ผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี (นายก อบจ.) เมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมานั้น เป็นตัวชี้วัดถึงพลังของพรรคเพื่อไทยและบารมีทางการเมืองของนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร จากการที่“นายชาญ พวงเพ็ชร์” เอาชนะ“บิ๊กแจ๊ส-พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง” มาได้ด้วยคะแนนสูสี โดยทิ้งห่างกันแค่ 1,820 คะแนน
ทั้งนี้ จากการแถลงผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการของ กกต.เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมเมื่อวานนี้ นายชาญ พวงเพ็ชร์ นักการเมืองบ้านใหญ่จังหวัดปทุมธานี และเป็นอดีตนายก อบจ.ปทุมธานี 4 สมัย--ได้ 203,032 คะแนน ส่วน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตนายก อบจ.ปทุมธานี 1 สมัย--ได้ 201,202 คะแนน
การทวงเก้าอี้ นายก อบจ.ปทุมธานีกลับคืนมาได้ของนายชาญ พวงเพ็ชร์ ในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่นายชาญจะล้มคู่ต่อสู้อย่าง พล.ท.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ลงได้เท่านั้น ยังสะท้อนให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยที่เคยเป็นเจ้าของพื้นที่เดิมตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทยเข้าไปยึดพื้นที่จากพรรคชาติไทยมาได้ในปี 2544 สามารถชิงพื้นที่กลับคืนมาได้อีกครั้ง เท่ากับเป็นการปักธงยึดหัวหาดเพื่อการเลือกตั้ง สส.สมัยหน้าอีกด้วย
เพราะในการเลือกตั้ง สส.ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2566 พรรคเพื่อไทยพ่ายแพ้พรรคก้าวไกลอย่างหมดรูป ทั้งนี้--จากจำนวน สส.ทั้งหมด 7 คน ปรากฏว่าพรรคก้าวไกลกวาด สส.ไปได้ถึง 6 คน ขณะที่พรรคเพื่อไทยได้ สส.มาเพียงคนเดียวเท่านั้น คือ นายมนัสนันท์ หลินวรัตน์ สส.ปทุมธานี เขต 5
ส่วน สส.6 คนของพรรคก้าวไกลที่ได้รับการเลือกตั้งแบบล็อคถล่ม จะเรียกว่า“โนเนม”ไม่มีฐานทางการเมืองมาก่อนก็ว่าได้ ประกอบด้วย นายสรวีย์ ศุภปณิตา (เขต 1), นายเจษฎา ดนตรีเสนาะ (เขต 2), นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว (เขต 3), นายสกล สุนทรวาณิชย์กิจ (เขต 4), นายเชตวัน เตือประโคน (เขต 6) และนายประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ (เขต 7)
อย่างไรก็ตาม ในการเลือกตั้ง อบจ.ปทุมธานีครั้งนี้ ซึ่งเป็นการเลือกตั้งเพียงแค่จังหวัดเดียวทั้งประเทศ สืบเนื่องมาจากการที่ “บิ๊กแจ๊ส-พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง” ชิงลาออกจากเก้าอี้ นายก อบจ.ปทุมธานี เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนจะหมดวาระในวันที่ 19 ธันวาคมปีนี้ โดยที่การลาออกของบิ๊กแจ๊สถูกมองว่าเป็นการสกัดคู่แข่ง เพื่อหวังที่จะให้คู่แข่งไม่มีโอกาสได้ตั้งตัว
ขณะที่“บิ๊กแจ๊ส”อ้างเหตุผลไว้ 3 ประการ หนึ่งในนั้นก็คือ เรื่องการแก้ปัญหาน้ำหลากในกลุ่มจังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่จังหวัดนครสวรรค์ ผ่านสิงห์บุรีลงมาอ่างทอง และปทุมธานี ซึ่งบิ๊กแจ๊สชี้แจงว่า ถ้าหากอยู่ในตำแหน่งต่อไปก็ไม่สามารถทำอะไรได้ โดยเฉพาะเรื่องการเบิกจ่ายเงินงบประมาณในช่วง 2 เดือนสุดท้ายก่อนหมดวาระ เนื่องจากมีกฎกติกาของการเลือกตั้งห้ามเอาไว้
หลังจากที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ยื่นใบลาออกจากนายก อบจ.ปทุมธานีในวันที่ 2 พฤษภาคม 2567 และมีผลในวันรุ่งขึ้น ในเบื้องต้นมีข่าวว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ จะลงสมัครในนามพรรคก้าวไกล แต่สุดท้ายพรรคก้าวไกลประกาศไม่ส่งผู้ใดลงสมัคร และทางฝ่าย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ก็ได้ประกาศตัวลงสมัครอิสระในนามกลุ่มคนรักปทุม
ไม่เพียงแต่เท่านั้น การที่“บิ๊กแจ๊ส-พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง” ลงสมัครอิสระ ก็ยังมีกระแสข่าวว่าเกิดปัญหาแตกหักกับนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร เพราะบิ๊กแจ๊สไม่ยอมลงสมัคร นายก อบจ.ในนามพรรคเพื่อไทย
โดยที่ก่อนหน้านี้ ระหว่างนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร กับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ก็มีปัญหาขัดข้องหมองใจกันอยู่แล้ว อันเป็นปัญหาสั่งสมมาจากการเลือกตั้ง สส.ในปี 2566 เนื่องจากบิ๊กแจ๊สไปสนับสนุนผู้สมัคร สส.ของพรรคภูมิใจไทย รวมทั้งคนของตนเองลงแข่งกับผู้สมัครพรรคเพื่อไทย จึงเป็นผลให้พรรคก้าวไกลกวาดที่นั่ง สส.ไปได้เกือบยกจังหวัด
สำหรับปัญหาความขัดแย้งกับนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ดังกล่าวนั้น พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อก่อนหน้านี้ว่า ยังคงเคารพรักทักษิณเหมือนเดิม โดยกล่าว่า “ผมรุ่น 30 (โรงเรียนนายร้อยตำรวจ) พี่ทักษิณรุ่น 26 ผมก็เป็นน้องเขาตลอดชีวิต แต่วันนี้การเมือง พี่เขาจะลงมาถล่มผมอย่างไรก็ไม่มีปัญหา พี่เขาก็มีเหตุผลของเขา แต่ผมยืนยันว่าผมเป็นน้องเขาตลอดชีวิต แล้วผมจะเคารพนับถือเขาตลอดชีวิต”
จากการให้สัมภาษณ์ดังกล่าวของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมเดือนที่แล้ว ผู้สื่อข่าวยังถามด้วยว่าแบบนี้เรียกว่าปิดตำนาน“มีวันนี้เพราะพี่ให้หรือไม่" ซึ่ง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ได้ตอบว่า “ไม่ปิด-แต่ไม่มีคำนี้อีกแล้ว”
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ผลจากการเลือกตั้ง นายก อบจ.ปทุมธานีครั้งนี้ เป็นตัวชี้วัดถึงพลังของพรรคเพื่อไทยและบารมีทางการเมืองของนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร หลังจากที่ทักษิณรวมทั้ง“แพทองธาร ชินวัตร”ลูกสาวในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ทุ่มสรรพกำลังลงไปช่วย“นายชาญ พวงเพ็ชร์”ทุกรูปแบบ เพื่อต้องการคว้าชัยมาให้ได้ ในที่สุดก็ประสบความสำเร็จแม้จะชนะมาอย่างเฉียดฉิวก็ตาม
การเลือกตั้ง สส.สมัยหน้าเป้าหมายของพรรคเพื่อไทยคือ“แลนด์สไลด์” และช่วงชิงพื้นที่เดิมในจังหวัดต่างๆ ซึ่งถูกพรรคก้าวไกลยึดไปจากการเลือกตั้งที่ผ่านมากลับคืนมาให้ได้ทั้งหมด ซึ่งการเคลื่อนไหวในทางการเมืองอย่างไม่หยุดนิ่งของ น.ช.ทักษิณ ชินวัตร ในเวลานี้ก็เพื่อเป้าหมายนั้น เพื่อให้พรรคเพื่อไทยกลับมาผงาดอีกครั้ง
จะเห็นได้ว่า แม้กระทั่งการเดินสายออกต่างจังหวัดของนายเศรษฐา ทวีสิน จากเหนือ-ลงใต้-ไปอีสาน ไปภาคตะวันออก ข้ามไปตะวันตก หรือบางจังหวัดไปแล้วก็ไปอีก-นี้ก็เพื่อเป้าหมายในการเลือกตั้ง สส.สมัยหน้าทั้งสิ้น !
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี