ขณะนี้นายกฯเศรษฐา ทวีสิน ป่วยด้วยโรคโควิด-19 หมอให้พักการทำงานชั่วคราว ก่อนหน้านี้นายเศรษฐา ยืนยันจะไม่ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และไม่ยุบสภา แม้จะเจอสารพัดมรสุมรุมเร้าโดยเฉพาะเรื่องที่กลุ่ม 40 สว.ยื่นถอดถอนออกจากความเป็นรัฐมนตรี เนื่องจาก นายเศรษฐา ดันไป แต่งตั้งรัฐมนตรีถุงขนม จนโดนฝ่ายตรงข้ามและฝ่ายเดียวกันกระหน่ำจนยับเยิน รัฐมนตรีถุงขนมจึงต้องลาออก ปล่อยให้นายกฯเศรษฐา เผชิญชะตากรรมบนศาลรัฐธรรมนูญตามลำพัง
ล่าสุดกลุ่ม 40 สว.ได้ส่งพยานสำคัญขึ้นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อลุยคดีถอดถอนนายเศรษฐาประกอบด้วย สว.ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สว.สมชาย แสวงการ และสว.ประพันธ์ คูณมีเพื่อชี้ให้ศาลเห็นว่าการกระทำของนายเศรษฐา เป็นการกระทำที่ไม่สุจริต
ยังไม่รวมเรื่องของแพงทั้งแผ่นดิน ที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ รวมทั้งนโยบายต่างๆ ที่นายเศรษฐาเคยหาเสียงไว้ แทบหาความสำเร็จไม่เจอ จนโลกโซเชียลมีเดีย นำมาเสนออย่างตลกขบขันน่าสมเพชเวทนายิ่งนัก
ขณะที่ นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.หลายสมัย ได้โพสต์ข้อเขียนผ่านเฟซบุ๊กถึงเขียน เรื่อง ฝากถึง “เศรษฐา” ถ้าไปไม่รอด ยุบสภาดีกว่าลาออก โดยมีเนื้อหาว่า เมื่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ออกมาสัมภาษณ์ยืนยันว่า จะไม่ชิงลาออก-ยุบสภาฯ หนีคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญคดีแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และย้ำว่าไม่คิดใช้วิธีพิสดารในการหนี พร้อมรับคำตัดสินนั้น
ผมเห็นด้วยกับวิถีคิดของนายเศรษฐา เพราะตามวิถีทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย เมื่อการเมืองเดินเข้าสู่ทางตัน ทางออกของบ้านเมืองในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข นั่นก็คือนายกรัฐมนตรี ลาออก หรือประกาศยุบสภา ถ้าหากการเมืองของประเทศเข้าสู่ทางตันจริงๆ ก็อยากให้นายเศรษฐาได้ใช้วิถีทางตามระบอบประชาธิปไตย อย่าดื้อรั้นจนมีอำนาจนอกระบบเข้ามาควบคุมการบริหารประเทศ ด้วยการรัฐประหาร ซึ่งทำให้ประเทศถอยหลังเข้าคลอง และการรัฐประหารก็ไม่ใช่คำตอบของประเทศ
สำหรับสถานการณ์การเมืองในตอนนี้ ถ้าหากนายเศรษฐา จะตัดสินใจทางการเมืองด้วยการลาออก หรือยุบสภานั้น ส่วนตัวสนับสนุนให้นายเศรษฐายุบสภาคืนอำนาจให้กับประชาชนดีกว่าการลาออก ด้วยเหตุผล คือ
1.เป็นการคืนอำนาจให้กับประชาชนได้ตัดสินใจเลือกตัวแทนและพรรคการเมือง เข้ามาบริหารประเทศใหม่ 2.การยุบสภาเป็นแนวทางตามระบอบประชาธิปไตย เมื่อคืนอำนาจให้ประชาชนแล้ว ป้องกันตัดตอนอำนาจแฝง หรืออำนาจนอกระบบ เข้ามาแทรกแซงการเมืองของประเทศได้ 3.การเลือกตั้งแต่ละครั้ง จะมีเม็ดเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจช่วงเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไปในตัว
4.จะแก้ปัญหาพรรคการเมือง และนักการเมืองที่ซื้อเสียงได้ระดับหนึ่ง เพราะการเลือกตั้งที่ผ่านมาพรรคการเมืองใช้เงินในการหาเสียงกันอย่างมโหฬาร บางพรรคใช้หลักพันล้านถึงหมื่นล้าน ถ้ามีการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ อาจจะมีพรรคการเมืองที่ยังถอนทุนคืนไม่ทัน อาจทุ่มเงินในการเลือกตั้งน้อยลง 5.เป็นการสลายขั้วทางการเมืองเก่าไป เป็นการล้างไพ่ใหม่ หลังเลือกตั้งเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองจับขั้วกันใหม่ 6.หลังการเลือกตั้งจะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในสภาผู้แทนราษฎร โดยไม่มีสมาชิกวุฒิสภาเข้ามาร่วมโหวต รัฐบาลใหม่จึงมาจากการโหวตเลือกของสส.ที่เป็นตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริง
“การตัดสินใจทางการเมืองใดๆ ในตอนนี้ อำนาจสูงสุดอยู่ที่นายเศรษฐาเพียงคนเดียว มีอำนาจเบ็ดเสร็จ จึงทำให้นายเศรษฐาถือไพ่เหนือกว่าคนอื่นทุกคน ถ้าหากถูกบีบคั้นทางการเมืองมากๆ และ การเมืองเดินไปสู่ทางตัน ขอให้ใช้วีธีการยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชนเป็นการดีที่สุด” นายเทพไท ระบุ
ความเห็นของนายเทพไท เสนพงศ์ นั้นเป็นไปตามกระบวนการประชาธิปไตย แต่หากไม่อยากให้ประเทศชาติก็ต้องสิ้นเปลืองงบประมาณในการเลือกตั้ง การลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน ก็ถือเป็นทางออกอีกทางหนึ่ง เพื่อเปิดทางให้คนมีความรู้ความสามารถเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศไทย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี