แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...■■ วิธีการที่จะให้บ้านเมืองมั่นคงและเจริญก้าวหน้านั้นมีอยู่หลายอย่าง ข้อแรกคือจะต้องให้เข้าใจว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ ซึ่ง
โดยเฉพาะสำหรับเยาวชน ก็เป็นสิ่งที่ยากที่จะทราบว่าอะไรควรทำ ไม่ควรทำ เพราะว่าบางคนก็ได้รับคำบอกให้ทำอย่างโน้นอย่างนี้ เราทำไปอาจผิดก็ได้ เมื่อมีกิจการอะไรที่จะทำ ขอให้ทุกคนใช้ความคิดพิจารณา ความคิดพิจารณานี้แปลว่า ฟังว่ากิจการมีอะไร เขามาบอกว่าให้ทำอะไร แล้วก็มาคิดด้วยความคิดของตัว คือให้มีเหตุผล เพราะทุกสิ่งทุกอย่างก็ต้องมีเหตุผล ที่เขามาบอกให้ทำอะไร ต้องให้เข้าใจว่าสมเหตุสมผล... (ความตอนหนึ่งจากพระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานแก่คณะเยาวชนจาก 20 จังหวัด 6 เมษายน 2512)...
■■ การสรรหาสมาชิกวุฒิสภา (สว.)ชุดใหม่รอบสุดท้ายคือรอบระดับประเทศผ่านพ้นไปเมื่อ 26 มิถุนายน 2567 ท่ามกลางการร้องเรียนเรื่องการฮั้วอย่างอึงมี่ ในขณะที่สาธารณชนเชื่อว่าการสรรหา สว.
ครั้งนี้ไม่น่าจะโปร่งใสทั้งหมด เพราะมีหลักฐานในบางจังหวัดมีนักการเมืองบางคนจากบางพรรค มีพฤติกรรมเข้าข่ายว่าจ้าง จ้างวานให้บุคคลไปสมัคร เพื่อให้ลงคะแนนเสียงเลือกคนบางคนที่ถูกวางตัวไว้ให้ผ่านเข้าไปเป็น สว. เรื่องเหล่านี้มีหลักฐานปรากฏออกมาเรื่อยๆ แต่ทว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ยังคงไม่สามารถใช้กฎหมายจัดการกับผู้ที่อยู่ในขบวนการฮั้วสรรหาหรือเลือก สว. ได้ งานนี้คือเครื่องวัดระดับสติปัญญาและความสามารถของ กกต. ในการจับผู้ทุจริต ซึ่งที่ผ่านมานั้นสาธารณชนก็ไม่ค่อยเชื่อถือความสามารถและสติปัญญาของ กกต. ชุดล่าสุดมากนัก เพราะดูจากการจัดการเอาผิดกับ สส. ชุดล่าสุด ก็พบว่า กกต. จับผิดและลงโทษสส. ที่หลายคนเชื่อว่าไม่ได้เข้าสู่ตำแหน่งด้วยความสุจริตได้น้อยมาก...
■■ปมปัญหาใหญ่ของการสรรหาและเลือกตั้ง สว. ครั้งนี้อยู่ที่การฮั้วมาตั้งแต่ระดับอำเภอโดยนักการเมืองกลุ่มบ้านใหญ่ในหลายจังหวัดส่งคนของตัวเองลงสมัคร แล้วก็จ้างวานผู้สมัครรายอื่นๆ ให้ลงคะแนนให้คนของบ้านใหญ่ จากการสืบเสาะพบว่า ผู้มีอิทธิพลจากกลุ่มบ้านใหญ่แต่ละจังหวัดมีคนของตนเองอยู่ในกำมืออย่างน้อย40 คน แล้วเมื่อเข้าสู่การแข่งขันระดับประเทศ ก็ใช้เสียงจากกลุ่ม 40 คน จากแต่ละจังหวัดฮั้วกับบ้านใหญ่ของจังหวัดอื่นๆ ที่มีเสียงในกำมืออย่างน้อย 40 เสียงเช่นกันเมื่อบ้านใหญ่สามารถจับมือร่วมกันฮั้วได้แล้ว ก็จะได้ สว. ที่อยู่ใต้อิทธิพลโดยง่ายเรื่องแบบนี้ใช้การฮั้วกันในกลุ่มจังหวัดต่างๆ สัก 4-5 กลุ่ม ก็ได้คะแนนเสียงแล้ว160-200 เสียง แล้วจากนั้นก็ใช้เสียงในมือที่มีไปกดดัน ชักชวน หรือจ้างวานให้ผู้สมัครรายอื่นๆ ที่อาจจะยังไม่มีสังกัดให้เข้าร่วมกับกลุ่มบ้านใหญ่ของจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงมากที่จะได้เสียงจากการจ้างวานมากขึ้นกว่าเดิมด้วยกลอุบายนี้ ก็ทำให้บ้านใหญ่จะสามารถมี สว. ในสังกัดได้โดยไม่ยาก...
■■อีกเรื่องที่ต้องจับตามองใกล้ชิดหลังการสรรหาและเลือกตั้ง สว. จบสิ้นคือ จะมีคนที่ตกรอบการแข่งขันชิง สว. ระดับประเทศ แล้วได้เข้าไปรับตำแหน่งผู้ช่วย สว. ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ชำนาญการ และนักวิชาการประจำ สว. กี่มากน้อย เพราะนี่ถือได้ว่าเป็นการตกลงให้ผลประโยชน์กันและกัน อันเนื่องมาจากการฮั้วการสรรหา และเลือกตั้ง สว. ที่น่านำไปพิจารณามากที่สุดอีกประเด็นหนึ่ง...
■■ แสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. บอก การที่ กกต. จะแจกใบแดง เหลือง ส้มหรือดำ ก็ต้องส่งสำนวนคำร้องและหลักฐานประกอบไปที่ศาลฎีกา ทั้งหมดต้องมีหลักฐานแน่นหนาเพื่อยืนยันว่ามีการกระทำผิดกฎหมายเลือก สว. การหาหลักฐานประกอบไม่ง่ายนัก แต่อยู่ที่การรวบรวมพยานหลักฐานให้มากที่สุด และบอกว่า กกต. ไม่ทำงานล่าช้า ถึงแม้วันนี้อาจจะยังไม่มีหลักฐาน แต่ในวันหน้าหากได้หลักฐานเพิ่มเติม ก็สามารถตามไปสอยลงจากตำแหน่ง สว.ได้ ก็ต้องบอกว่าสิ่งที่แสวงพูดไม่ผิด แต่ไม่ค่อยจะมีใครเชื่อถือมากนัก เพราะดูจากการสอย สส. ชุดล่าสุดก็พบแล้วว่าสอยได้น้อยมาก ทั้งที่มีสิ่งบ่งบอกว่า สส. บางคนไม่น่าจะได้ตำแหน่งมาโดยสุจริต...
■■ หลายคนที่ติดตามผลการเลือกสรรหาสว. ชุดล่าสุด ก็คงได้เห็นหน้าค่าตาของคนที่อาจจะได้เป็น สว. ชุดใหม่แล้ว ตั้งแต่ช่วงค่ำของคืนวันที่ 26 มิถุนายน หลายคนก็บอกด้วยเสียงดังๆ ว่า เห็นไหม กูว่าแล้ว ว่าที่ สว. หลายคนก็มาจากการฮั้ว โดยการฮั้วกันนั้นมาจากทั้งนักการเมืองกลุ่มบ้านใหญ่ และนักการเมืองกลุ่มที่เคยถูกยุบพรรค แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ว่าจะอย่างไร ก็ยังได้ยินกลุ่ม สว. ฮั้ว ต่างก็ยังลอยหน้าอ้างว่าได้เป็น สว. ด้วยความบริสุทธิ์ แต่คนที่รู้ทันก็โต้กลับทันทีว่าบริสุทธิ์ที่เกิดมาจากการฮั้ว ฮั้วแบบบริสทธุ์เข้าตำรา บกพร่องโดยสุจริต...
■■ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานกลุ่มก้าวหน้า ผู้ที่คอการเมืองไทยเชื่อตรงกันว่ามีอิทธิพลเหนือพรรคก้าวไกลเขียนใน facebook ว่า ถึงผู้สมัคร สว. ฝ่ายประชาธิปไตยทุกท่าน แล้วมีข้อความชัดๆ ว่าขอให้ผู้สมัคร สว. ที่อ้างว่าเป็นกลุ่มประชาธิปไตยอย่าหักหลังกันเอง แล้วมีอีกข้อความหนึ่งที่น่าสนใจว่าจะเข้าข่ายฮั้วหรือไม่ คือเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์ประชาธิปไตย ต้องการทำเพื่อส่วนรวม ไม่ได้ตัดสินใจเพื่อตั้งการเป็น สว.และมีอีกข้อความคือ มีผู้เสียสละมาก่อนหน้าเรา พวกเขาเสียเงินค่าสมัคร เสียเวลาเพื่อเข้าสู่กระบวนการ ทิ้งคะแนนเพื่อให้คนที่พวกเขาเห็นว่าจะเป็น สว. ที่ดี เป็น สว. ฝ่ายประชาธิปไตยพวกเขาและเธอเสียสละทิ้งคะแนนเพื่ออะไร เสียแรงเสียเงินเพื่ออะไร ข้อความเหล่านี้มาจาก facebook ของธนาธร เป็นข้อความที่บ่งบอกได้ชัดเจนว่ามีคนจำนวนหนึ่งไปสมัคร สว. เพื่อจะไปลงคะแนนให้คนอื่น ถามว่านี่คือการฮั้ว ใช่หรือไม่ ถามต่อไปว่า คนบางคนนั้นรับสมัคร สว. แต่ไม่ต้องการเป็น สว. แล้วจะไปสมัครเพื่ออะไร สมัครเพื่อไปเลือกคนอื่นกระนั้นหรือ ถามว่าเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าใครลงสมัครบ้าง แล้วถามทิ้งท้ายว่า การลงสมัครเพื่อไปเลือกคนอื่น แบบนี้มันคือการฮั้ว ใช่หรือไม่...
■■ กกต. ลองใช้สติปัญญาและความสามารถเข้าไปค้นหาให้เจอสิว่า ใครบ้างที่ถูกจ้างให้ลงสมัคร สว. ครั้งนี้ ใครจ้าง จ้างด้วยเงินเท่าไร หรือให้อะไรตอบแทน แต่ที่น่าสนใจมากก็คือมีคนจำนวนไม่น้อยที่ลงสมัคร ทั้งๆ ที่เป็นผู้มีรายได้น้อย และไม่มีอาชีพที่มั่นคง ถามว่าคนกลุ่มนี้ตัดสินใจลงสมัคร สว. ด้วยตนเอง จริงๆ หรือ...
■■ แฟนพันธุ์แท้การเมืองไทยหัวเราะจนฟันหลุดไปหลายซี่หลังพบประกาศของพรรคก้าวไกลอ้างว่าไม่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนผู้สมัคร สว. ทุกกรณี และอ้างอีกว่าไม่ได้ส่งผํู้สมัครรายใดหรือกลุ่มใดลงชิงตำแหน่ง สว. หากมีใครอ้างในเรื่องนี้ก็ขอให้รู้ว่าเป็นการหลอกลวงแอบอ้าง แต่ที่สุด จะขบขันก็คือข้อความทิ้งท้ายบอกว่าพรรคก้าวไกลหวังว่าผู้สมัครรับเลือกเป็น สว. ที่เข้ารอบสุดท้ายทุกคน จะลงคะแนนเลือกคนที่ท่านเห็นว่าเหมาะสมในการเป็นตัวแทนของท่าน เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงร่วมกับ สส. ทำให้ประเทศไทยมีองค์กรอิสระที่ยึดโยงประชาชน มีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยคอการเมืองบอกว่าอ่านแล้วขำกลิ้ง แล้วเชื่อจริงๆ ว่าก้าวไกลไม่เกี่ยวข้องกับการส่งใครไปสมัครชิง สว. ในครั้งนี้แม้แต่คนเดียว ได้เห็นแบบนี้แล้ว เลยต้องเปิดเพลง ฉันเปล่าหนาเค้ามาเอง ฉันเปล่าชวนหนา เค้ามาเอง...
■■ นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ผู้ได้รับการพักโทษเป็นกรณีสุดพิเศษ พิเศษสุดๆ บอกกับคนในพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคของนักโทษชายทักษิณว่า พร้อมจะเป็นผู้ช่วยหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นับว่าเป็นเรื่องสุดตลก ที่เจ้าของพรรค ผู้ดันให้ลูกสาวไปเป็นหัวหน้าพรรคแล้วสุดท้ายอ้างว่าจะไปรับตำแหน่งผู้ช่วยหัวหน้าพรรค ทั้งๆ ที่คนรู้ทันนักโทษชายทักษิณบอกตรงกันว่า เขาคือผู้บงการพรรค และเป็นผู้ขีดเส้นให้พรรคต้องเดิน แล้วก็มีคำถามตอกย้ำว่าทุกวันนี้ยังนึกอีกหรือว่าไม่มีคนรู้ว่าคนบงการพรรคเพื่อไทยคือนักโทษชายทักษิณ...■■
ธรรมกร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี