเหมือนว่า การเคลื่อนไหวของทักษิณครั้งนี้ น่าจะมีแรงผลักดันทางการเมืองและผลประโยชน์ทางการเงินส่วนตัว แต่ความสัมพันธ์ของเขากับผู้นำทหารพม่าอาจเป็นชนักติดหลังฉุดรั้งการอ้างว่า ตนเป็นนายหน้าโดยสุจริต”
Keating ให้รายละเอียดว่า วันที่ 6 พฤษภาคมSalween Press สื่อพม่ารายงานว่า ทักษิณได้พบกับผู้แทนชาติพันธุ์บางกลุ่มและ เอ็นยูจี ซึ่งเป็นรัฐบาลเงาพม่า ทักษิณกลับบ้านจากการลี้ภัยในต่างประเทศหลายปี เมื่อเดือนสิงหาคมปีกลาย และเก็บตัวอยู่ในโรงพยาบาลตำรวจ ถึงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา การพบกับฝ่ายต่อต้านบางกลุ่มของเขาได้รับการยืนยันกลายๆ จากรัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ว่า รัฐบาลไทยไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือแทรกแซงการเคลื่อนไหวของนายทักษิณ
ทักษิณแสดงตนเป็นผู้นำตัวจริงของพรรคเพื่อไทยที่มีลูกสาวแพทองธาร เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แพทองธารเดินตามรอยบิดา และอาปู- ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นอกจากนั้น ทักษิณมีรัฐมนตรีต่างประเทศ เป็นคนใกล้ชิด ผู้ไม่กล้าขัดใจนายใหญ่ การแทรกแซงกิจการภายในพม่าของทักษิณ ไม่ใช่เรื่องใหม่ เขาเคยทำเรื่องแทรกแซงมาแล้วหลายครั้งเพื่อเสริมสร้างบารมีให้สมุนบริวารและผู้คนที่ศรัทธาเห็นว่าเขาเชี่ยวชาญเกมการเมือง เช่น ปี 2552 ขณะที่ทักษิณ เป็นนักโทษหนีศาล ฮุนเซน ผู้นำตลอดกาลกัมพูชา แต่งตั้งเขาเป็น ที่ปรึกษาเศรษฐกิจ และในปีเดียวกันครอบครัวของเขาคุยว่า รัฐบาลศรีลังกา ก็มีแผนการแต่งตั้งทักษิณเป็น ที่ปรึกษาเศรษฐกิจ เช่นกันอย่างไรก็ตาม ทางศรีลังกาปฏิเสธคำกล่าวอ้างนั้น
ปี 2555 ขณะที่ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวเป็นนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ได้พบกับตัวแทนกลุ่มก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ในประเทศมาเลเซีย เพื่อกรุยทางให้ยิ่งลักษณ์ได้พบปะเจรจากับผู้แทนกลุ่มบีอาร์เอ็น แต่การพบปะกันครั้งนั้นไม่ได้เกิดมรรคผลใดๆเนื่องจากว่า ทักษิณไม่มีข้อเสนออะไรใหม่แตกต่างไปจากที่ทางการไทยเคยเจรจากับฝ่ายขบถมาหลายปี และความรุนแรงยังดำเนินต่อไป ตามข้อมูลขององค์กรเอกชนที่ศึกษาปัญหาความรุนแรงชายแดนใต้บ่งชี้ว่า พฤติกรรมในอดีตของทักษิณเป็นชนักติดหลังทำให้ฝ่ายขบถเห็นว่ายากที่เขาจะเป็นคนกลางโดยสุจริต
ปี 2547 หลังจากชาวมุสลิม 78 คน ขาดอากาศหายใจตายในรถบรรทุกทหาร (7 คนถูกยิงตาย) :วันที่ 25 ตุลาคม 2547 ชาวมุสลิมประท้วงเรียกร้องให้ปล่อยผู้ต้องหาปล้นปืน 6 คน ที่อำเภอตากใบผู้ประท้วงนับร้อยคนถูกจับมือไพล่หลัง แล้วให้นอนทับซ้อนกันในรถบรรทุกทหาร เป็นเหตุให้มีเสียชีวิตระหว่างทาง : ผู้เขียน : Keating สาธยายว่า “ทักษิณโทษเหยื่อเคราะห์ร้ายว่า เสียชีวิต เพราะอ่อนเพลียจากการอดอาหารระหว่างถือศีลอด” ทักษิณไม่ยอมขอโทษ และพูดในตอนนั้นว่า “ผมชื่นชมหน่วยปราบจลาจลที่ปฏิบัติตามคำสั่ง...ต้องใช้กำปั่นเหล็กต่อผู้ก่อความไม่สงบ” นั่นคือชนักติดหลังทักษิณที่ทำให้ฝ่ายขบถไม่ไว้ใจ
ดังนั้นการแทรกแซงสงครามกลางเมืองพม่าของทักษิณอาจทำลาย หรืออย่างน้อยทำให้ความพยายามของทางการไทยในการแก้ปัญหาสงครามกลางเมืองในพม่าเขวออกนอกลู่นอกทางได้ นอกจากนั้นกลุ่มชาติพันธุ์ในพม่าและเอ็นยูจี อาจมองทักษิณด้วยสายตาหวาดระแวง พวกเขาคงรู้ว่า ทักษิณเป็นมิตรกับพลเอกมิน อ่อง หล่าย และเขาเป็นญาติดีกับผู้นำกองทัพพม่าหลายคน
ปี 2554 ทักษิณได้พบกับ พลเอกเต็ง เส่ง ประธานาธิบดีพม่าและอดีตประธานาธิบดีพลเอกอาวุโสตาน ฉ่วย ในนครย่างกุ้ง : ตาน ฉ่วยนายพลวัย 90 ปี ผู้มีบารมีเหนือรัฐบาล และกองทัพพม่าในอดีตและปัจจุบัน : ผู้เขียน และผู้นำฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารพม่า คงรู้ด้วยว่า ทักษิณมีข้อตกลงพิเศษกับกองทัพพม่า ทักษิณเคยกดดันรัฐมนตรีต่างประเทศ ให้อนุมัติเงินกู้4,000 ล้านบาท (US$ 139 million) ให้พม่าปี 2547เงินกู้จำนวนนั้น ส่งมอบผ่านทางบริษัทครอบครัวทักษิณ ที่ให้เช่าบริการสัญญาณดาวเทียมแก่บริษัทของลูกชาย นายพลขิ่น ยุ้นต์ อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าหน่วยสืบราชการลับพม่า และเคยมีรายงานว่าพลเอกมิน อ่อง หล่าย มอบที่ดินให้ทักษิณแปลงหนึ่งในเมืองย่างกุ้ง
Keating บรรยายต่อไปว่าไม่มีทางรู้ตลอดมาว่า เป้าหมายทางการเมืองของทักษิณ คืออะไร จะจบลงตรงไหน แต่เป้าหมายการกอบโกยของเขาเริ่มขึ้นทันทีที่มีแผนการใหม่ปี 2552 ทักษิณให้สัมภาษณ์ หนังสือพิมพ์ฝรั่งเศส Fugaro ขณะที่ สมุนบริวารของเขาเคลื่อนไหวประท้วงที่ทางการไทยที่ดำเนินคดียึดทรัพย์สินมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ ทักษิณพูดกับ Fugaro ว่า “ประชาธิปไตยเป็นสัญลักษณ์ของเสรีภาพภราดรภาพ เหมือนพวกคุณในประเทศฝรั่งเศส” ก่อนจะกล่าวเพิ่มเติมว่า “แต่มันก็จำเป็นเหมือนกันที่ต้องเอาเงินซึ่งถูกอายัดของผมคืน”
ความจำเป็นที่ต้องเอาเงินถูกอายัดคืนมาคงเป็นแนวคิดเช่นเดียวกันกับการแทรกแซงสงครามกลางเมืองพม่า ที่มีรายงานว่า ทักษิณมีผลประโยชน์ทางธุรกิจหลายด้าน ตามรายงานของอิระวดีสื่อออนไลน์ ที่ก่อตั้งโดยผู้สื่อข่าวพม่าลี้ภัยต่างแดนว่าทักษิณที่ทรัพย์สินอยู่ในทวาย และเมืองเมียนโม (maynmo) ตลอดถึงผลประโยชน์จากน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในพม่า จึงไม่น่าจะเป็นไปได้ว่า แผนการล่าสุดของทักษิณจะสร้างสันติภาพให้พม่าแทนเงินปันผล จากความจริงที่เขามีความสัมพันธ์เป็นส่วนตัวกับผู้นำการยึดอำนาจ การเคลื่อนไหวของเขาจึงน่าจะเป็นผลประโยชน์ทางการเงินมากกว่า
การแทรกแซงของทักษิณ อาจทำลาย หรืออย่างน้อยได้ทำให้ความพยายามของเจ้าหน้าที่ไทยในการแก้ปัญหาสงครามกลางเมืองพม่าเขวออกนอกแนวทางที่ทำมาได้ มากกว่านั้น มันอาจนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทยกับผู้ครองอำนาจในพม่า และการเคลื่อนไหวล่าสุดของเขาอาจปลุกเร้าคำถามที่น่ากลัวของฝ่ายก้าวหน้าในประเทศไทย ที่กระตือรือร้นอยากเห็นมุมมองถูกต้องด้านนโยบายต่างประเทศ
กล่าวโดยสรุป คือ นาย Giag Keating ระบุว่า การเสนอตัวเป็นผู้เจรจากับกลุ่มชาติพันธุ์พม่าของทักษิณ ไม่เกิดมรรคผลใดๆ แก่ทุกฝ่ายเนื่องจากว่าการเคลื่อนไหวของทักษิณ มีแรงผลักดันทางการเมืองและผลประโยชน์ทางการเงิน และการแทรกแซงของทักษิณ อาจเป็นการทำลาย หรือทำให้การแก้ปัญหาวิกฤตการเมืองในพม่าของไทยเขวออกนอกทางที่ทำมาได้ การเสนอตัวเป็นคนกลางเจรจากับกลุ่มชาติพันธุ์และรัฐบาลเงาพม่า อาจล้มเหลวเหมือนการจัดให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พบปะกับผู้แทน BRN เพื่อแก้ปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งไม่เกิดมรรคผลใดๆ เนื่องจากว่าฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบระแวงไม่ไว้วางใจทักษิณ ที่เคยใช้มาตรการกำปั่นเหล็กในการแก้ปัญหา
ดังนั้นการพบปะกับฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารพม่า รังแต่จะสร้างความระแวงสงสัยให้ทุกฝ่าย เพราะกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ น่าจะรู้ดีว่า ทักษิณมีผลประโยชน์อยู่ในพม่ามากมายมหาศาล ที่สำคัญทักษิณเคยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้นำรัฐบาลทหารพม่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งพลเอกมิน อ่อง หล่าย ที่เคยมีรายงานว่า ยกที่ดินแปลงหนึ่งในเมืองย่างกุ้งให้ทักษิณ
นาย Keating ถึงได้ฟันธงว่าทักษิณจุ้นจ้านในสงครามกลางเมืองพม่า มาจากความกระสันโชว์ความเชี่ยวชาญในเกมการเมืองและที่สำคัญการเคลื่อนไหวของเขาเพื่อผลประโยชน์ทางการเงินเท่านั้น
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี