ประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เยือนเกาหลีเหนือ ระหว่างวันที่ 18-19 มิถุนายนที่ผ่านมาที่สหรัฐระบุว่า การเยือนเปียงยาง สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นหุ้นส่วนของ 2 รัฐนิวเคลียร์ ที่กระชับความสัมพันธ์กันแนบแน่นยิ่งขึ้น นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากสงครามรุกรานยูเครน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2022
ผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จอง อึน เอ่ยปากเชื้อเชิญปูติน ให้ไปเยือนเปียงยางระหว่างที่ตัวเขาเองเดินทางไปยังภูมิภาคตะวันออกไกลของรัสเซียเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ในขณะที่ตัวปูติน เอง เคยไปเยือนเปียงยางครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2000
ระหว่างที่ผู้นำทั้งสองหารือกัน ประธานาธิบดี วลาดีมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ให้คำมั่นสัญญาว่า จะสร้างระบบการค้า และความมั่นคงร่วมกับเกาหลีเหนือ “ที่ไม่อยู่ภายใต้การควบคุม” ของสหรัฐอเมริกาและชาติตะวันตก พร้อมกับยืนยันจะให้การสนับสนุนเกาหลีเหนือเต็มที่ รายงานที่เผยแพร่โดยหนังสือพิมพ์โรดองซินมุน ระบุว่า ผู้นำรัสเซียและเกาหลีเหนือได้สานความสัมพันธ์และความเป็นหุ้นส่วนที่ดีต่อกันมาตลอด 70 ปี โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเท่าเทียม การเคารพ และความไว้วางใจซึ่งกันและกัน
สื่อทางการเกาหลีเหนือ รายงานคำพูดของประธานาธิบดีปูตินด้วยว่า “เราจะพัฒนากลไกทางเลือกในด้านการค้าและการทำข้อตกลงร่วมต่างๆ
ที่อยู่เหนือการควบคุมของอเมริกาและชาติตะวันตกและจะร่วมมือกันต่อต้านการกีดกันฝ่ายเดียวที่ไม่เป็นธรรม..และในขณะเดียวกัน เราจะก็สร้างสถาปัตยกรรมแห่งความมั่นคงที่เท่าเทียมและไม่มีการแบ่งแยกขึ้นมาในยูเรเชีย” : รัสเซียกับเกาหลีเหนือตกอยู่ในสถานะที่ถูกสหประชาชาตินำโดยสหรัฐอเมริกาแซงก์ชั่นทุกด้านตั้งแต่ความมั่นคง การเมือง เศรษฐกิจ การค้า การพัฒนาประเทศ : ผู้เขียน
นอกจากนั้น ประธานาธิบดีปูติน ยังขอบคุณเกาหลีเหนือที่ช่วยสนับสนุน “ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร” ในยูเครนเรื่อยมา พร้อมรับปากว่า จะสนับสนุนเปียงยางในการปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง ท่ามกลาง “แรงกดดัน การแบล็กเมล์ และการข่มขู่ทางทหารจากอเมริกา”
ยูริ ยูชาคอฟ ที่ปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศของปูติน ระบุว่า รัสเซียและเกาหลีเหนือได้มีการลงนามข้อตกลงความเป็นหุ้นส่วนในระหว่างที่ ปูติน เยือนเปียงยาง ซึ่งครอบคลุมถึงประเด็นความมั่นคงด้วย ยูชาคอฟ ยืนยันว่า ข้อตกลงนี้ “ไม่ได้พุ่งเป้าสร้างความเป็นศัตรูกับชาติใด” ทว่า เป็นการ “กำหนดกรอบความร่วมมือเพิ่มเติม โดยคำนึงถึงสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างรัสเซียและเกาหลีเหนือในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาในแง่ของการเมืองระหว่างประเทศ เศรษฐกิจ และแน่นอนว่ารวมถึงประเด็นความมั่นคงด้วย”
สำนักข่าวอินเทอร์แฟกซ์ อ้างข้อมูลจาก เปียงยางรายงานว่า ประธานาธิบดี วลาดีมีร์ ปูติน ได้มอบรถลีมูซีนหุ้มเกราะสุดหรู สัญชาติรัสเซียยี่ห้อ Aurus รุ่น Senat ให้กับ คิม จอง อึน หลังผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือแสดงอาการชื่นชอบรถคันดังกล่าวเมื่อคราวไปเยือนรัสเซีย
ดมิทรี เพสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย กล่าวว่า ผู้นำรัฐบาลเปียงยางออกอาการชื่นชอบระหว่างการเยี่ยมเยือนศูนย์อวกาศวอสตอชนี (Vostochny) ทางภาคตะวันออกของรัสเซีย หลังได้นั่งเคียงข้างปูตินในรถลีมูซีนหุ้มเกราะประจำตำแหน่งประธานาธิบดี รัสเซียจึงตัดสินใจมอบรถให้เป็นของขวัญเพื่อสานสัมพันธไมตรี
เพสคอฟกล่าวว่า “เกาหลีเหนือเป็นเพื่อนบ้านของเรา เพื่อนบ้านใกล้ชิดของพวกเรา และเราตั้งใจที่จะเดินหน้าพัฒนาความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านทั้งหมด รวมทั้งเกาหลีเหนือ” เพสคอฟกล่าวด้วยว่า ปูติน และผู้นำ คิม จอง อึน ได้มีการสนทนาหารือแบบตัวต่อตัวและมีกิจกรรมอื่นๆ เช่น งานกาลาคอนเสิร์ต งานต้อนรับแบบรัฐพิธี การตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ พิธีลงนามเอกสารต่างๆ รวมถึงมีคำแถลงอย่างเป็นทางการต่อสื่อมวลชนด้วย
ผู้นำสองรัฐนิวเคลียร์ พบกันท่ามกลางข้อกล่าวหาจากสหรัฐ ว่า เปียงยางส่งอาวุธให้มอสโกใช้ทำสงครามรุกรานยูเครน แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ออกมาย้ำข้อกล่าวหาว่า เกาหลีเหนือส่ง “ขีปนาวุธหลายสิบลูก และตู้คอนเทนเนอร์บรรจุเครื่องกระสุนอีกกว่า 11,000 ตู้” ให้รัสเซียนำไปใช้ทำสงครามในยูเครน
สื่อทางการเกาหลีเหนือเสนอบทความสนับสนุนและยกย่องรัสเซียและสนับสนุนปฏิบัติการทหารในยูเครนว่า “#เป็นสงครามศักดิ์สิทธิ์ของพลเมืองรัสเซียทุกคน” และยืนกรานปฏิเสธเรื่องการจัดส่งอาวุธที่อเมริกา กล่าวอ้างมาในวันเดียวกันที่ ผู้นำรัฐนิวเคลียร์พบกันในเปียงยาง ในกรุงวอชิงตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ นายแอนโทนี บลิงเคิล ได้หารือฉุกเฉินกับนายเยนส์ สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการนาโต บลิงเคิล กล่าวว่า การเยือนเกาหลีเหนือของปูติน.. “เป็นความพยายามกระชับความสัมพันธ์แนบแน่นขึ้นกับประเทศที่สามารถจัดหาสิ่งจำเป็นให้เพื่อสงครามรุกรานยูเครนดำเนินต่อไป เกาหลีเหนือส่งกระสุนและอาวุธอื่นๆ ให้รัสเซียใช้ในยูเครน.. อิหร่านก็จัดหาอาวุธรวมทั้งโดรนให้รัสเซียใช้สังหารพลเรือนยูเครนและทำลายโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือน” บลิงเคิลกล่าวกับสื่อมวลชนหลังหารือกับ เยนส์ สโตลเตนเบิร์กส่วนเลขาธิการนาโต แสดงความกังวลสิ่งที่รัสเซียจัดให้เกาหลีเหนือเมื่อถึงเวลา ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนพัฒนาขีปนาวุธและโครงการอาวุธนิวเคลียร์
วิคเตอร์ ชา อดีตเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ ซึ่งปัจจุบันทำงานอยู่ภายใต้สังกัดของศูนย์เพื่อการศึกษายุทธศาสตร์ระหว่างประเทศ (Center for Strategic and International Studies - CSIS) ให้ความเห็นว่า “การประชุมซัมมิตระหว่าง คิม กับ ปูติน ถือเป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงที่สุดต่อความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐอเมริกา นับตั้งแต่สงครามยูเครน เกาหลีเหนือกับรัสเซียสานความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในทางประวัติศาสตร์และเข้มแข็งยิ่งขึ้นจากสงครามยูเครน กำลังบ่อนทำลายความมั่นคงของยุโรป เอเชียและมาตุภูมิของสหรัฐ”
นั่นคือนิสัยถาวรของสหรัฐ ที่สุมหัวกับนาโตและประเทศตะวันตกส่งอาวุธ และปัจจัยให้ยูเครนทำสงครามกับรัสเซียเป็นมูลค่านับล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในห้วงเวลาเกือบสามปีที่ผ่านมา และเมื่อต้นเดือนมิถุนายน รัฐบาลวอชิงตันอนุมัติให้ยูเครนใช้เครื่องบินรบ F-16 ของอเมริกา ปฏิบัติการทำลายล้างในดินแดนรัสเซียได้ แต่พอคู่ปรปักษ์ตัวจริง ประธานาธิบดีปูตินไปพบกับ คิม จอง อึนในเปียงยาง อเมริกาออกมาโวยวายว่า ปูตินไปเกาหลีเหนือ เพื่อหาอาวุธมาฆ่าพลเรือนยูเครน และบ่อนทำลายความมั่นคงของยุโรป เอเชีย และมาตุภูมิของสหรัฐ
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี