การประชุมคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลเป็ดง่อย/หนูน้อยถุงเท้าหลากสี - เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มีมติเห็นชอบ “ร่างหนังสือแสดงความประสงค์ของไทย”ในการเข้าร่วมเป็นสมาชิกของ “กลุ่มประเทศบริกส์ (BRICS)” โดยมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นหน่วยงานประสานหลักในการขับเคลื่อนการดำเนินงานการเข้าเป็นสมาชิกกลุ่มบริกส์ของไทย
โดยรัฐบาลมองว่า “การเข้าร่วม” เป็นสมาชิกกลุ่ม จะช่วยยกระดับ “บทบาทของไทย” ในฐานะผู้มีบทบาทนำใน “กลุ่มประเทศกำลังพัฒนา” และเพิ่มการมีส่วนร่วมในการ “กำหนดทิศทาง” นโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
เมื่อต้นปีนี้ “บริกส์”เพิ่งจะรับชาติสมาชิกใหม่อีก 5 ชาติอย่างเป็นทางการ ประกอบด้วย อียิปต์, เอธิโอเปีย, อิหร่าน, ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ด้วยความคาดหวังว่า จะกลายเป็นกลุ่มเศรษฐกิจใหม่ พร้อมเพิ่มบทบาทสำคัญทางเศรษฐกิจของโลก และลดการพึ่งพาชาติตะวันตก
บริกส์(Brics)คือใคร สำคัญอย่างไรกับ “นโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ”
บริกส์เป็นองค์กรระหว่างประเทศ เป็นขั้วอำนาจใหม่ของเศรษฐกิจโลก เป็นความท้าทายใหม่ในการจัดระเบียบการค้าโลกและถ่วงดุลอำนาจของ “สหรัฐและ EU” เป็นการรวมกลุ่มเศรษฐกิจแบบกว้าง ไม่มีข้อกำหนดการเปิดตลาด และสิทธิประโยชน์เหมือน FTA
หากรัฐบาลไทยสามารถสมัครเข้าร่วมกลุ่มจะถือเป็นการเปิดโอกาสทางเศรษฐกิจในอีกแง่มุม สามารถต่อรองกับกลุ่มเศรษฐกิจที่สำคัญในแต่ละทวีปทั่วโลก เอื้อประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ และนักลงทุนให้มีทางเลือกในการเข้าถึงตลาดใหม่ ไม่ว่าจะเป็นด้านการค้า และ การลงทุน, การปฏิรูป IMF การเปลี่ยนสกุลเงินสํารองระหว่างประเทศสกุลใหม่แทนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯเพื่อลดบทบาทและถ่วงดุลอำนาจทางการค้าโลกของสหรัฐฯ และ EU
เมื่อกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจแห่งนี้มีจำนวนสมาชิกมากขึ้น จะทำให้ครอบคลุมประชากรราว 3.5 พันล้านคน หรือราว 45% ของประชากรโลกหากพิจารณาในแง่มูลค่าทางเศรษฐกิจแล้ว ขนาดเศรษฐกิจของ “บริกส์” มีมูลค่ากว่า 28.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 28% ของมูลค่ารวมของเศรษฐกิจโลกที่สำคัญ คือ ประเทศสมาชิก “บริกส์” ยังเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบป้อนตลาดโลกราว 44% ด้วย
ที่ผ่านมา “บริกส์” ได้ก่อตั้งธนาคารเพื่อการพัฒนาใหม่ (New Development Bank-NDB) ขึ้น เพื่อให้เงินกู้แก่ประเทศที่ต้องการนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศ โดย ธนาคารแห่งนี้ปล่อยกู้ให้ชาติกำลังพัฒนาเพื่อนำไปสร้างถนน, สะพาน, รางรถไฟ และโครงการพัฒนาน้ำประปา รวมเป็นมูลค่าเกือบ 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
ยิ่งสงครามการค้ารอบใหม่ ระหว่าง 2 ชาติมหาอำนาจเศรษฐกิจโลก กำลังจะปะทุอีกครั้ง ยิ่งทำให้ “บริกส์” อาจเคลื่อนย้ายเงินทุนไปยังชาติกำลังพัฒนาเพื่อต่อสู้กับภาวะโลกร้อน หรือไม่ก็ลดทอนอำนาจของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในฐานะสกุลเงินของโลกลง
ที่สำคัญ แนวนโยบายเศรษฐกิจรัฐบาลระบอบทักษิณเน้นแนวทางเศรษฐกิจแบบ “ประชานิยม”คือการอัดเม็ดเงินเพื่อให้เห็นผลในระยะสั้น เรียกคะแนนนิยมจาก “โหวตเตอร์” ในขณะที่ “บริกส์”เน้นนโยบายการปฏิรูปเศรษฐกิจ ที่จะส่งผลในระยะยาว
แน่นอนการเข้าเป็นสมาชิก “บริกส์”จะทำให้ตลาดการค้าระหว่างประเทศของไทย หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าการค้าโลกแบบสองขั้วอย่างในปัจจุบัน ยิ่งไปกว่านั้น “บริกส์” มีบทบาทต่อการค้าของไทยถึง 22.8% ของการค้ารวมของไทยทั้งหมด ใกล้เคียงกับกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (กลุ่มG7) ที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 26.2% ของการค้ารวมของไทย
แต่ในสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศที่ฝ่ายการเมืองย่ำยีบดขยี้กระบวนการยุติธรรมเพื่อใครบางคนเสียงสำรอกสำรากเปลื้องผ้าโชว์ว่า “เศรษฐกิจไทย”วิกฤตหายนะ
รัฐบาลเป็ดง่อยจะมี “น้ำหน้า , น้ำยา”ให้ “บริกส์”รับเข้าเป็นสมาชิกอย่างนั้นหรือ เพราะในคราว 5 ชาติที่ได้รับการพิจารณานั้นมีประเทศที่ยื่นใบสมัครเข้าเป็นสมาชิก “บริกส์” มากกว่า 15 ชาติด้วยซ้ำ
อย่างนี้ “นักการเมืองเสียชาติเกิด”กับ“พรรคการเมืองชังชาติ” ที่ได้ทุน “สหรัฐ” สนับสนุนจะไม่คัดค้านอย่างเอาเป็นเอาตายอย่างนั้นหรือ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี