พรรคเพื่อไทยใช้วาระครบ 10 ปี การรัฐประหารของคณะ คสช.ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 มาโจมตีแบบบิดเบือนข้อเท็จจริงชนิดที่ฟอกขาวให้พรรคเพื่อไทย และนักโทษเด็ดชาดชายทักษิณ ชินวัตร รวมทั้ง“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ให้ดูดีบริสุทธิ์ผุดผ่องในสายตาประชาชน
ดูจากแถลงการณ์ของพรรคเพื่อไทย ที่ระบุว่า การยึดอำนาจของ คสช.เมื่อสิบปีที่แล้วเป็นการผลักประเทศให้เดินถอยหลังไปสู่ความถดถอย โดยพูดอย่างหล่อ ๆ จากการแถลงของนายดนุพรปุณณกันต์ ในฐานะโฆษกพรรคเพื่อไทย ที่เป็นพระเอกเก่าและเป็นสามีของดาราสาวชื่อดังเมื่อในอดีต ว่า“สิ่งที่เราสูญเสียไปคือ ‘โอกาสของประเทศ’ ทั้งที่สามารถประเมินมูลค่าได้และอีกนานัปการที่ประเมินมูลค่าไม่ได้”
ข้อบิดเบือนก็คือ การรัฐประหารในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เป็นเพราะ ช่วงสุดท้ายของ“รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ระหว่างปี 2556-2557 การเมืองไทยอยู่ในสภาพวิกฤตปัญหาใหญ่คือคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว และเงื่อนไขสำคัญคือความพยายามจะออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรม“ฉบับสุดซอย”เพื่อล้างความผิดทั้งหมดของ“ทักษิณ ชินวัตร”ที่เป็นนักโทษหลบหนีคดีในเวลานั้น จนทำให้มวลมหาประชาชนนับล้านคนที่นำโดยกปปส.ออกมาประท้วงขับไล่
สำคัญที่สุด ในวันที่ คสช.ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยึดอำนาจนั้น “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญไปแล้ว
ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติเป็นเอกฉันท์ เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2557 ถอดถอน“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีพร้อมกับรัฐมนตรีอีก 9 คนกรณีมีส่วนในการใช้อำนาจแทรกแซงการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อเป็นการเอื้อประโยชน์ให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ซึ่งเป็นพี่ชายของคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ และเป็นพี่เขย“ทักษิณ ชินวัตร” ขึ้นเป็นผบ.ตร.
ในวันที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยถูก คสช.ยึดอำนาจนั้น นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีแทน“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญปลดออกจากตำแหน่งซึ่งข้อเท็จจริงก็คือ ยิ่งลักษณ์มิได้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะถูก คสช.ยึดอำนาจและหลังจากนายนิวัฒน์ธำรง ปฏิบัติหน้าที่นายกฯชั่วคราวได้เพียง 15 วันก็ถูกยึดอำนาจ
และต้องหมายเหตุไว้ด้วยว่า การที่ คสช.ออกมายึดอำนาจก็เพราะบ้านเมืองอยู่ในภาวะคับขันอันอาจนำไปสู่การจลาจลและสงครามกลางเมือง รัฐบาลมีก็เหมือนไม่มี อยู่ใสภาพที่“ไม่มีหัวเหลือแต่หาง”
การชุมนุมทางการเมือง นอกจาก กลุ่ม กกปส.ที่เป็นกลุ่มหลักในการขับไล่รัฐบาล“หุ่นเชิดของทักษิณ”แล้วมวลชนคนเสื้อแดงภายใต้การนำของ นปช.ที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยก็ออกมาชุมนุมต่อต้านมวลมหาประชาชนฝ่าย กปปส.ด้วย ยิ่งนับวันสถานการณ์ก็ยิ่งร้ายแรงมีการปะทะและมีการใช้ช้อาวุธสงคราม ทำให้ประชาชนผู้ชุมนุมในฝ่ายกปปส.บาดเจ็บล้มตายแทบจะเป็นรายวัน
ขณะที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่มีนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ซึ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯยืนยันที่จะเป็นรัฐบาลต่อไปจนครบวาระในปี 2558 โดยผ่านคำพูดของนายชัยเกษม นิติสิริหัวหน้าคณะฝ่ายรัฐบาลที่เข้าไปประชุมร่วมกับตัวแทนฝ่ายต่างๆ ที่สโมสรกองทัพบกอันเป็นวงประชุมเพื่อหาทางออกให้แก่บ้านเมือง โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นเจ้าภาพหลักในฐานะผู้อำนวยการ กอ.รส. (กองอำนวยการรักษาความสงลเรียบร้อย)ที่ถูกจัดตั้งขึ้นมาหลังมีการประกาศกฎอัยการศึก
“หากเป็นแบบนี้ ผมขอโทษด้วยนะที่ต้องยึดอำนาจ” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ในขณะนั้นและในฐานะ ผอ.รส. กล่าวต่อที่ประชุม ภายหลังได้รับคำตอบจากนายชัยเกษม นิติสิริว่าพรรคเพื่อไทยต้องการเป็นรัฐบาลต่อจนครบวาระ ซึ่งเป็นคำตอบที่ พล.อ.ประยุทธ์ได้ถามนายชัยเกษมว่า“รัฐบาลยืนยันไม่ลาออก ใช่หรือไม่”
โดยที่ประชุมแห่งนั้น ประกอบด้วยตัวแทนจากฝ่ายรัฐบาล จากทุกพรรคการเมือง ตลอดจนแกนนำ กปปส.และแกนนำ นปช. ประชุมหารือกันมาสองวันโดยที่พรรคเพื่อไทยดึงดันที่จะเป็นรัฐบาลต่อขณะที่ประชาชนผู้ชุมนุมบาดเจ็บล้มตายไปแล้วกว่า 800 คน ตั้งแต่เริ่มประท้วงตอนปลายเดือนสิงหาคม 2566 อันสืบเนื่องจาก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม“ฉบับสุดซอย” และยาวข้ามปีมาจนถึงวันที่ 22 พฤษภาคม 2557รวมเวลาเกือบ 9 เดือน
อันที่จริง 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา น่าจะเป็น 8 ปีที่เข้ามาเช็ดล้างทำความสะอาดของ“เน่าเสีย”ที่ตระกูลชินวัตรโดย“ทักษิณ ชินวัตร” โกงกินและถ่ายเรี่ยราดเอาไว้ตั้งแต่รัฐบาลไทยรักไทยสมัยทักษิณเป็นนายกฯ กระทั่งต่อเนื่องมาถึงรัฐบาลหุ่นเชิด“สมัคร สุนทรเวช-สมชาย วงศ์สวัสดิ์-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”ถือว่าเป็นการให้โอกาสประเทศมากกว่าที่พรรคเพื่อไทยระบุไว้ในแถลงการณ์ว่า “สิ่งที่เราสูญเสียไปคือโอกาสของประเทศ” จากการยึดอำนาจของ คสช.
ไม่ต้องยกกันให้ยาวไปไกล เฉพาะโครงการรับจำนำข้าว ที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยสมัย“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเกิดการทุจริตกันอย่างมโหฬารจนทำให้ยิ่งลักษณ์ต้องเป็นนักโทษหนีคดีอยู่ในเวลานี้ และนายบุญทรง เตริยาภิรมย์อดีตรัฐมนตรีว่าการฯพาณิชย์ กับนายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยฯพาณิชย์ ต้องนอนอยู่ในคุกจนทุกวันนี้(บุญทรง 48 ปี-ภูมิ 36 ปี) นั้น, รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องตามชดใช้หนี้ถึง 9.57 แสนล้านบาทกระทั่ง ณ เวลานี้ก็ยังใช้ไม่หมด เหลือค้างชำระ ธ.ก.ส.อยู่อีกเกือบ 3 แสนล้านบาท
ตื่นจากอดีตมาดูวันนี้ดีกว่า ซึ่ง 9 เดือนที่พรรคเพื่อไทยเข้ามาเป็นรัฐบาล โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯที่ถูกชักใยโดยนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตรถามว่ามีผลงานอะไรให้เห็นเป็นชิ้นเป็นอันบ้าง
มีแต่ถลุงเงินที่ 8 ปีรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หาเอาไว้และพรรคเพื่อไทยก็คอยจ้องแต่จะล้วงออกมาอย่างเดียว แค่เศรษฐาเป็นนายกฯ ก็ล้างผลาญไปแล้วร่วม 1 พันล้านบาทจากการเดินสาย“เวิลด์ทัวร์”ในต่างประเทศ
วันนี้ (23 พฤษภาคม) ต้องดูว่าศาลรัฐธรรมนูญท่านจะว่าอย่างไรกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน ตั้ง“ทนายถุงขนม-พิชิต ชื่นบาน” เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ แม้นายพิชิตจะชิงลาออกไปแล้วก็ตามแต่ผลจากการกระทำของเศรษฐาได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว ที่ตั้งนายพิชิต ซึ่งเคยจำคุกมาแล้ว 6 เดือนและน่าจะขาดคุณสมบัติเป็นรัฐมนตรี
ผิดก็ต้องว่าไปตามผิด อย่าย้อนกลับไปเหมือนในอดีต กรณี“ซุกหุ้น”ของทักษิณ ชินวัตร ที่รอดความผิดเพราะ“บกพร่องโดยสุจริต”ส่งผลให้บ้านเมืองเกิดความขัดแย้งแตกแยกแบ่งฝักแบ่งฝ่ายจนกระทั่งถึงทุกวันนี้
กรณีของ“เศรษฐา ทวีสิน” กับ “ทักษิณ ชินวัตร” ก็ไม่ต่างกัน-เพราะคนสองคนนี้เป็นร่างเงาที่เป็นตัวตายตัวแทนกันอยู่ในเวลานี้ !
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี