วิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี บอกกับสังคมไทยแบบได้ฟังแล้วสุดงวยงงว่า ไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก ในกรณีความขัดแย้งกันอย่างหนักระหว่างต่อศักดิ์ สุขวิมล กับ สุรเชษฐ์ หักพาล ทั้งๆ ที่สังคมเห็นชัดว่าทั้งสองคนสาวไส้กันอย่างอึกทึกครึกโครม
สิ่งที่สังคมไทยคลางแคลงใจมากคือ ตลอดระยะเวลา 4 เดือนที่รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีสั่งให้ตั้งคณะกรรมการสอบเรื่องราวของตำรวจทั้งสอง โดยเฉพาะเรื่องผิดกฎหมายสารพัดชนิด ทั้งส่วยทั้งบ่อนพนันออนไลน์ แต่สุดท้ายวิษณุออกมาบอกแบบงงๆ ว่า ไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก แล้วก็บอกว่าต่อศักดิ์จะกลับไปรับตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตามเดิม ส่วนสุรเชษฐ์ก็จะกลับไปเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตามเดิม
เมื่อสังคมได้ยินคำตอบแบบงงๆ จากวิษณุก็ทำให้เกิดคำถามว่า ตกลงแล้วการทำงานโดยคณะกรรมการสอบสวนเรื่องของตำรวจทั้งสอง ที่นำโดย ฉัตรชัย พรหมเลิศ ก็ออกมาทำนองว่าเรื่องราวที่ยังเป็นเรื่องผิดกฎหมายไม่ใช่เรื่องที่คณะกรรมการชุดนี้จะชี้ว่าใครผิดหรือถูก แต่เรื่องผิดกฎหมายทั้งหลายจะถูกส่งไปยังหน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบเรื่องราวผิดกฎหมาย แต่สรุปคือ ไม่ว่าใครจะผิดหรือถูก แต่ทั้งสองคนก็กลับไปทำหน้าที่ตามเดิม
เรื่องผิดกฎหมายต่างๆ ที่ตำรวจทั้งสองสาวไส้กันเองจนสังคมได้รับรู้โดยทั่วกันนั้น กลายเป็นเสมือนเรื่องปาหี่ในสังคมไทย ขอย้ำว่าเรื่องผิดกฎหมายต่างๆ ที่ต่างคนต่างสาวไส้กันเองนั้น เป็นเพราะต้องการเงินเพื่อไปซื้อตำแหน่งในวงการตำรวจ ขอย้ำว่าคำว่าซื้อตำแหน่งนั้นออกมาจากปากของวิษณุโดยตรง และยังบอกว่าเรื่องความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้นคั่งค้างมานานกว่า 10 ปีแล้ว ขอย้ำว่า ใครก็ตามที่ฟังวิษณุแถลงกับนักข่าว ต่างก็รู้สึกหมดหวัง และสิ้นหวังในวงการตำรวจไทย
ก่อนอื่นต้องย้ำว่า นายกรัฐมนตรีคือผู้บังคับบัญชาสูงสุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อเกิดปัญหาความไม่ปกติในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และยังเกิดเหตุทุจริตในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่นายกรัฐมนตรีไม่สามารถแก้ปัญหาในสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ แล้วเมื่อเป็นเช่นนี้ จะหาความเชื่อมั่นศรัทธาใดๆ ได้จากวงการตำรวจไทย แล้วที่สำคัญยิ่งกว่าคือจะไปหวังอะไรกับนายกรัฐมนตรี เพราะในเมื่อนายกรัฐมนตรีเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดเหนือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ผลสุดท้ายก็ปรากฏว่านายกรัฐมนตรีไม่มีปัญญาแก้ปัญหา และความไม่ปกติในสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้
ขอย้ำว่าคู่กรณีจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติคือต่อศักดิ์กับสุรเชษฐ์ แล้วขอย้ำอีกทีว่าทั้งสองฝ่ายกล่าวหากัน และสาวไส้กันและกันอย่างโจ๋งครึ่ม มีการสาวไส้ในคดี 140 ล้าน เป้รักผู้การฯ เท่าไร คดีกำนันนกคดีพนัน BNK คดีพนันมินนี่ และยังมีอีกสารพัดคดีทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่วิษณุกล่าวกับสื่อมวลชนในวันแถลงข่าวนี้ แต่สุดท้ายวิษณุก็บอกว่าเรื่องราวเหล่านี้ก็ต้องส่งให้หน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบ รับเรื่องไปดำเนินคดีต่อไป โดยตำรวจทั้งสองไม่ถูกระบุโดยคณะกรรมการสอบสวนฯ ชุดที่มีฉัตรชัยเป็นประธานว่ามีความผิดสถานใด โดยวิษณุบอกว่าผลการสอบสวนโดยกรรมการฯ ไม่ระบุว่าใครผิด หรือใครถูก
คำถามคือแล้วทำไมนายกรัฐมนตรีสั่งโยกย้ายต่อศักดิ์ไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แล้วทำไมรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสั่งปลดสุรเชษฐ์ออกจากราชการ สรุปว่า การสั่งโยกย้ายต่อศักดิ์ และการสั่งปลดสุรเชษฐ์ เป็นการดำเนินการเสมือนเล่นปาหี่ ใช่หรือไม่
ขอถามอีกทีว่า ทั้งต่อศักดิ์ และสุรเชษฐ์ ยังมีคดีพัวพันอยู่ใช่หรือไม่ แล้วทำไมจึงส่งตำรวจที่มีคดีพัวพันกลับไปทำหน้าที่ผู้บังคับบัญชาระดับสูงในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถามว่าเรื่องไม่ปกติแบบนี้เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีเห็นชอบ ใช่หรือไม่ การส่งตำรวจที่มีคดีพัวพันเข้าไปทำงานในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ เป็นเรื่องที่เหมาะสม เช่นนั้นหรือ
มีคำถามจากสังคมอีกว่า คณะกรรมการสอบสวนเรื่องนี้ ที่นำโดย ฉัตรชัย พรหมเลิศ ไม่มีข้อสรุปใดๆ เลยหรือ ก็ในเมื่ออุตส่าห์เข้าไปทำหน้าที่ตรวจสอบเป็นเวลานานถึงสี่เดือน แต่สุดท้ายกลับไม่มีข้อสรุปใดๆ ที่เป็นรูปธรรม แล้วอย่าลืมว่าทั้งต่อศักดิ์และสุรเชษฐ์มีตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงสุดในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แล้วเมื่อส่งตำรวจที่มีคดีพัวพันกลับไปเป็นใหญ่ที่มีอำนาจสูงสุดในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แล้วแบบนี้จะไปหาความจริงได้อย่างไร เพราะในเมื่อผู้มีอำนาจสูงสุดหมองมัวเพราะมีคดีพัวพัน แล้วจะไปหาใครที่ไหนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปทำหน้าที่ตรวจสอบผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
นี่คือความมั่วซั่ว นี่คือความสับสน และนี่คือความไม่มีหลักไม่มีเกณฑ์ใดๆ ในกระบวนการยุติธรรมของไทย ใช่หรือไม่ แล้วสังคมไทยจะเป็นอย่างไรในเมื่อตำรวจระดับผู้บริหารสูงสุดมีเหตุพัวพันกับคดีและเหตุทุจริตต่างๆ แล้วก็ต้องถามต่อไปว่า เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว สังคมไทยจะประสบหายนะในเร็วๆ นี้ใช่หรือไม่ สังคมไทยยอมรับความไม่โปร่งใสในวงการตำรวจ ใช่หรือไม่ เมื่อตำรวจระดับสูงยังเละเทะ เหลวแหลก เลอะเทอะแบบนี้แล้ว เราจะหาความปกติสุขในสังคมไทยได้อย่างไร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี