ข้าราชการ ลูกจ้าง และทหารเกณฑ์ ได้เฮไปแล้ว!
ครม.มีมติเห็นชอบจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว (เฉพาะขรก.ที่มีรายได้ต่ำ)ทำให้มีรายได้ในแต่ละเดือนเพิ่มขึ้นราวๆ 1,000 – 2,000 บาท
จะทำให้ไม่มีใครมีรายได้ต่ำกว่า 11,000 บาทต่อเดือน อีกต่อไป!
1. การประชุม ครม.เมื่อวานนี้ (18 มิ.ย.2567) มีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวของข้าราชการ และลูกจ้างประจำของส่วนราชการ พ.ศ. ....
เรียบร้อย ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ
ไฟเขียวให้ดำเนินการเบิกจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวของข้าราชการ ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราว และทหารกองประจำการ (กลุ่มที่มีรายได้น้อย)
เริ่มมีผลเดือน พ.ค. 2567 เลย
2. ที่มาของการจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวของข้าราชการ ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราว และทหารกองประจำการ (กลุ่มที่มีรายได้น้อย)
ความจริง คณะรัฐมนตรีได้มีมติตั้งแต่ 28 พฤศจิกายน 2566
เห็นชอบกับรายงานผลการศึกษาตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2566 เรื่อง การปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำ และการปรับอัตราเงินเดือนสำหรับกลุ่มข้าราชการพลเรือนและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอและให้สำนักงาน ก.พ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงาน ก.พ.ร. ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
โดยรายงานผลการศึกษาดังกล่าวมีข้อเสนอ สรุปดังนี้
(1) การปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุและการปรับเงินเดือนชดเชยผู้ที่ได้รับผลกระทบ
โดยปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุทุกคุณวุฒิให้แตกต่างกันตามระดับคุณวุฒิการศึกษา
ผู้ที่ปฏิบัติงานในตำแหน่งที่ใช้คุณวุฒิระดับปริญญาตรีจะมีเงินเดือนไม่น้อยกว่า 18,000 บาท และผู้ที่ปฏิบัติงานในตำแหน่งที่ใช้คุณวุฒิระดับ ปวช. จะมีเงินเดือนไม่น้อยกว่า 11,000 บาท ภายใน 2 ปี และปรับอัตราเงินเดือนของคุณวุฒิอื่นๆ ให้สอดคล้องกัน รวมทั้งปรับเงินเดือนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบจากการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุดังกล่าวภายในช่วงระยะเวลาเดียวกัน
ทั้งนี้ จะทยอยปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุตามคุณวุฒิ และปรับเงินเดือนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบ จำนวน 2 ครั้ง
(2) การปรับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุกระทรวงการคลัง
โดยกรมบัญชีกลางเห็นควรพิจารณาปรับเพดานเงินเดือนขั้นสูง ที่มีสิทธิได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว
จากเดิม เงินเดือนไม่ถึงเดือนละ 13,285 บาท
เป็น เงินเดือนไม่ถึงเดือนละ 14,600 บาท
และปรับเพดานขั้นต่ำของเงินเดือนรวมกับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว จากเดิม เดือนละ 10,000 บาท เป็น เดือนละ 11,000 บาท
ส่วนนี้เอง ที่ ครม.เพิ่งมีมติเห็นชอบระเบียบรองรับการเบิกจ่ายเงินล่าสุด
3. ช่วย ขรก. ลูกจ้าง และทหารกองประจำการ มีเงินเข้ากระเป๋าขั้นต่ำ รวมเดือนละไม่ต่ำกว่า 11,000 บาท
กระทรวงการคลังพิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อให้ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราว และทหารกองประจำการ สามารถดำรงชีพอยู่ได้ในสภาพเศรษฐกิจและค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน
และสอดคล้องกับการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุและการปรับเงินเดือนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบซึ่งเป็นไปตามกับมติคณะรัฐมนตรีตามข้อ 1
กระทรวงการคลัง โดยกรมบัญชีกลาง จึงได้ดำเนินการยกร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวของข้าราชการและลูกจ้างประจำของส่วนราชการ พ.ศ. ....
สาระหลัก คือ ปรับอัตราเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว
โดยการปรับเพดานเงินเดือนขั้นสูงที่มีสิทธิได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว สำหรับข้าราชการและลูกจ้างประจำ ซึ่งมีเงินเดือนหรือค่าจ้างไม่ถึง 14,600 บาท ให้ได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวเดือนละ 2,000 บาท
แต่เมื่อรวมกับเงินเดือนหรือค่าจ้างแล้วต้องไม่เกิน เดือนละ 14,600 บาท
และการปรับเพดานขั้นต่ำของเงินเดือนรวมกับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว สำหรับข้าราชการ ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราว และทหารกองประจำการ ซึ่งมีเงินเดือนหรือค่าจ้างไม่ถึงเดือนละ 11,000 บาท ให้ได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวเพิ่มขึ้นจากเงินเดือนหรือค่าจ้างอีกจนถึงเดือนละ 11,000 บาท
พูดง่ายๆ คือ ช่วยให้ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราว และทหารกองประจำการมีเงินเข้ากระเป๋าขั้นต่ำรวมค่าครองชีพนี้แล้ว ไม่ต่ำกว่า 11,000 บาทต่อเดือน
โดยคนที่มีเงินเดือนเกิน 14,600 บาท จะไม่ได้เงินเพิ่มค่าครองชีพนี้
4. จะได้เงินเพิ่มกันคนละเท่าไหร่?
การปรับอัตราเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว ตามร่างระเบียบกระทรวงการคลังฯ ล่าสุดนี้ กลุ่มไหนจะได้เงินเพิ่มคนละเท่าไหร่ต่อเดือน?
ซึ่งจะได้ย้อนหลังด้วย เพราะนับเริ่มจากเดือน พ.ค.2567
สรุปได้ ดังนี้
(1) ข้าราชการและลูกจ้างประจำ ที่มีวุฒิการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี
ใครเงินดือน/ค่าจ้างไม่ถึงเดือนละ 14,600 บาท (เดิม 13,285 บาท) จะได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว 2,000 บาทต่อเดือน
แต่รวมแล้ว จะต้องได้ไม่เกินเพดานที่เดือนละ 14,600 บาท
ส่วนใครเงินดือน/ค่าจ้างไม่ถึงเดือนละ 11,000 บาท (เดิม 10,000 บาท จะได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวจนรายได้รวมขึ้นไปถึงเกณฑ์ขั้นต่ำ 11,000 บาทต่อเดือน
(2) ลูกจ้างชั่วคราวที่มีวุฒิการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี
ใครเงินดือน/ค่าจ้างไม่ถึงเดือนละ 11,000 บาท(เดิม 10,000 บาทจะได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวจนรายได้รวมขึ้นไปถึงเกณฑ์ขั้นต่ำ 11,000 บาทต่อเดือน
(3) ทหารกองประจำการ ซึ่งได้รับเงินเดือนในระดับ พ.1 หรือทหารเกณฑ์ในปัจจุบันนั่นเอง
จะได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวจนรายได้รวมขึ้นไปถึงเกณฑ์ขั้นต่ำ 11,000 บาทต่อเดือน
5. เพิ่มภาระรายจ่ายงบประมาณแผ่นดินเท่าไหร่?
กระทรวงการคลัง ได้รายงานประมาณการการสูญเสียรายได้ตามมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐฯ แล้ว
คาดว่า ในการเบิกจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวฯ ตามแนวทางนี้จะใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นประมาณ 200 ล้านบาทต่อเดือน
หรือประมาณ 2,400 ล้านบาทต่อปี
โดยเบิกจ่ายจากเงินงบประมาณรายจ่าย (งบบุคลากร)
จะช่วยให้บุคคลดังกล่าว สามารถดำรงชีพอยู่ได้ในสภาพเศรษฐกิจและค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน และเพื่อให้สอดคล้องกับการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุและการปรับเงินเดือนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบ
6. โลกนี้ ไม่มีอะไรฟรี
เมื่อมีคนได้เงินเพิ่ม ก็ต้องมีคนจ่าย
จะเห็นว่า มาตรการนี้ ดำเนินการคู่ขนานไปกับการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ และการปรับเงินเดือนข้าราชการ
สะท้อนว่า รัฐบาลก็ตระหนักว่าปัจจุบัน ปัญหาค่าครองชีพได้ขยับตัวสูงขึ้น
ยิ่งเพิ่มน้ำหนักในคำถามสำคัญ คือ ทำไมรัฐบาลไม่ช่วยเหลือบรรเทาแก่ประชาชนทั่วไปบ้าง เพื่อรักษาระดับกำลังซื้อ คล้ายๆ ในสมัยรัฐบาลก่อน มีโครงการคนละครึ่ง เป็นต้น
อย่าไปกลัวเสียหน้าทางการเมือง จนไม่กล้าช่วยเหลือประชาชนให้ทันที
มิฉะนั้น รัฐบาลนั่นเอง จะตกเป็นเป้าของความเกลียดชัง และถูกมองว่าเพิกเฉยล่าช้า ในการช่วยเหลือปากท้องชาวบ้าน
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี