สาธารณชนที่ติดตามคำพูดและเฝ้าดูพฤติกรรมการเมืองของทักษิณ ชินวัตร มาโดยตลอด ตั้งแต่ทักษิณได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จนกระทั่งวันที่เขาหนีคดีอาญาแผ่นดินไปร่อนเร่ราวกับสัมภเวสีในต่างประเทศ เป็นระยะเวลาเกือบ 20 ปี จะเข้าใจได้ตรงกันว่าทักษิณมีความคิดและความรู้สึกอย่างไรกับสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย
ทักษิณมักจะบอกกับคนไทยว่าเขาจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างมากมาย จนครั้งหนึ่งเขาเคยพูดว่าถ้านายกรัฐมนตรีไม่จงรักภักดี ผีที่ไหนจะจงรักภักดีวะ (ทักษิณกล่าวคำพูดนี้เมื่อปลายปี 2548)
ก่อนอื่นต้องบอกตรงๆ ว่าคำพูดเช่นนี้ไม่เหมาะสม และไม่สมควรจะออกจากปากคนที่มีตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แน่นอนว่าทักษิณชอบอ้างว่าเขารักชาติ รักบ้านเมืองมากกว่าใคร แล้วเขาก็ชอบอ้างว่าเขาจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย แต่ทว่าคำพูดและกิริยาอาการ รวมถึงพฤติกรรมที่ทักษิณแสดงออกต่อพระมหากษัตริย์ไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกันเลยแม้แต่น้อย คนที่เคารพสถาบันพระมหากษัตริย์จริง จะไม่มีวันกล่าวหรือแสดงพฤติกรรมเหมือนที่ทักษิณกระทำมาโดยตลอด
ลองอ่านคำสัมภาษณ์จากปากของทักษิณในวันที่เขาพูดผ่านระบบ club house เมื่อ 12 เมษายน 2020 โดยการจัดของกลุ่ม care ซึ่งตั้งกลุ่มโดยนักการเมืองที่เคยสังกัดพรรคไทยรักไทย และในวันที่ทักษิณเข้าร่วมรายการนั้น มี ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ทำหน้าที่พิธีกรรับเชิญ และมีผู้ร่วมพูดคุยคือ ดวงฤทธิ์บุนนาค สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี และธีรัตน์ รัตนเสวี
ประเด็นหนึ่งที่ทักษิณกล่าวในวันนั้นคือเรื่องราวที่เขาอ้างว่าเขาจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ไทย โดยเขาบอกว่าเขาถูกกล่าวหาเรื่องล้มเจ้า เขาบอกว่าคนล้มเจ้าจริงๆ คือ คนที่เกาะเป็นเจ้า เกาะเพื่อทำมาหากิน เกาะเพื่อมีอำนาจ แล้วก็อ้างเจ้า ทั้งๆ ที่ท่านไม่รู้เรื่องอะไรเลย มันก็เลยทำให้วุ่นวายกันหมดทั้งบ้านเมือง แตกความสามัคคีกันหมด
และทักษิณก็อ้างว่า ผมเคยเข้าเฝ้าพระเจ้าอยู่หัวพระองค์นี้ (หมายถึงรัชกาลที่ 10) ตั้งแต่ท่านมีพระชนมายุประมาณ 8-9 พรรษา ท่านตามเสด็จรัชกาลที่ 9 ไปสันกำแพง ไปร้านผ้าไหมผมนี่แหละ ท่านทรงสูท แต่ขาสั้น เพราะยังทรงพระเยาว์ ผมเคยเห็นท่านตั้งแต่ตอนนั้น ผมก็มีความรู้สึกว่าผมเป็นคนไทย เป็นคนที่มี loyalty (ความจงรักภักดี)ต่อสถาบัน (พระมหากษัตริย์) จนผมมาเป็นนักเรียนเตรียมทหาร เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ จบมาก็ได้รับสมรสพระราชทาน เพราะฉะนั้น ผมเองก็มีความรู้สึกผูกพันและเคารพมาตลอด แต่ผมก็ถูกกล่าวหามาโดยตลอด แล้วผมก็เป็นคนที่ทำงานถวายเจ้านายทุกพระองค์มาโดยตลอด ด้วยความจงรักภักดีไม่มีอะไรเลย แต่คนก็ใส่ผมอยู่นั่นแหละ จนผมรำคาญ .... ผมเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่ออายุ 51 ผมเห็นมาหมด และผ่านมาทุกอย่าง ผมเป็นคนที่ทำงานเกือบ 6 ปี ใกล้เจ้านายที่สุด ผมถวายงานให้พระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบันตั้งแต่ผมยังเป็นนักธุรกิจ
โปรดอ่านข้อความจากทักษิณดีๆ แล้วจะเข้าใจโดยทันทีว่าเขาคิดอย่างไรกับพระมหากษัตริย์ แต่บอกได้คำเดียวว่าคนที่จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์จริงๆ จะไม่อวดอ้างว่าตนเองจงรักภักดี และทำงานถวายพระมหากษัตริย์ ส่วนคนที่ไม่น่าจะจงรักภักดีโดยแท้จริงนั้น มักจะอวดอ้างว่าใกล้ชิดเจ้านาย และรับใช้ถวายงานเจ้านาย
อย่างไรก็ตาม หากอยากจะรู้ความคิดลึกๆ ของทักษิณที่มีต่อพระมหากษัตริย์ไทยแล้ว ต้องไปอ่านบทสัมภาษณ์ของทักษิณที่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนต่างประเทศ โดยเฉพาะสื่อฯ จากตะวันตก เช่น Tom Plate ที่เขียนไว้ในหนังสือชื่อ Conversationwith THAKSIN ร่วมถึงไปหาอ่านและฟังบทสัมภาษณ์ที่ทักษิณให้สัมภาษณ์กับสื่อฯ ของเกาหลีใต้ แล้วจะรู้ว่าลึกๆ ทักษิณคิดอย่างไรกับพระมหากษัตริย์ไทย และจะเข้าใจโดยทันทีว่าทักษิณจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ไทยจริงหรือไม่
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี