บัดนี้ นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ได้รับการพักโทษมาหลายเดือนแล้ว แต่ปัญหาคือแล้วนักโทษคนอื่นๆ ในเรือนจำทุกแห่งทั่วประเทศไทยเล่า ได้รับการดูแลอย่างดีเยี่ยมเสมือนเหมือนที่นักโทษชายทักษิณได้รับอภิสิทธิ์แบบสุดๆ บ้างหรือไม่
การถามว่านักโทษคนอื่นๆ ทั้งประเทศได้รับอภิสิทธิ์แบบสุดๆ เสมือนนักโทษชายทักษิณ เป็นการตั้งคำถามที่ดูแล้วโง่เขลายิ่งนัก เพราะไม่มีทางที่นักโทษรายอื่นๆ จะได้รับอภิสิทธิ์เสมอเหมือนนักโทษชายทักษิณอย่างแน่นอน แต่ที่จำเป็นต้องถามคำถามที่โง่เขลา ก็เพราะต้องการตั้งคำถามเพื่อให้กรมราชทัณฑ์รู้สึกละอายขึ้นมาบ้างเท่านั้นเอง แต่ทั้งๆที่รู้ว่ากรมราชทัณฑ์คงไม่ละอาย แต่ก็ยังตั้งใจถามคำถามดังกล่าวต่อไป
ในคุกเมืองไทยนั้น ยังมีนักโทษสารพัดคดีและมีนักโทษการเมืองรวมอยู่ด้วย หากกรมราชทัณฑ์ให้อภิสิทธิ์กับนักโทษชายทักษิณอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู แต่ไม่ให้อภิสิทธิ์ใดๆ กับนักโทษรายอื่นๆ บางเลย ก็ต้องบอกตรงๆ ว่า กรมราชทัณฑ์เลือกปฏิบัติอย่างน่ารังเกียจ
ประเด็นเรื่องนักโทษชายไม่ต้องเข้าคุกแม้แต่วันเดียว จะเป็นเรื่องที่จารึกไว้ในด้านความเลวร้ายของประเทศไทยไปชั่วกัลปาวสาน ชั่วฟ้าดินสลายอย่างแน่นอน และมันคือเครื่องประจานว่าประเทศไทยไม่มีความยุติธรรมที่แท้จริง และยืนยันด้วยว่าคุกไทยมีไว้ขังคนไม่มีอำนาจรัฐ ไม่มีอำนาจเงิน แต่หากมีอำนาจทั้งสองอย่างเต็มเปี่ยมแล้ว ไม่มีวันที่คนดังกล่าวจะเข้าไปอยู่ในคุกไทย
นอกจากกรมราชทัณฑ์จะถูกประณามแล้วรัฐบาลชุดปัจจุบันที่มีนายกรัฐมนตรี (โดยกฎหมาย)ชื่อเศรษฐา ทวีสิน ก็ต้องถูกประณามด้วยเช่นกัน เพราะไม่รักษาหลักนิติรัฐ นิติธรรมแม้แต่น้อย แถมยังปล่อยให้เกิดความไม่ยุติธรรมบนแผ่นดินไทยถึงแม้ทุกคนจะรู้ดีว่าเศรษฐาได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพราะมีข้อตกลงพิเศษระหว่างนักโทษชายทักษิณกับฝ่ายอำนาจเก่าก็ตาม แต่ก็ยังมีคนหวังว่าคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีต้องมีความสำเหนียกในเรื่องความถูกต้องดีงามอยู่บ้าง แต่สำหรับเศรษฐาแล้วทุกคนบอกว่าผิดหวังมาก แม้จะไม่ได้หวังไว้สูงมากนักแต่ก็อดผิดหวังไม่ได้ เพราะไม่คิดว่าจะไม่ยึดหลักเกณฑ์ของความถูกต้องใดๆ เลยแม้แต่น้อย
ถามว่าประเทศไทยมีหลักนิติรัฐ นิติธรรมหรือไม่ ตอบว่าคิดว่าคงมีอยู่บ้าง แต่ทว่าไม่สามารถใช้หลักการดังกล่าวได้อย่างเคร่งครัด และเสมอหน้าเท่าเทียมกันเพราะจริงๆ แล้วหลักนิติรัฐ นิติธรรมมีไว้เพื่อควบคุมและจำกัดการใช้อำนาจรัฐ เพื่อมิให้รัฐใช้อำนาจกระทำละเมิดคุกคามสิทธิเสรีภาพของประชาชน นั่นหมายความว่าเมื่อรัฐจะใช้อำนาจกฎหมายลงโทษใครก็ตามที่กระทำความผิด รัฐต้องใช้หลักการเดียวกันกับทุกคน โดยไม่มีข้อยกเว้น ไม่เลือกปฏิบัติ แต่สำหรับประเทศไทยในยุคนี้ (และหลายยุคที่ผ่านมาในระยะ50 ปี) กลับพบว่าผู้มีอำนาจรัฐจงใจใช้ข้อกฎหมายโดยเลือกปฏิบัติ ทั้งนี้ ธงชัย วินิจจะกูล เคยกล่าววิพากษ์รัฐไทยไว้ว่า ระบบกฎหมายสมัยใหม่ของรัฐไทยมีไว้เพื่อรับใช้รัฐ และให้อำนาจและอภิสิทธิ์กับรัฐเพื่อคุ้มครองรักษาตัวเอง โดยใช้ในนามของความมั่นคงของรัฐ ด้วยการละเมิดสิทธิเสรีภาพประชาชน ซึ่งเท่ากับจงใจละเมิดหลัก rule of law
กรณีที่สังคมรับทราบโดยทั่วกันจากปรากฏการณ์นักโทษชาย (เทวดา) ทักษิณ ชินวัตร คือเครื่องยืนยันชัดเจนว่าหลักการนิติรัฐ นิติธรรมของรัฐไทยยุคนี้มีปัญหาขั้นวิกฤต
หลายคนเห็นว่าการที่นักโทษชายทักษิณ ผู้หนีคดีอาญาแผ่นดินไปนานเกือบ 20 ปี แต่แล้วเขากลับเข้าประเทศไทย เพราะว่าเขาได้รับข้อตกลงพิเศษที่ทุกคนเห็นตรงกันคือ กลับมาแล้วไม่ต้องติดคุก ถามว่าทำไมคนทำผิดกฎหมายที่ถูกศาลตัดสินเด็ดขาดแล้วจึงไม่ต้องติดคุก แล้วทำไมคนอื่นๆ ที่ถูกตัดสินโดยศาล จึงต้องติดคุก รัฐไทยจะตอบเรื่องนี้อย่างไร
ในขณะที่รัฐบาลไทยก็ไร้ความละอาย เพราะตอบปัญหาเรื่องนี้ว่า ทุกอย่างทำไปตามกฎหมายถามว่าจะเป็นไปตามกฎหมายได้อย่างไร ในเมื่อนักโทษชายทักษิณทำผิด แต่ไม่ติดคุก แล้วทำไมคนอื่นๆ ที่ทำผิดจึงต้องติดคุก กฎหมายไทยข้อไหนอนุญาตให้คนทำผิดไม่ต้องติดคุก กระนั้นหรือแล้วถามต่อไปว่า ทำไมรัฐบาลไทย ซึ่งเป็นผู้ดูแลกรมราชทัณฑ์ จึงปล่อยให้ผู้ต้องขังที่ยังไม่ได้ถูกศาลตัดสินว่ากระทำผิดหรือไม่ ต้องตายในคุก ทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอกว่า คนผู้นั้นประกาศอดอาหารเพื่อประท้วงศาล
ประเด็นข้ออ้าง (เชิงโกหก) เรื่องนักโทษชายทักษิณป่วยหนักต้องได้รับการรักษาเป็นกรณีพิเศษโดยเร่งด่วน แต่กลับไม่เคยเปิดเผยว่านักโทษชายทักษิณป่วยเป็นโรคอะไร หมอคนใดให้การรักษา และผลการรักษาเป็นเช่นไร เรื่องเหล่านี้ไม่เคยปรากฏต่อสังคม โดยอ้างว่าเป็นความลับของนักโทษ แต่ทำไมคนอื่นๆ ในสังคมไทยที่เจ็บป่วยสาหัส กลับถูกเปิดเผยว่าป่วยเป็นอะไร อาการป่วยอยู่ในขั้นไหน สรุปว่าเรื่องความลับของอาการเจ็บป่วยของคนไทย โดยเฉพาะบุคคลสาธารณะถูกใช้ปฏิบัติด้วยหลักการและหลักเกณฑ์เดียวกัน หรือไม่ หรือขึ้นอยู่กับว่ารัฐไทยจะเปิดเผยอาการป่วยของคนไหน แล้วปกปิดอาการที่อ้างว่าป่วยของนักโทษชายทักษิณ หากเป็นแบบนี้แล้ว จะบอกกับสังคมโลกได้อย่างไรว่ามีความเท่าเทียมกัน มีความเสมอภาคกันในสังคมไทย กรณีไหนจึงถือเป็นเรื่องลับเฉพาะ แล้วกรณีไหนจึงจะเปิดเผยได้ คำถามคือรัฐไทยใช้หลักเกณฑ์ใดพิจารณา ใช้หลักกฎหมายข้อใด หรือว่าเป็นการบริหารประเทศตามอำเภอใจของผู้มีอำนาจรัฐ
การเข้ามามีอำนาจรัฐของพรรคเพื่อไทยในครั้งล่าสุดนี้ ทำให้เกิดคำถามว่า เป็นการมีอำนาจรัฐเพื่อให้นักโทษชายทักษิณได้มีอภิสิทธิ์ล้นเหลือเช่นนั้นหรือ การที่พรรคเพื่อไทยมีอำนาจรัฐ แล้วใช้อำนาจรัฐเพื่อบิดเบือนหลักนิติรัฐ นิติธรรม เป็นสิ่งที่พรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ ที่รวมตัวร่วมกันเป็นรัฐบาลยอมรับได้ ใช่หรือไม่ เหตุที่ต้องถามเช่นนี้ ก็เพราะว่าไม่เห็นว่าจะมีพรรคร่วมรัฐบาลพรรคใดตั้งคำถามเรื่องการละเมิดหลักนิติรัฐ นิติธรรม ส่วนพรรคฝ่ายค้านก็เช่นกัน สาธารณชนไม่เคยเห็นว่าตั้งคำถามเรื่องที่รัฐบาลละเมิดหลักนิติรัฐ นิติธรรม แม้แต่น้อย หรือว่าพรรคฝ่ายค้านที่อ้างว่ารักความถูกต้อง ความยุติธรรม ความเสมอภาคเสียเหลือเกิน ก็กลับไม่พบว่าจะตั้งคำถามหรือคัดค้านการละเมิดหลักนิติรัฐ นิติธรรมโดยรัฐบาล
การที่เพื่อไทยมีอำนาจรัฐในฐานะแกนนำรัฐบาล แล้วส่งผลให้นักโทษชายทักษิณได้รับอภิสิทธิ์ล้นเหลือ แบบท่วมฟ้าล้นแผ่นดิน คือการประจานว่าประเทศไทยไม่มีหลักการ rule by law คือการปกครองโดยยึดหลักของกฎหมาย เมื่อไทยไม่มี rule by law ก็หมายความว่าประเทศนี้ไม่เป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ สิ่งที่สาธารณชนเห็นชัดคือ เมื่อมีอำนาจรัฐแล้ว คนทำผิดไม่ต้องรับผิด ไม่ถูกลงโทษ เพราะได้รับอภิสิทธิ์ทำให้รอดพ้นหรือปราศจากความผิด ทั้งๆ ที่ตนเองกระทำผิด แล้วหนีกฎหมายไปอยู่ต่างประเทศเป็นเวลาเกือบ 20 ปี
อันที่จริง คนไทยไม่ได้โง่กับเรื่องของการมีอำนาจรัฐ หรืออำนาจเงินแล้วทำให้ตนเอง โดยเฉพาะคนที่กระทำผิดกฎหมาย แต่ทว่าสุดท้ายกลับได้รับอภิสิทธิ์ล้นเหลือ แต่ถึงกระนั้นคนไทยจำนวนมากก็ยังคงเชื่อว่า อย่างน้อยที่สุดกฎหมายไทยต้องคงเหลือความศักดิ์สิทธิ์อยู่บ้าง หลักการ rule by law และ rule of law ยังต้องดำรงคงอยู่บนแผ่นดินไทยบ้าง แต่สำหรับกรณีนักโทษชายทักษิณที่ทำผิดแล้วไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียว แถมยังสามารถแสดงอิทธิฤทธิ์อิทธิเดชสารพัดชนิดได้ในขณะที่ยังมีสถานะเป็นนักโทษ แม้จะได้รับการพักโทษ แต่พฤติกรรมทั้งหมดทั้งมวลของนักโทษชายทักษิณก็สามารถบ่งบอกได้ชัดเจนว่าเขาคือนักโทษเทวดา นักโทษที่มีอภิสิทธิ์เหนือนักโทษทุกคนในคุกของไทย
พฤติกรรมและการกระทำทั้งหมดที่แสดงออกโดยนักโทษชายทักษิณคือเครื่องประจานความเน่าเฟะของกรมราชทัณฑ์ และประจานความไร้หลักเกณฑ์หลักการด้าน rule of law และ rule by law ของรัฐบาลไทยอย่างชัดเจนที่สุด
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี