นักโทษเด็ดขาดทักษิณ ชินวัตร นั้น ต้องถือว่าใหญ่คับฟ้าในประเทศนี้..ดูจากการเดินทางไปโคราชเมื่อวันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ใหญ่หรือไม่ใหญ่..ก็ดูเอาเถิด เป็นนักโทษคดีทุจริตโกงบ้านกินเมืองที่อยู่ระหว่างการพักโทษ แต่สามารถออกเพ่นพ่านเดินสายไปไหนต่อไหนก็ได้ตามอำเภอใจ..“กำไล EM”ที่ข้อเท้าก็ไม่ต้องติด มิหนำซ้ำยังมีเครื่องบินเจ๊ตส่วนตัวนั่ง..ทำให้นึกถึงเจ้าพ่อมาเฟียผู้ค้ายาเสพติดในประเทศแถบลาตินอเมริกาและในโคลอมเบีย ทั้งในหนังและในชีวิตจริง..มาเฟียเหล่านั้นเป็นผู้ทรงอิทธิพลจริงๆ ใครก็ทำอะไรไม่ได้ แม้แต่กฎหมายบ้านเมือง
ไปโคราชคราวนี้ถือว่าเป็นหัวเมืองใหญ่จังหวัดที่สาม นับตั้งแต่ได้รับการพักโทษเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ต้นปี ไปเชียงใหม่มีนักการเมืองรวมทั้งรัฐมนตรีและผู้ว่าราชการจังหวัดไปแห่แหนต้อนรับ..ไปภูเก็ตเหมือนไปตรวจราชการดูการก่อสร้างถนนหนทาง และดูบรรยากาศการท่องเที่ยว มีผู้ว่าราชการจังหวัดมาต้อนรับ พร้อมมีหน่วยอารักขาติดอาวุธสงครามครบมือคอยเดินตามคุ้มกัน
การเยือนโคราชครั้งนี้..ใหญ่ถึงขนาดมีนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่ากากระทรวงกลาโหม, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวง“ดีอีเอส” และนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ต้องเดินขนาบตามแห่ และแน่นอนว่าย่อมต้องมีมวลชนเสื้อแดงมาคอยต้อนรับอย่างล้นหลามพร้อมชูป้ายข้อความ
รวมทั้งนักการเมืองบ้านใหญ่เจ้าของพื้นที่อย่าง“สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” เจ้าของพรรคชาติพัฒนาตัวจริง ที่รอจะเสียบเป็นรัฐบาลอยู่ทุกเวลานาทีก็ต้องมาให้การต้อนรับ..ตลอดจนนางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกอบจ.นครราชสีมา และกำนันป้อ-วีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล” สามีของนางยลดา นักการเมืองบ้านใหญ่แห่งโคราช เจ้าของธุรกิจแป้งมันเอี่ยมเฮงอุตสาหกรรม ผู้เป็นบิดาของ“อาทิตย์ หวังศุภกิจโกศล” สส.นครราชสีมา เขต 11 พรรคเพื่อไทย และ“สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล”สส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย
โคราชก็ไม่ต่างจากจังหวัดเชียงใหม่ ที่พรรคเพื่อไทยจะต้องยึดกลับคืนมาให้ได้ทั้งจังหวัด..ดังนั้นก้าวย่างของ“ทักษิณ ชินวัตร”ในแต่ละก้าว ล้วนมองไปถึงการเลือกตั้ง สส.สมัยหน้า ที่พรรคเพื่อไทยจะต้องแลนด์สไลด์ให้ได้ เพื่อหวังจะเป็นรัฐบาลพรรคเดียว เหมือนสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทยในอดีต--ที่ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี
และเชื่อว่าอีกไม่นาน..“สุวัจน์ ลิปตพัลลภ”ย่อมต้องนำพรรคชาติพัฒนาเข้าไปควบรวมกับพรรคเพื่อไทย..เพราะลึกๆ แล้วคนอย่างนายสุวัจน์ก็ฝันอยากเป็นนายกฯเช่นกัน..แม้ว่าจะเป็นแค่“หุ่นเชิด”เหมือนนายเศรษฐา ทวีสิน ก็ยอม ดังสัญญาณที่“ทักษิณ ชินวัตร”กล่าวบนเวทีที่ภัตตาคารเสียว เสี้ยว ว่า
"เดี๋ยวคุณสุวัจน์ ก็จะมาเป็นกำลังสำคัญของพรรคเพื่อไทย..ผมพูดแทนลูก เพราะอุ๊งอิ๊งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยให้ลิปซิงค์ เนื่องจากอายุน้อย ไม่กล้าชวนตรงๆ เลยบอกให้พ่อลิปซิงค์ และขอขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติมาต้อนรับและมาทานข้าวด้วยกัน”
ทักษิณ ชินวัตร ไปเหยียบหัวเมืองโคราชในครั้งนี้ พร้อมบุตรสาว“อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร” และ“โอ๊ค พานทองแท้ ชินวัตร” ถ้าเป็นนักโทษคนอื่นต้องถือว่าผิดเงื่อนไขของกรมคุมประพฤติ เพราะทักษิณตีเนียน..ถือโอกาสจากการไปเป็นประธานพิธีฌาปนกิจศพนายวิชัย ช่างเหล็ก หรือลุงป๊อก คนขับรถคนสนิทที่ทักษิณเคยใช้ชื่อ“ซุกหุ้น”แทนตนเองเพื่อหลีกเลี่ยงรัฐธรรมนูญ..ซึ่งถึงแม้ว่าจะไปงานศพ แต่ภาพที่ออกมาคือการเคลื่อนไหวทางการเมืองโดยชัดแจ้ง
“นักโทษเทวดา”ผู้นี้ เวลานี้ได้เปิดหน้าชกอย่างเต็มตัว อาการป่วยวิกฤตหายเป็นปลิดทิ้ง..ไม่ต้อง“แกล้งสำออย”แสดงละครโป้ปดกันอีกต่อไปแล้ว กลับมาเป็น“ทักษิณ ชินวัตร”คนเดิม..ไม่ต่างจาก“โทนี่ วู้ดซัม”เมื่อครั้งเป็นนักโทษหลบหนีคดีอยู่ในต่างแดน..พูดจ้อและอวดเก่งอวดรู้ทุกเรื่องเมื่อถูกผู้สื่อข่าวป้อนคำถาม..และพร้อมโกหกตลบตะแลงทุกเรื่องถ้าตอบแล้วจะทำให้เข้าตัว เช่นว่า “ผมวันนี้..เป็นคนแก่คนหนึ่ง ให้คำแนะนำน้องๆ ช่วยให้บ้านเมืองเจริญ ผมไม่มีน้ำยาอะไรหรอก..แก่แล้ว”
แต่เรื่องที่เผลอตัวจากการอวดรู้อวดเก่งและชอบแสดงตนที่เป็นนิสัยถาวรของ“ทักษิณ ชินวัตร”นั้น..ทักษิณหลุดมาหลายเรื่องจากการให้สัมภาษณ์ที่โคราชและส่อให้เห็นว่า..เป็นคน“ชักใย”นายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรี และเป็น“คนนอก”ที่..“ควบคุม-ครอบงำ-ชี้นำ”พรรคเพื่อไทย..อันเป็นการละเมิด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 28 และมาตรา 29 ที่มีบทบัญญัติห้ามเอาไว้
เช่นที่นักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า..“พรรคไทยรักไทย ที่วันนี้กลายมาเป็นเพื่อไทย ถูกยุบมาสามครั้ง เราไม่เคยย่อท้อ ที่จะเดินหน้าเศรษฐกิจทุนนิยมที่เห็นอกเห็นใจประชาชน เราต้องแก้ไขเศรษฐกิจครั้งนี้ให้ได้..แม้กลไกระบบราชการจะอุ้ยอ้าย แต่เชื่อว่าข้าราชการทุกคนรักบ้านเมืองรักประชาชน”- -ข้อความทั้งหมดนี้..ทักษิณแสดงตนเป็นเจ้าของพรรคเพื่อไทยชัดเจนที่สุด แบบพูดตามน้ำจนเผลอลืมตัว
อีกประเด็นหนึ่งที่แสดงการให้เห็นว่า “ทักษิณ ชินวัตร”ซึ่งเป็นนักโทษคดีทุจริตโกงบ้านกินเมืองที่อยู่ระหว่างการพักโทษ..ชักใยชี้นำและบงการนายกรัฐมนตรี“หุ่นเชิด”ที่ชื่อเศรษฐา ทวีสิน เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ..อันเนื่องมาจากตัวเลข จีดีพี.ไตรมาสแรกของปี 2567 ขยายตัวเพียงร้อยละ 1.5 และต่ำกว่าทุกประเทศในอาเซียน..ทักษิณให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “นายกฯ(เศรษฐา)เองก็เป็นห่วง ตอนอยู่ต่างประเทศ..ก็คุยกันว่า นายกฯจะต้องเรียกประชุม ครม.เศรษฐกิจจันทร์นี้”
และนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ก็ได้เรียกประชุม“ครม.เศรษฐกิจ”ครั้งแรกในวันนี้ (27 พฤษภาคม) ตาม“ใบสั่ง” เพราะลำพังความคิดและสติปัญญาของนายเศรษฐานั้น..ใครก็รู้ว่า“คิดไม่ได้” เนื่องจากความรอบรู้เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินยังอ่อนด้อยอ่อนหัด
นอกจากนั้นอีกเรื่องหนึ่งที่“ทักษิณ ชินวัตร”บิดเบือน..นั่นก็คือกรณีของ“ทนายถุงขนม-พิชิต ชื่นบาน”ที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของ 40 สว. ซึ่งทักษิณกล่าวว่า..“สังคมการเมืองเขารู้ว่าใครเป็นคนของใคร อย่างไร เป็นเรื่องธรรมดา มีเช่นนี้มาช้านานแล้ว..คงไม่ถึงขั้นล้มนายกฯ เศรษฐาได้ แต่อาจเป็นการสร้างความวุ่นวาย..บ้านเมืองชะงักบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา แต่มองว่าจะไม่มาก..เพราะหากชี้แจงได้ก็ไม่เป็นอะไร และพรรคเพื่อไทยไม่ต้องเตรียมรับมืออะไร ทำอะไรให้ถูกต้อง..ไม่เป็นไร ไม่ต้องไปหวั่นไหวมาก"
ตามข้อเท็จจริงนั้น 40 สว.ร้องศาลรัฐธรรมนูญโดยผ่านนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา..เพราะเห็นว่าการที่นายเศรษฐา ทวีสิน ตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับคุณสมบัติของนายพิชิต ที่ไม่ซื่อสัตย์สุจริต..และมีพฤติกรรมฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง-ก็เท่านั้นเอง เพราะใครก็รู้ว่านายพิชิตขาดคุณสมบัติ..เมื่อนายกรัฐมนตรีเสนอชื่อโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี..ก็ต้องรับผิดชอบจากผลของการกระทำ โดยเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้พิจารณาวินิจฉัย
รอดูวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่สะท้านสะเทือนถึงสวรรค์ชั้นฟ้า..ว่าอัยการสูงสุดจะสั่งฟ้อง“ทักษิณ ชินวัตร”ในคดีความผิดมาตรา 112 หรือไม่ หลังจากเลื่อนนัดมาแล้วครั้งหนึ่ง—คงได้พิสูจน์กันครั้งนี้ว่า..นักโทษเทวดาผู้นี้ใหญ่คับฟ้าถึงขนาดฟ้าดินยังเกรงกลัวหรือไม่ ?!
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี