ดูเหมือนว่าทุกวันนี้ “องค์กรอิสระ” จะเป็นเพียงไม้หลักปักขี้ควายให้นักการเมืองเสียชาติเกิดนักเลือกตั้งชังชาติ ส่ำสัตว์ติ่งสัมภเวสีได้ “โหนกระแส” บดขยี้ย่ำยี ออกอาการพฤติกรรมไม่เห็นศีรษะผู้หลักผู้ใหญ่มากขึ้นทุกขณะ มากที่สุดในรอบการเมืองกว่าสองทศวรรษ หรือ 20 ปีก็ไม่ผิดนัก
วันก่อน ที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แจ้งว่าจะพิจารณาคดีที่ “คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ร้องยุบพรรคก้าวไกล สืบเนื่องจากมีพฤติกรรมกระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อันเป็นเหตุแห่งการยุบพรรคตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) (2) ซึ่งข้อเท็จจริงปรากฏตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2567 ในวันที่ 12 มิถุนายนนี้
คู่กรณีไม่สมควรแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคดีที่เป็นการชี้นำสังคมอันอาจกระทบต่อการดำเนินกระบวนการพิจารณาของศาลคู่กรณีที่ว่าหมายถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง และพรรคก้าวไกล
คำชี้แนะของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่สมควรได้รับการเคารพเพราะเป็นเสาหลักในระบอบประชาธิปไตยกลับถูกเพิกเฉยทันควัน เท่านั้นยังไม่พอ
“ชัยธวัช ตุลาธน” หัวหน้าพรรคก้าวไกลและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 26 ก็ประกาศความยิ่งใหญ่ของพรรคก้าวไกลเหนือตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเรียบร้อยแล้ว เพราะเคยคิดจะดำเนินการอย่างไรก็จะดำเนินการตามนั้น ไม่ไปกระทบกับกระบวนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ
กรณีนักโทษเด็ดขาดชายคดีทุจริตคอร์รัปชั่น ฉ้อฉลเงินแผ่นดิน - ทักษิณ ชินวัตร ก็เยี่ยงเดียวกัน เมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้ว “นิกร จำนง” สส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนาในฐานะเลขานุการ คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร ก.ม.ฉบับที่ตั้งหัวข้อความผิดคดีมาตรา 112 ไว้นั่นแหละ
ท่านเลขาฯบอกไว้ว่า ตอนนี้คณะกรรมาธิการเห็นชอบแล้วใน 3 ประเด็นคือ “กรอบเวลานิรโทษกรรม”, “ขอบเขตการนิรโทษกรรม” และ “นิยามคำว่าการกระทำที่เกิดจากแรงจูงใจทางการเมือง”
แต่เรื่องนี้ชัดครบจบจริงก็เสียงสำรอกสำรากว่า ประชุมกมธ.อีก 2-3 ครั้งคงสรุปเรื่องก.ม.นิรโทษกรรมครอบคลุมฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือไม่
จำได้ว่าในอดีตที่ผ่านมา มักจะเห็นนักเรียนขาสั้น นักเรียนอาชีวะสุดห้าว ที่มีลักษณะ “ข้าวต้ม!?!” พ่นสีตามกำแพงตามป้ายรถเมล์ ...พ่อสถาบันนั้นโรงเรียนนี้ เต็มไปหมด ไม่นึกว่าตำนานวันนั้นจะยืดยาวจนถูกหยิบฉวยมาให้ “นักโทษเด็ดขาดชายคดีทุจริตคอร์รัปชั่น ฉ้อฉลเงินแผ่นดิน”ได้ฟาดงวงฟาดงาประกาศศักดาเหมือน “วาทกรรมกุ๊ยในตำนาน” เสียอย่างนั้น
ยิ่งนานวันนักการเมืองเสียชาติเกิด, นักเลือกตั้งชังชาติ, ส่ำสัตว์ติ่งสัมภเวสี ยิ่งออกทะเลน้ำลึกไปทุกที
ออกทะเลจนเสียกบาล แยกไม่ออกว่า “ล่มชาติ/ล้มสถาบันใช่ คดีการเมืองหรือไม่??”
ในเมื่อ “นิยามของคำว่าการเมืองคือ งานที่เกี่ยวกับรัฐหรือแผ่นดิน”
ตั้งสติหน่อย “ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ”ท่านเคยวินิจฉัยไว้ชัดเจน “ปฏิรูป คือ ล้มล้าง”ไอ้เฒ่าทั้งหลาย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี