ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมานายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นำบรรดารัฐมนตรีไปตรวจราชการในต่างจังหวัดที่ จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งการไปเยือนจังหวัดอุบลราชธานี ชาวบ้านทวงถามถึงโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับยิ้มแต่ไม่ได้ตอบ และนายกฯได้เสี่ยงดวงซื้อลอตเตอรี่ที่แม่ค้านำมาขายหลังโอดครวญว่าช่วงนี้ขาย ลอตเตอรี่ไม่ค่อยดี กระนั้นก็ตามนายกฯประกาศให้ความใส่ใจประชาชนในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง
ส่วนการไปเยือนจังหวัดศรีสะเกษ นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำการแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นสำคัญจากนั้นนายกฯได้เดินเยี่ยมชมบูธต่างๆ รวมถึงบูธทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ โดยประชาชนได้มอบทุเรียนและกล้วยหอมให้นายกฯ พร้อมบอกกับนายกฯว่า ให้กล้วยจะได้ทำอะไรกล้วยๆ จากนั้นนายกฯ ยังได้ชิมทุเรียนภูเขาไฟ
นอกจากนี้ยังมีประชาชนถือป้ายรอต้อนรับ โดยมีข้อความระบุว่า ขอบคุณนายกฯ และรัฐบาลที่ทำให้ราคายางพาราสูงขึ้น, เป็นกำลังใจให้ท่านนายกฯเศรษฐาสู้ๆ, หมู่เฮาฮัก นายกฯเศรษฐา ฮักพรรคเพื่อไทย, ปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาดด้วยเด้อ, เงินดิจิทัล 10,000 บาท จะได้กี่โมง เป็นต้น ทั้งนี้ ยังได้มีประชาชนทวงถามเงินดิจิทัลฯ โดยนายกฯ กล่าวว่า ไตรมาส 4 สิ้นปี
คำว่า “เงินดิจิทัล 10,000 บาท จะได้กี่โมง”ไม่น่าจะเป็นคำที่ชื่นชมนายกฯ เศรษฐา แต่น่าจะประชดประชันมากกว่า ในเรื่องนี้ นายเรืองไกรลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐกล่าวว่า หลังจากติดตามมติ ครม. เกี่ยวกับการจัดทำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 จนผ่านการพิจารณาวาระหนึ่งในสภาผู้แทนราษฎรและมีการตั้งคณะคณะกรรมาธิการวิสามัญ ไปแล้ว ต่อมา กมธ.หรือ สส. บางคนออกมาแสดงความเห็นว่า รายการงบกลางตามร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ มาตรา 6 (5) มีเอกสารหน้าเดียว กมธ. จึงมีการแขวนไว้นั้น จากการติดตามการอภิปรายงบประมาณ 2568 และการพิจารณาในชั้น กมธ.ตนไม่แปลกใจที่มีการแสดงความเห็นไปต่างๆ นานา แต่ไม่ได้อ้างอิงตัวบทกฎหมายเท่าที่ควร
จึงพบว่า ยังขาดประเด็นสาระสำคัญที่อาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยเฉพาะโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ที่รัฐบาลซ่อนไว้ในงบกลาง มาตรา 6 (5) รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ จำนวน 152,700,000,000 บาท
ตนจึงทำหนังสือพร้อมแนบสำเนาเอกสารที่เกี่ยวข้องถึง ป.ป.ช. ทางไปรษณีย์ EMSเพื่อขอให้ตรวจสอบนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องว่ามีการจัดทำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดยการซ่อนเงินโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ที่จะนำมาแจกประชาชนบางกลุ่มบางพวกตามที่รัฐบาลตั้งเงื่อนไขไว้นั้น เข้าข่ายเป็นการทุจริตเชิงนโยบายโดยการยัดไส้โครงการดังกล่าวไว้ในมาตรา 6 (5) รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ จำนวน 152,700,000,000 บาท หรือไม่ การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายมีพฤติการณ์เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ และกฎหมายอื่นๆ
หัวข้อ “เงินดิจิทัลวอลเล็ตจะได้กี่โมง”จึงเหมาะกับบทบรรณาธิการชิ้นนี้จริงๆ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี