เวทีรับฟังความเห็น กลายเป็นเวทีประลองกำลังทางการเมือง
แล้วเผยธาตุแท้ กมลสันดานของนักการเมืองบางจำพวกอย่างเด่นชัด
1. กรณีที่เว็บไซต์รัฐสภา www.parliament.go.th ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนต่อร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมประชาชน พ.ศ. ....
ที่เสนอโดย น.ส.พูนสุข พูนสุขเจริญ ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และ ตัวแทนจาก “ไอลอว์” กับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 36,723 คน
เป็นไปตามมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญ
โดยยื่นต่อประธานรัฐสภาไว้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2567
รัฐสภาได้เปิดรับฟังความเห็นตั้งแต่ 13 พ.ค. ถึงวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ผู้จะกดโหวตความเห็นว่า “เห็นด้วย” หรือ “ไม่เห็นด้วย” จะต้องกรอกเลขบัตรประชาชนยืนยัน โดย ID แสดงความเห็นได้ครั้งเดียว
2. เนื้อหาให้นิรโทษกรรมคดีความผิดทางการเมือง รวมคดีมาตรา 112 ด้วย
ปรากฏว่า แฟนเพจศูนย์ทนายความฯ และเครือข่ายแนวร่วมที่สนับสนุนม็อบสามนิ้ว สนับสนุนการนิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 สนับสนุนพรรคก้าวไกล
ได้ทำแคมเปญเชิญชวน ทำคลิปสั้นๆ ทำแบนเนอร์กึ่งโฆษณา และระดมประชาชนให้ไปช่วยกันกด “เห็นด้วย”
จนกระทั่งบางช่วงสัดส่วนคะแนนผู้ “เห็นด้วย” กับ “ไม่เห็นด้วย” สูสีกันมากราวๆ 50/50 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษมาตรา 112 พอทราบพฤติกรรมเช่นนั้น ก็ได้ป่าวประกาศในโลกโซเชียล และผ่านสถานีท็อปนิวส์ จนกระทั่งมีประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 เข้าไปกด “ไม่เห็นด้วย” จำนวนมาก
หลังจากนั้น ปรากฏว่า แกนนำคณะก้าวหน้า ช่อ พรรณิการ์ อัดคลิป เร่งเร้าให้ผู้สนับสนุนเร่งเข้าไปกดเห็นด้วย บอกว่าแพ้ไม่ได้
โดยกล่าวหาว่าประชาชนที่ไปกดไม่เห็นด้วยนั้น เป็นพวกไอโอ !!!!
พร้อมกันนี้ มีสส.พรรคก้าวไกลร่วมดิสเครดิต ด้อยค่าประชาชนที่โหวตไม่ตรงกับความต้องการของตนเองเป็นพวกรับจ้าง เบิกเบี้ยเลี้ยง หรือไอโออีกต่างหาก
บรรดาแกนนำ แนวร่วมสามนิ้ว ระดมกันอย่างหนัก และโจมตีด้อยค่าฝ่ายที่ “ไม่เห็นด้วย” ตามขี้ปากของแกนนำแบบเชื่องๆ
กล่าวหาประชาชนอีกฝ่ายแบบท่องจำสูตรสำเร็จว่าเป็นพวก IO
3. เมื่อถึงเวลาปิดรับฟังความเห็น 12 มิ.ย. 2567
ปรากฏว่า มีจำนวนผู้ร่วมโหวต 90,503 คน
มีผู้ “ไม่เห็นด้วย” สูงถึง 64.66 เปอร์เซ็นต์
ขณะที่ “เห็นด้วย” มีเพียง 35.34 เปอร์เซ็นต์
4. ปรากฏว่า นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่ 1 อดีต สส. ก้าวไกล ได้ทวีตข้อความระบุว่า
“ผมได้สั่งการให้มีการตรวจสอบ IP address และความผิดปกติต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเว็บไซต์รับฟังความคิดเห็นต่อร่างกฎหมายแล้วนะครับ
จะแจ้งให้ทุกท่านทราบข้อเท็จจริงโดยเร็วครับ”
พร้อมติดแฮชแท็ก#พ.ร.บ.นิรโทษกรรม
ทำให้เพจเฟซบุ๊กวันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร โพสต์ข้อความตอบโต้ว่า
“ทุกคนคะ หมออ๋อง สั่งการตรวจสอบผลโหวต แพ้ได้ไง!!
การโหวตครั้งนี้มีการแทรกแซงและผิดปกติหลายจุด ตั้งแต่ปล่อยให้คนไทยที่รับเงินต่างชาติ เช่น iLaw ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ปลุกระดมให้คนโหวตแก้ไข 112
รวมถึงปล่อยให้คณะก้าวหน้า และ สส.ก้าวไกล ใส่ร้ายคนเห็นต่างว่าเป็น io
โดยเฉพาะตัว สส.ที่กินเงินภาษีประชาชน แต่กลับด้อยค่าคนเห็นต่าง
ที่เลวร้ายวันสุดท้ายการปั่นโหวตเพิ่มขึ้นผิดปกติ
และหลังปิดโหวต คะแนนเห็นด้วยยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไปจนถึง ตีหนึ่ง
แต่ก็ไม่สามารถชนะเสียงประชาชนได้
การที่รองประธานสภาฯที่ดูแลหน่วยงานนี้ปล่อยให้เกิดเรื่องชั่วร้ายแบบนี้นอกจากไม่แสดงความรับผิดชอบ ยังสั่งสอบผลว่าแพ้ได้ไง เอาใจต่างชาติอีกหรือคะ?
รองประธานสภาสมควรลาออกได้แล้วค่ะ..”
5. อันที่จริง ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมร่างกฎหมายนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย
เพราะเนื้อหาสำคัญ จะให้นิรโทษกรรมล้างผิดอย่างกว้างขวาง
โดยร่างพ.ร.บ.นี้ มีสาระสำคัญ คือ นิรโทษกรรมแก่การกระทำความผิดที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 จนถึงวันที่พระราชบัญญัติมีผลใช้บังคับ โดยมีคณะกรรมการนิรโทษกรรมประชาชนเป็นผู้วินิจฉัยการกระทำของบุคคลที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมืองหรือการแสดงออกทางการเมืองที่สมควรได้รับการนิรโทษกรรม
ยิ่งกว่านั้น คดีตามร่างมาตรา 5 จะให้ได้รับการนิรโทษกรรมโดยคณะกรรมการไม่ต้องพิจารณาวินิจฉัย ดังนี้
“1. คดีความผิดตามประกาศและคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
2. คดีพลเรือนที่ถูกดำเนินคดีในศาลทหารตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 37/2557 และฉบับที่ 38/2557
3. คดีตามฐานความผิดในมาตรา 112 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
4. คดีตามฐานความผิดในพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548
5. คดีตามฐานความผิดในพระราชบัญญัติออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559
6. คดีตามฐานความผิดที่เกี่ยวโยงกับคดีข้างต้น”
6. นายภัทร เหมสุข นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า เลิกดูถูกประชาชนฝั่งตรงข้ามตัวเองได้แล้วครับ
คนที่จะโหวตต้องกรอกบัตรประชาชน ไม่มี IO แน่นอน
คนไม่เอากฎหมายนิรโทษกรรม 64.98% ขณะที่คนที่เอามีเพียง 35.02% สิ่งนี้บอกอะไรได้หลายอย่าง
“1. อย่าท้าทายระบบ คนเห็นด้วยว่าคนทำผิดต้องรับโทษมีมากกว่า แม้ว่าคนนั้นจะมีความเห็นทางการเมืองตรงกันหรือไม่ตรงกัน ก็ไม่มีใครอยากให้คนทำผิดมีอำนาจเหนือกฎหมายและรัฐธรรมนูญ
2. ทำชั่วแล้วไม่ต้องรับกรรมชั่ว ไม่มีในโลกนี้ในมุมมองของกฎหมาย แม้บางคนมันจะซิกแซกรอดตัวจากกฎหมายในวันนี้ แต่วันหน้ากฎแห่งกรรมจะทำหน้าที่ลากคอมันมารับกรรมจนได้ ผมเชื่อแบบนี้ครับ
3. เลือกตั้งครั้งหน้ามีตัวแปรเพิ่มขึ้นแน่นอน ผมไม่สนใจหรอกครับว่าพรรคไหนจะเข้ามา แต่รู้อย่างหนึ่งคือเพื่อไทยเก้าอี้น้อยลงแน่นอนถ้ายังดื้อเป็นแกนนำผลักดันเรื่องนี้”
7. ในความเป็นจริง การแสดงความเห็นในเว็บไซต์รัฐสภานั้น ผลแพ้/ชนะ หรือจำนวนโหวต ไม่มีผลผูกมัดอะไรเลย
แต่จะช่วยสะท้อนท่าทีความคิดเห็นของสังคม ต่อร่างกฎหมายนั้นๆ
หากคิดว่าการโหวตครั้งนี้ มีการระดมกันทั้งสองฝ่าย (ฝ่ายเห็นด้วยเริ่มระดมก่อนด้วยซ้ำ) อาจทำให้ผิดธรรมชาติ
หลายคนอาจลืม หรือแกล้งลืม...
สส.พรรคก้าวไกล นำโดยนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกลเอง เคยเสนอร่างกฎหมายนิรโทษกรรม และถูกนำไปรับฟังความเห็นของประชาชนผ่านเว็บไซต์รัฐสภามาก่อนหน้านี้แล้ว
โดยสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้เปิดให้มีการรับฟังความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรมแก่บุคคลซึ่งได้กระทำความผิดอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง พ.ศ. .... ที่เสนอโดย ชัยธวัช ตุลาธนสส. ก้าวไกลกับคณะ
เนื้อหาก็เปิดช่องให้สามารถนิรโทษกรรมคดีความผิดมาตรา 112 ได้
เปิดรับฟังความเห็นประชาชนผ่านเว็บไซต์ของสภา ระหว่างวันที่ 9 พฤศจิกายนถึงวันที่ 9 ธันวาคม 2566 รวมระยะเวลาการเปิดรับฟังความคิดเห็น 1 เดือน
ขณะนั้น ยังไม่มีประเด็นความร้อนแรงของการระดมกันทางโซเชียลแบบนี้
ผลปรากฏว่า ประชาชนเข้าไปแสดงความเห็น โดยมีผู้เห็นด้วยแค่ 28.33%
ขณะที่ผู้ไม่เห็นด้วยมากถึง 71.67%
ก็สะท้อนชัดเจนถึงท่าทีของประชาชนต่อร่างกฎหมายที่มีเนื้อหาเปิดทางให้นิรโทษกรรมคดี 112 ว่าคนไทยไม่เห็นด้วยมากขนาดไหน
แปลกใจมากก็ตรงที่ยังมีความพยายามเอากลับมายัดเยียดเข้าสภา โดยน้ำมือนักการเมืองและคนบางกลุ่มที่ชอบอ้างประชาชนอย่างซ้ำซาก
ความหนาของหน้าเป็นอย่างไร แพ้แล้วยังพาล หรือไม่?
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี