ล่าสุด ศาลมีคำสั่งให้ยกเลิกระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ ของลอตเตอรี่พลัส “จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนเเปลงเป็นอย่างอื่น”
“ลอตเตอรี่พลัส” จึงยังสามารถเปิดขายต่อไปได้
ขณะนี้ จึงเท่ากับว่า ธุรกิจเอกชนที่ทำแพลตฟอร์มขายสลากกินแบ่งรัฐบาลรายใหญ่ ที่ยังขายต่อ คือ ลอตเตอรี่พลัส
เหลือรายเดียวที่เป็นเอกชนรายใหญ่ (ซึ่งไม่ได้รับมอบหมายจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลให้เป็นตัวแทนจำหน่าย)
ประเด็นที่น่าสนใจหลังจากนี้ คืออะไร?
1. ปิดฉากแพลตฟอร์ม “หงษ์ทอง”
ก่อนหน้านี้ กระทรวงดีอี ได้แจ้งข่าวการดำเนินการปิดแพลตฟอร์มหงษ์ทอง สรุปว่า
22 ก.ย. 2565 ศาลชั้นต้น มีคำสั่ง “ยกคำร้อง”ฝ่ายหงษ์ทองชนะ
11 มิ.ย.2567 ศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับคำสั่งของศาลชั้นต้น มีคำสั่งให้ระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ แพลตฟอร์ม “หงษ์ทอง”
โดยศาลชี้ว่า มีพฤติการณ์ขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา และมีลักษณะขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
สะท้อนว่า แม้ฝ่ายเอกชนจะชนะในชั้นต้น แต่รัฐก็สามารถยื่นอุทธรณ์ต่อได้ และอาจมีข้อเท็จจริงเพิ่มเติม จนทำให้ศาลกลับคำสั่ง ก็เป็นไปได้
2. กรณีลอตเตอรี่พลัส
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 17 พ.ค.2567 กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ยื่นร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์จำนวน 2 โดเมนเนม คือ ลอตเตอรี่พลัส.com และ lotteryplus.co.th ออกจากระบบคอมพิวเตอร์ เกี่ยวกับความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เนื่องจากตรวจพบว่าเป็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเข้าข่ายเป็นความผิดอาญาตามกฎหมายเกี่ยวกับการเล่นการพนันและละเมิดลิขสิทธิ์เพื่อการค้าของสลากกินแบ่งรัฐบาล
ปรากฏว่า ศาลมีคำสั่งให้ระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ฯ
ต่อมา เมื่อวันที่ 23 พ.ค.2567 บริษัทลอตเตอรี่พลัส จำกัด เป็นผู้คัดค้าน ยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งฯ และยกคำร้องของดีอี
24 พ.ค.2567 ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ทำให้ลอตเตอรี่พลัสกลับมาเปิดขายได้ ตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว
ล่าสุด 13 มิ.ย. 2567 ศาลมีคำสั่งให้ยกเลิกระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ฯ ลอตเตอรี่พลัส ตามคำสั่งวันที่ 17 พ.ค.2567 มีผลนับเเต่คำสั่งคุ้มครองชั่วคราวที่ให้ยกเลิกการปิดกั้นเเละลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้คัดค้านลงวันที่ 24 พ.ค.2567 สิ้นผล “จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนเเปลงเป็นอย่างอื่น คำขออื่นให้ยก”
นี่เป็นคำสั่งล่าสุด แต่มิใช่คำพิพากษาชี้ขาดท้ายสุดเพราะ “จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอื่น” และ“คำขออื่น(ของลอตเตอรี่พลัสนั้น)ให้ยก”
3. ทำไมศาลมีคำสั่งให้ยกเลิกระงับ?
เรื่องเริ่มมาจาก สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนไว้
จากนั้น ตำรวจ โดย บก.ปคบ. ตรวจสอบพบเว็บไซต์มีเนื้อหาเป็นการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งแก่ผู้บริโภคในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่ง เสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีพฤติกรรมเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ภาพวาดบนสลากกินแบ่ง โดยวิธีการนำภาพสลากกินแบ่งฯไปทำซ้ำหรือดัดแปลงและเผยแพร่ต่อสาธารณชนเพื่อการค้า
บก.ปคบ. ส่งเรื่องให้กระทรวงดีอี รัฐมนตรีดีอีจึงขอให้ศาลมีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลาย
เหตุที่ศาลให้ยกเลิกการระงับ จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอื่น เพราะพงส.ไม่มีการสอบสวนเพิ่มเติม และฝ่ายลอตเตอรี่พลัสก็มีข้อต่อสู้!?
ผู้ร้อง (กระทรวงดีอี) ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้คัดค้าน (ลอตเตอรี่พลัส) ออกจากระบบคอมพิวเตอร์ ในกรณีที่มีการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่เป็นความผิดอาญาตามกฎหมายเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาหรือกฎหมายอื่น ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นมีลักษณะขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ตามมาตรา 20(3) แห่ง พ.ร.บ.ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
จากกรณีที่แพลตฟอร์มลอตเตอรี่พลัส ของผู้คัดค้านมีรูปแบบการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ให้ผู้บริโภคชำระค่าเช่าตู้เซฟหรือเช่าพื้นที่เก็บลอตเตอรี่ฉบับละ 25 บาท ซึ่งสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเห็นว่าเข้าข่ายเป็นการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งที่ออกตาม พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 และยังไม่ได้ออกรางวัล ในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งฯอันเป็นความผิดตามกฎหมายตาม พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 เสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งฯที่ออกจำหน่ายและที่ยังไม่ได้ออกรางวัลเกินกว่าราคาที่กำหนดในสลาก โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 ทำซ้ำหรือดัดแปลงหรือเผยแพร่ต่อสาธารณชนแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ โดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อการค้า อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนไว้
(1) ความผิดเกี่ยวกับการขายสลากเกินราคา พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517
ศาลชี้ว่า ประเด็นนี้ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ซึ่งตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 มาตรา 39 กำหนดให้เป็นพินัย พนักงานสอบสวนจึงส่งเรื่องกลับให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลดำเนินการตาม พ.ร.บ. ดังกล่าวต่อไป
(2) ความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน และความผิดตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์
ศาลชี้ว่า ได้ความตามคำเบิกความของพยานผู้ร้องปาก พ.ต.ท.ประทีป จันทร์เพชรบุรี ผู้ได้รับการแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
ระบุว่า ความผิดทั้งสองข้อหาดังกล่าวจนถึงปัจจุบัน“มีเพียงการแจ้งข้อกล่าวหาบริษัทผู้คัดค้าน(ลอตเตอรี่พลัส)ไว้เท่านั้น โดยไม่ได้มีการสอบสวนเพิ่มเติมแต่อย่างใด”
ซึ่งจากการไต่สวนพยานผู้คัดค้าน ก็ได้ความว่า ผู้คัดค้าน (ลอตเตอรี่พลัส) ได้เสนอขายและขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาฉบับละ 80 บาท ซึ่งเป็นราคาที่กำหนดไว้ในสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยการซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลจากผู้คัดค้านตามคำร้องเป็นการซื้อขายในทางปกติ “หากผู้ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลไม่มีความประสงค์ฝากสลากไว้กับผู้คัดค้าน หรือเลือกวิธีการให้ผู้คัดค้านส่งต้นฉบับให้ผู้ซื้อทางระบบขนส่ง ผู้ซื้อสามารถจองคิวเข้าซื้อสลาก ณ ที่ทำการของผู้คัดค้านได้ โดยไม่มีค่าบริการอื่นๆ”
ส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พยานผู้คัดค้านเบิกความว่า การนำโลโก้หรือตราบริษัท หรือสัญลักษณ์ของผู้คัดค้านมาปิดบริเวณสลากกินแบ่งรัฐบาล มิได้กระทำโดยทุจริตหรือหลอกลวงฯ ทำเพื่อป้องกันการคัดลอกรูปสลากกินแบ่งรัฐบาลจากแพลตฟอร์มของผู้คัดค้านเอาไปหาประโยชน์ในทางมิชอบ
ด้วยเหตุนี้ ศาลจึงชี้ว่า
“ในทางคดี จึงเห็นว่าผู้คัดค้านมีข้อต่อสู้ ดังนั้น การที่เพียงแต่มีคำสั่งให้ระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้คัดค้านโดยไม่ปรากฏเหตุผลความจำเป็นเร่งด่วน และไม่มีการสอบสวนเพิ่มเติมใดๆ
ในขณะเดียวกันผู้คัดค้านก็มีเหตุผลคอยรองรับการต่อสู้คดี
พิจารณาแล้วข้อเท็จจริงที่ได้ความเปลี่ยนเเปลงไป จึงเห็นว่ายังไม่มีเหตุเพียงพอที่ศาลจะมีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้คัดค้านออกจากระบบคอมพิวเตอร์
จึงมีคำสั่งให้ยกเลิกระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ฯ ... จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนเเปลงเป็นอย่างอื่น คำขออื่นให้ยก...”
4. เป็นที่น่าสนใจ... พยานของลอตเตอรี่พลัส ให้การในชั้นศาลว่า มีช่องทางบริการ “จองคิวเข้าซื้อสลาก ณ ที่ทำการของผู้คัดค้านได้ โดยไม่มีค่าบริการอื่นๆ”
คือ สามารถซื้อสลากในราคา 80 บาท ณ ที่ทำการของลอตเตอรี่พลัส !!!!
เท่ากับว่า มีการขายสลากในราคา 80 บาท ณ ที่ทำการของลอตเตอรี่พลัส !!!
ถ้าทำเช่นนี้จริง สมควรจะป่าวประกาศประชาสัมพันธ์ให้กว้างขวาง เพราะประชาชนที่สนใจจะได้ไปซื้อในราคา 80 บาท โดยไม่เสียค่าบริการใดๆ เพิ่มเติม
แต่ในความเป็นจริง น่าสนใจว่า ที่ผ่านมา มีการขายแบบนี้จริงๆ กี่ราย?
ตำรวจควรต้องสอบประเด็นนี้เพิ่มเติม ว่าเป็นความจริงหรือไม่? ทำตรงไหน? อย่างไร?
เพราะที่ผ่านมา ไม่พบการโฆษณาประชาสัมพันธ์การขายสลากด้วยวิธีนี้อย่างกว้างขวางเลย
ประเด็นนี้ มีส่วนทำให้ศาลชี้ว่า “ในทางคดี จึงเห็นว่าผู้คัดค้านมีข้อต่อสู้”
ถ้าจริง ต่อไปนี้ ประชาชนคนไหนต้องการซื้อสลากราคา 80 บาท สามารถจองคิวไปซื้อ ณ ที่ทำการของลอตเตอรี่พลัสได้ ควรบอกต่อๆ กันไปให้มากๆ เพราะประโยชน์ของประชาชนส่วนรวม
5. กรณี “จนถึงปัจจุบัน มีเพียงการแจ้งข้อกล่าวหาบริษัทผู้คัดค้านไว้เท่านั้น โดยไม่ได้มีการสอบสวนเพิ่มเติมแต่อย่างใด”
น่าสงสัยว่า เกิดอะไรขึ้นกับการทำหน้าที่ตามกฎหมายของพนักงานสอบสวน?
ประเด็นความผิดตาม พ.ร.บ.สำนักงานสลากฯ โทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท พงส.ส่งเรื่องกลับให้ สนง.สลากฯ ก็ต้องติดตามว่า สนง.สลากกินแบ่งรัฐบาล ปรับไปเท่าไหร่ อย่างไร ผลเป็นประการใด?
แต่ประเด็นความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน ที่ปรากฏในชั้นไต่สวนของศาลว่า “จนถึงปัจจุบัน มีเพียงการแจ้งข้อกล่าวหาบริษัทผู้คัดค้านไว้เท่านั้น โดยไม่ได้มีการสอบสวนเพิ่มเติมแต่อย่างใด”
น่าสงสัยว่า เหตุใด จึงไม่ปรากฏภาพการตรวจค้นเหมือนสมัยรัฐบาลที่แล้ว ที่มีเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น “กองสลากพลัส” เพื่อหาหลักฐานว่ามีสลากตัวจริงครบถ้วนหรือไม่? (ถ้าครบถ้วน ก็จะไปดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงมิได้)
ประการสำคัญ เหตุใด ยังไม่พบข้อสรุปของการสอบสวนประเด็นว่า แพลตฟอร์มเอกชน มีพฤติการณ์เป็นเจ้ามือเองหรือไม่?
ควรพิจารณาว่า การประกาศให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้ถูกรางวัล ไม่ว่าจะเป็น การรับผิดชอบจัดการค่าธรรมเนียม ค่าอากร ให้แก่ผู้ถูกรางวัล รวมถึงการนำเงินสดๆ เต็มจำนวนรางวัลไปมอบแก่ผู้ถูกรางวัล
ทั้งหมด มีผลจูงใจผู้ซื้อ ย่อมคาดหวังว่าหากถูกรางวัลกับลอตเตอรี่พลัส ตนจะได้รับผลประโยชน์มากกว่าที่ไปซื้อจากตัวแทนจำหน่ายถูกกฎหมายของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือไม่?
แบบนี้ เข้าข่ายเสมือนเป็นเจ้ามือหรือไม่?
ถ้าไม่เข้าข่าย ก็จะได้ชัดเจนไปเลยว่า ต่อไปนี้ ลอตเตอรี่พลัสทำได้อย่างเต็มที่
และถ้าทำแบบนี้ได้ รายอื่นๆ ก็ย่อมจะสามารถทำได้เช่นกัน
ต่อไป ถ้าแพลตฟอร์มรายใด จะทำการตลาด ประกาศให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมแก่ผู้ถูกรางวัลที่ซื้อสลากจากแพลตฟอร์มตนเอง ก็ย่อมจะทำได้ใช่หรือไม่
ในอนาคต เราอาจจะเห็นการแข่งขันจากแพลตฟอร์มอื่น เช่น อาจมีการประกาศแจกทองคำแท่งสำหรับผู้ถูกรางวัลที่ 1 จากแพลตฟอร์มของเอกชนรายอื่นก็ได้ ทั้งๆ ที่ น่าจะเข้าข่ายไปเพิ่มรางวัลจูงใจคนซื้อด้วยตนเอง อาจเข้าลักษณะเป็นเจ้ามือเสียเองหรือไม่?
ล่าสุด ทราบว่า พงส. เตรียมจะสรุปข้อมูลเพิ่มเติม และดีอีเตรียมจะดำเนินการอุทธรณ์เรื่องต่อไป
สันติสุข มะโรงศรี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี