เร็วๆ นี้ เมืองไทยเรากำลังจะมีหวยแบบใหม่ออกมาอีก
1. ปัจจุบัน มีสลากกินแบ่งรัฐบาล (ลอตเตอรี่) ออกโดยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
อันนี้ เป็นการพนัน เล่นได้-เสีย
ส่วนสลากออมสิน สลาก ธ.ก.ส. เหมือนการชิงโชคเงินออม ลุ้นรางวัล
อันนี้ ถึงไม่ถูกรางวัล เงินที่ออมไว้ ก็ไม่เสีย ยังคงอยู่เหมือนเดิม
2. สลากเกษียณ หรือหวยเกษียณ
สลากเกษียณ หรือหวยเกษียณ ชื่อทางการ คือ โครงการสลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ
ดำเนินการโดยกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เป็นการส่งเสริมจูงใจให้คนออมเงินกับ กอช. เพื่อจะได้เงินบำนาญไว้รายเดือนในวัยเกษียณ
หวยเกษียณ เป็นนโยบายที่ต้องการจูงใจให้แรงงานนอกระบบเข้ามาออมเงิน สร้างแรงจูงใจในการออม จากนิสัยของคนไทยที่ชอบลุ้นโชค แต่โครงการนี้จะได้ลุ้นด้วย ได้ออมเงินด้วย
รูปแบบการดำเนินการ ผู้ออมสามารถจะซื้อหวยเกษียณผ่านแอปพลิเคชั่นของ กอช. เป็นลักษณะหวยขูดดิจิทัล
ใบละ 50 บาท เพื่อขายให้กับสมาชิก กอช. ผู้ประกันตน ม.40 และแรงงานนอกระบบ (กลุ่มเป้าหมายจะเพิ่มเติมภายหลัง)ซื้อได้ไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือน
เมื่อซื้อสลาก จะมีวงกลม 10 ตัว เพื่อให้ผู้ซื้อสามารถขูดรางวัลผ่านระบบออนไลน์
สามารถซื้อสลากได้ทุกวัน แต่ออกรางวัลทุกวันศุกร์เวลา 17.00 น.
หากถูกรางวัลที่ 1 (มี 5 รางวัล) จะได้รับเงินรางวัล 1 ล้านบาท โอนเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกไว้ได้ทันที
และรางวัลที่ 2 เงินรางวัล 1,000 บาท (มี 10,000 รางวัล)
หากแต่ละงวดไม่มีผู้ถูกรางวัล จะมีการสมทบรางวัลนั้นๆ ไปในงวดถัดไป
ผู้ถูกรางวัลจะได้เงินรางวัลทันที โดยที่เงินค่าซื้อสลากถูกเก็บเป็นเงินออมของผู้ซื่อสลาก (เงินสะสม) แม้ว่าจะถูกรางวัลหรือไม่ก็ตาม จะนำเงินส่งเข้าบัญชีเงินออมรายบุคคลกับ กอช. โดย กอช.จะเป็นผู้บริหารจัดการเงินจำนวนดังกล่าว และเมื่อผู้ซื้อสลากอายุครบ 60 ปี จะสามารถถอนเงินทั้งหมดที่ซื้อสลากมาทั้งชีวิตออกมาได้
กลุ่มเป้าหมายหลัก คือ แรงงานนอกระบบ ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร พ่อค้าแม่ขาย กรรมกร ผู้ใช้แรงงาน รับจ้างทั่วไป ฯลฯ
เท่ากับว่า หากออมเงิน ผ่านการซื้อหวยเกษียณ จะได้รับ 3 เด้ง
ได้แก่ ได้ลุ้นรางวัล, เงินต้นที่ซื้อหวยเกษียณ ไม่หาย เก็บสะสมไว้เป็นเงินบำนาญยามชรา และยังได้ดอกผลเงินปันผลตอบแทนจาก กอช. ที่นำไปลงทุนให้สมาชิกด้วย
2. ล่าสุด นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้า หลังคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) มีมติเห็นชอบโครงการฯ
ระบุว่า กอช.ได้ส่งหนังสือถึงกระทรวงการคลัง ซึ่งได้รับการพิจารณาแล้ว โดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เซ็นหนังสือเข้าไปที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เป็นที่เรียบร้อย เพื่อที่บรรจุเข้าในการพิจารณาของการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
คาดว่า จะให้ทันในการประชุม ครม.สัญจรที่โคราชวันที่ 2 ก.ค. 2567 นี้
คาดว่า จะเริ่มจำหน่ายได้ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2568
เบื้องต้นจำนวน 5 ล้านใบต่อสัปดาห์ (ต่องวด)
“เราตั้งเป้าไว้ว่าจะแก้กฎหมายให้เสร็จในภายเดือน ส.ค. 2567 โดยตอนนี้มีประชาชนสนใจกับโครงการหวยเกษียณจำนวนมาก ดังนั้น กอช.เชื่อว่าโครงการนี้จะดึงดูดแรงงานนอกระบบให้มาสมัครสมาชิกเพิ่มมากขึ้นเป็น 10 ล้านคน จากปัจจุบันที่มีอยู่ 2.76 ล้านคน” – แหล่งข่าวจาก กอช.กล่าว
3. ดึง 10 ล้านคน เข้าสู่ กอช. ระบบออมเงินไว้ใช้วัยเกษียณ
สำหรับ “กองทุนการออมแห่งชาติ” เป็นกลไกส่งเสริมจูงใจให้ประชาชนออมเงิน เพื่อให้มีบำนาญรายเดือน เอาไว้ใช้จ่ายในวัยชรา
ประชาชนออมเงินเท่าไหร่ รัฐช่วยสมทบด้วย
ที่ผ่านมา มีความพยายามดึงแรงงานนอกระบบเข้ามาออมเงินกับ กอช. แต่ไม่สำเร็จมากนัก เพราะต้องค่อยๆ ปลูกสร้างนิสัยการออมของคนไทย
สิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่มีอยู่เดิม เช่น
“ได้เงินสมทบจากรัฐสูงสุด 100% (สูงสุด 1,800 บาทต่อปี)
รับบำนาญสูงสุด 12,xxx บาททุกเดือนตลอดชีพ
รัฐคุ้มครองเงินต้นไม่มีขาดทุน
เงินออมนำไปลดหย่อนภาษีได้
ไม่เสียสิทธิสวัสดิการอื่นๆ จากรัฐ...”
สมัครผ่าน 7/11 ได้อย่างสะดวก ฯลฯ
การออกสลากเกษียณ หรือหวยเกษียณ แท้จริงก็คือ ความพยายามจูงใจให้คนสมัครเป็นสมาชิก กอช. เอาเงินมาออมกับ กอช. เพื่อจะได้มีเงินสะสมไว้ใช้จ่ายยามชรา รองรับโครงสร้างสังคมสูงวัยนั่นเอง
เพราะฉะนั้น ต้นทุนการดำเนินการ หรือเงินรางวัล ที่นำมาใช้ล่อใจ ก็มองว่าเป็นต้นทุนดำเนินการเพื่อสร้างระบบออมเงินเพื่อรองรับวัยชราของประชาชน ที่ประชาชนมีส่วนร่วม
คาดว่า น่าจะใช้เงินประมาณงวดละ 15 ล้านบาท/สัปดาห์
ตกราวเดือนละ 60 ล้านบาท
ปีละประมาณ 720 ล้านบาท
แลกกับการดึงดูดคนที่ไม่มีหลักประกันเงินออมไว้ใช้ในยามชรา ให้เริ่มเข้าสู่ กอช. ถ้าได้ถึง 10 ล้านคน มีเงินออมในบัญชีชื่อของตนเอง
และรัฐยังสามารถสร้างเครือข่ายและกิจกรรมจากฐานข้อมูลนี้ต่อไปอีกด้วย ก็นับว่าน่าสนใจ
4. “หวย 3 หลัก” ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
“หวย 3 หลัก” หรือสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก (Numbers 3 : N3)
ครม.เห็นชอบไปแล้ว จะเป็นการออกสลากแบบใหม่ของสสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
โดยจะมีหมายเลขให้เลือก 3 หลัก แต่ละหลักมี 10 หมายเลข ตั้งแต่ 0 ถึง 9 (000 – 999)
ไม่กำหนดหมายเลขไว้ในระบบล่วงหน้า ผู้ซื้อสามารถเลือกตัวเลขได้ตามต้องการ
ผู้ซื้อสามารถเลือกหมายเลขแต่ละหลักให้ครบ 3 หลัก และสามารถเลือกหมายเลขแต่ละหลักซ้ำกันได้
คล้ายๆ เวลาซื้อหวยใต้ดินนั่นเอง
โดยมีวิธีการจำหน่ายในรูปแบบดิจิทัล (จำหน่ายโดยตัวแทนผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง)
จะมีการออกรางวัล เดือนละ 2 ครั้ง ในวันที่ 1 และวันที่ 16 ของเดือน
ในการออกรางวัล โดยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลก็จะออกรางวัลเฉพาะสลากสามหลักเลย
เป็นรูปแบบใหม่ที่สำนักงานสลากฯ ยังไม่เคยดำเนินการมาก่อน
โดยเงินยอดขาย จะถูกจัดสรรแบ่งเป็นสัดส่วนตามกฎหมาย เช่นเดียวกับสลากกินแบ่งรัฐบาล
แบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1) ร้อยละ 60 เป็นเงินรางวัล 2) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 23 เป็นรายได้แผ่นดิน และ 3) ไม่เกินกว่าร้อยละ 17 เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารงาน ซึ่งรวมทั้งค่าใช้จ่ายในการจำหน่ายสลากฯ ตัวเลขสามหลักด้วย
สำหรับราคาในการจำหน่ายสลาก N3 ขณะนี้อยู่ระหว่างกำหนดราคาในช่วง 20-50 บาทต่อใบ
โดยมีแนวคิดว่า ราคาจำหน่ายต้องไม่ต่ำหรือสูงเกินไป และต้องไม่เกิน 80 บาท เพื่อไม่ให้ซ้ำซ้อนกับสลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก (L6) แบบใบและแบบดิจิทัล
5. เงินรางวัลของ “หวย 3 หลัก”
ประกอบด้วย
1. รางวัลสามตรง ผู้ซื้อจะต้องถูกทุกหมายเลขและตรงทุกตำแหน่ง (อันนี้คล้ายหวยสามตัวตรง)
2. รางวัลสามสลับหลัก ผู้ซื้อจะต้องถูกทุกหมายเลขแต่สลับตำแหน่ง (อันนี้คล้ายหวยสามตัวโต๊ด)
3. รางวัลสองตรง ผู้ซื้อจะต้องถูกทุกหมายเลขและตรงทุกตำแหน่ง (อันนี้คล้ายหวยเลขท้ายสองตัวล่าง)
4. รางวัลพิเศษ จะเป็นการสุ่มหมายเลขรางวัลพิเศษจากสลากฯ ที่ถูกรางวัลสามตรง จำนวน 1 รางวัล
เงินรางวัลของสลากประเภท N3 มีรายละเอียด ดังนี้
รางวัล 3 ตัวตรง จัดสรรเงินรางวัล 30% (จาก 60% ของยอดจำหน่ายในแต่ละงวด)
รางวัล 3 ตัวสลับหลัก (โต๊ด) จัดสรรเงินรางวัล 30% (จาก 60% ของยอดจำหน่ายในแต่ละงวด)
รางวัล 2 ตัวตรง จัดสรรเงินรางวัล 39% (จาก 60% ของยอดจำหน่ายในแต่ละงวด)
รางวัลพิเศษ จัดสรรเงินรางวัล 1% (จาก 60% ของยอดจำหน่ายในแต่ละงวด)
รางวัลจะมาก-จะน้อย ขึ้นอยู่กับยอดขาย
บางงวด อาจมีคนถูกรางวัลเยอะ เพราะเลขเด็ด ซื้อตรงกันก็จะต้องแบ่งเงินรางวัลกันไปในบรรดาผู้ถูกรางวัลนั้นๆ
รางวัลประเภทใด หากไม่มีผู้ถูกรางวัลในงวดนั้น จะให้นำเงินที่จัดสรรไว้สำหรับรางวัลประเภทนั้น สมทบไปเพื่อจ่ายเป็นเงินรางวัลสำหรับรางวัลประเภทเดียวกันในงวดถัดไป แต่ไม่เกินหนึ่งงวด และหากการออกรางวัลงวดถัดไปไม่มีผู้ถูกรางวัลในรางวัลประเภทนั้นอีก ก็ให้นำเงินรางวัลสมทบในประเภทนั้นนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน
6. “หวย 3 หลัก” เล่นได้-เสีย แข่งกับ “หวยใต้ดิน”
พิจารณารูปแบบของหวย 3 หลัก ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เข้าใจว่า ออกแบบมาเพื่อสู้กับหวยใต้ดิน
ผู้ซื้อจะเป็นผู้เล่นได้-เสีย
ต่างจาก “หวยเกษียณ” ของ กอช. ที่เป็น “หวยเงินออม” ไม่มีเงินเสีย แต่ได้ลุ้นรางวัล
ประโยชน์อีกด้านของ “หวย 3 หลัก” คือ เพิ่มช่องทางให้คนที่อยากเป็นตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล (ลอตเตอรี่) ซึ่งแต่ละงวดมีผู้พลาดหวังนับแสนราย
ทั้งนี้ สลากตัวเลขสามหลัก จะจำหน่ายในรูปแบบดิจิทัล (ใช้ข้อมูลในระบบ) ผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตังควบคุมราคาขายได้แน่นอน ไม่มีการขายเกินราคา
โดยจะมีการให้ประชาชนที่สนใจสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายหวย 3 หลักนี้ได้
สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล คาดว่า จะสามารถจำหน่ายสลากตัวเลขสามหลัก ได้อย่างต่ำ 40 ล้านฉบับต่องวด
อาจจำหน่ายราคาฉบับละ 20 บาท
ประโยชน์ที่ชัดเจนที่สุด คือ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จะมีเงินนำส่งแผ่นดินมากขึ้น จากรายได้ที่เพิ่มขึ้น
สมมุติว่า ขายได้กว่า 40 ล้านฉบับต่องวด โดยขายฉบับละ 20 บาท
เท่ากับว่า ยอดขาย 800 ล้านบาทต่องวด
หรือเดือนละสองงวด เท่ากับ 1,600 ล้านบาทต่อเดือน
เมื่อจัดสรรแบ่งยอดขายเป็นเงินรางวัล 60% ราวๆ 480 ล้านบาทต่องวด
จัดสรรแบ่งเงินยอดขายนำส่งเป็นรายได้เข้าแผ่นดิน 23% เท่ากับว่า งวดละ 184 ล้านบาท
หรือเดือนละ 368 ล้านบาท
หรือเงินนำส่งเข้าเป็นรายได้แผ่นดินปีละ 4,416 ล้านบาท!!!
ดังนั้น ข้อที่ต่างจากหวยใต้ดินก็ตรงที่ เงินค่าหวยที่กินจากประชาชน ถูกนำส่งเข้าแผ่นดิน ไม่ใช่เข้ากระเป๋าเจ้ามือหวยใต้ดิน
ส่วนหวยใต้ดินจะหายไปหรือไม่? ก็เชื่อว่า คงจะไม่หมดไป เพราะมีจุดแข็งเรื่องการให้เครดิตและส่วนลดแก่ผู้ซื้อด้วย (แต่ก็มีข้อด้อย คือ มีเลขอั้น และความเสี่ยงถูกจับ ผิดกฎหมาย)
โดยสรุป
“หวย 3 หลัก” ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จึงเป็น “หวยกินเงิน” จากประชาชนส่วนใหญ่ แล้วแบ่งเงินมาให้รางวัลคนส่วนน้อย คนเล่นมี “ได้-เสีย”
ต่างกับ “หวยเกษียณ” ของ กอช. ที่เป็น “หวยออมเงิน”เก็บเงินไว้ให้ผู้ซื้อในวัยชรา เล่นได้ลุ้นรางวัล และเงินออมไม่ “เสีย”
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี