ประชุมครม.เมื่อวานนี้ (4 มิถุนายน) นายวิษณุ เครืองาม ในฐานะที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี..ได้เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี“ข้ามสายพันธุ์”ด้วยเป็นนัดแรก
ภายหลังการประชุม รัฐมนตรีหลายคนออกมาให้สัมภาษณ์..ชื่นชมสดุดีนายวิษณุ เครืองาม ที่ได้มาร่วมงานกับรัฐบาลในฐานะที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข..ซึ่งถนัดเรื่องอย่างนี้อยู่แล้ว พูดถึง-นายวิษณุ เครืองาม ชนิดที่ไหลลื่นอย่างพรั่งพรู
ผู้สื่อข่าวถามว่า..กรณีนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งนายวิษณุ เครืองาม เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี จะสะท้อนถึงการสืบทอดอำนาจหรือไม่ ?..นายสมศักดิ์เทพสุทิน วัย 69 ปี, สส.11 สมัย และรัฐมนตรี 15 ครั้ง—ตอบว่า..เป็นการสืบทอดอำนาจหรือไม่นั้น ไม่รู้..แต่มองว่านายวิษณุเป็น“ปราชญ์-เป็นผู้รู้”
“ท่านเป็นปราชญ์ ไม่เห็นว่าจะมีอะไรที่เป็นเรื่องเสียหาย..และการที่นายกรัฐมนตรีไปเชิญอาจารย์วิษณุมาเป็นที่ปรึกษาได้ ผมว่านายกรัฐมนตรีเขาอัจฉริยะนะครับ..ผมถึงได้บอกว่าเราได้ผู้รู้ และผู้มีประสบการณ์แนะนำ..รัฐบาลก็จะไปได้ดี” นายสมศักดิ์ เทพสุทิน กล่าวชมนายวิษณุ..แต่ยังไม่ลืมที่จะยกก้นนายเศรษฐาทวีสิน พร้อมกันไปด้วย
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยถูกมองว่าไม่มีมือกฎหมาย..นายสมศักดิ์ เทพสุทิน กล่าวว่า “ไม่เป็นไรแล้วแต่คนจะพูด..ผมเคยฟังคำพูดผู้ใหญ่ท่านหนึ่งบางคนก็ชอบค้าความขัดแย้ง..ก็ว่ากันไป ถ้าเราไม่มีความรู้อื่นใด เราก็ต้องใช้วาทะ-โวหาร..ค้าความขัดแย้ง ประเทศชาติเสียหาย..ผมว่าอาจารย์วิษณุเก่งที่สุด..ก็หมายความว่าเก่งที่สุดแล้ว”
รัฐมนตรีอีกคนหนึ่งที่มีดีเอ็นเอเดียวกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน..และเป็น“คู่หูดูโอ้”ชนิดที่“ตำแหน่งรัฐมนตรีมีไว้พุ่งชน”..คือนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้สัมภาษณ์หลังการประชุม ครม.เช่นกัน—โดยหยอดน้ำผึ้งชื่นชมนายเศรษฐาทวีสิน ก่อนเป็นลำดับแรกว่า..“ต้องแสดงความยินดีกับท่านนายกฯเศรษฐา..ที่ประสบความสำเร็จในการเชิญอาจารย์วิษณุมาเป็นที่ปรึกษาของนายกฯ”
จากนั้น—นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งคนทั่วไปมองว่าเป็นนักการเมืองประเภท“กินบนเรือน..ขี้รดบนหลังคา”..เห็นได้จากกรณี“ตีจาก”พรรคพลังประชารัฐกลับมาซบรังเดิมพรรคเพื่อไทย--ก็“แว้งกัด”รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทันทีทันควัน, โดยนายสุริยะได้อวยความเก่งกาจของนายวิษณุ เครืองาม ว่า--“อาจารย์วิษณุมีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย มีลูกศิษย์เต็มบ้านเมืองจนได้ฉายา“กูรูกฎหมาย” ส่วนนี้จะทำให้รัฐบาลมั่นใจเกี่ยวกับการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญในเรื่องต่างๆ”
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ยังให้รายละเอียดด้วยว่า..“การที่อาจารย์วิษณุ มาอยู่ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี จะมีส่วนสำคัญกับการประชุม..เพราะจากประสบการณ์การประชุมคณะรัฐมนตรีมาหลายสมัย บางเรื่องที่ผ่านสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) มาแล้ว..ในที่ประชุมมีการอภิปรายลงลึกเกี่ยวกับข้อกฎหมายว่าทำได้หรือไม่ได้..เมื่อมีอาจารย์วิษณุอยู่ในที่ประชุม จะสามารถชี้แจงประเด็นเหล่านี้ได้ดี”
มีประเด็นที่น่าสนใจจากการให้สัมภาษณ์ในครั้งนี้ของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ..เกี่ยวกับ“การปฏิรูประบบราชการ” ซึ่งนายสุริยะกล่าวว่า..“คิดว่ารัฐบาลจะมีนโยบายเกี่ยวกับการปฏิรูประบบราชการแน่นอน..เพราะครั้งสุดท้ายทำเมื่อปี 2545 ...อาจารย์วิษณุสามารถใช้ประสบการณ์มาช่วยตรงนี้ได้”
นี่ย่อมแสดงว่า—พรรคเพื่อไทยกำลังจะมีการปฏิรูประบบราชการ..เหมือนเมื่อครั้งรัฐบาลพรรคไทยรักไทยสมัย“ทักษิณ ชินวัตร”..ซึ่งมีการยุบกระทรวง-เพิ่มกระทรวง..เหมือนเป็นการ“เปลี่ยนไพ่สำรับใหม่” แล้วจัดคนของตนไปลงในตำแหน่งที่สำคัญๆ ในทุกกระทรวง..ซึ่งหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญของทักษิณที่เป็นมือทำงานก็คือ..นายวิษณุ เครืองาม นั่นเอง
ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม ประเดิมงานด้วยการประชุมครม.เป็นนัดแรก..หลังได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีว่า..มานั่งที่ปรึกษาฯไม่ได้เงิน แถมลดเกียรติด้วยซ้ำ แค่อยากช่วยประเทศ..และไม่ยี่หระข่าวเกี่ยวกับนักการเมืองพรรคเพื่อไทยต่อต้านที่เข้ามานั่งตำแหน่งนี้
“เคยเข้าออกและทำงานที่นี่ (ทำเนียบรัฐบาล) มา 30 กว่าปีแล้ว..ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ หรือตื่นเต้นโลดโผนอะไร..วันนี้เป็นการทำหน้าที่ปรึกษาของนายกฯ ที่อนุญาตให้เข้าประชุมครม.ได้..เผื่อจะมีประเด็นบางอย่างที่ท่านสั่งหรือว่าประเด็นที่เกิดการถกเถียงกันระหว่างหน่วยงานต่างๆ จะได้แสดงความเห็น..คงมีแค่นั้น ไม่ได้มีอะไรมากมาย” นายวิษณุ เครืองาม กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า..นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มีการให้ช่วยตรวจทานร่างคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญอย่างไร..นายวิษณุกล่าวว่า--เป็นธรรมดา หนีไม่พ้นต้องมีอยู่แน่ เพราะคนที่ทำจริงๆ คือทีมงานของนายกฯ..ซึ่งนายพิชิต ชื่นบาน ก็เป็น 1 ในทีมงานนั้น
“ตอนนี้ได้ทราบว่าได้ร่างคำชี้แจงเสร็จเรียบร้อยแล้ว..และจะให้ผมได้ดูวันเดียวกันนี้ (4 มิถุนายน) เพื่อที่จะให้นายกฯลงนามเสนอไปยังศาลรัฐธรรมนูญได้ทันในวันที่ 6-8 มิถุนายนนี้..ส่วนรายละเอียดคำชี้แจงจะเป็นอย่างไรนั้น ขอว่าอย่าเปิดเผย เดี๋ยวเสียรูปคดี..ส่วนที่มีการวิเคราะห์กันถึงความเสี่ยงของนายกฯอยู่ที่ 50:50 นั้น..ผมไม่ทราบ”
เมื่อถูกผู้สื่อข่าวยิงคำถามต่อว่า..ยืนยันว่า มีช่องสู้คดีได้ใช่หรือไม่--นายวิษณุ เครืองาม เจ้าของฉายา“เนติบริกร” และล่าสุดในปี 2565 ได้ฉายาใหม่จากสื่อประจำทำเนียบรัฐบาลว่า“เครื่องจักรซักล้าง”..กล่าวว่า “ผมจะยืนยันได้อย่างไรว่าแพ้แหงๆ..และผมยังไม่เห็นรายละเอียดคำชี้แจง--วันนี้คงได้ดู”
สำหรับกรณีของนายเศรษฐา ทวีสิน นี้..หากเป็นนิยายกำลังภายในยุทธจักรบู๊ลิ้ม—น่าชวนติดตามก็ตรงที่
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 9 คน ซึ่งเปรียบเหมือน “9 อรหันต์”..จะรับฝ่ามืออันเป็นกระบวนท่าไม้ตายของ “จอมมารเครื่องจักรซักล้าง” ได้อย่างไร ?!
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี