ในการเดินทางกลับสู่มาตุภูมิของ นายทักษิณ ชินวัตร ในเดือนสิงหาคมก่อน ก็มีข่าวลือออกมาว่าเป็นผลพลอยได้ของการเจรจาต่อรองลับ (Secret deal) ที่มีการตอกย้ำข่าวลือด้วยมาตรการดูแลต้อนรับขับสู้นายทักษิณ ชินวัตร กันอย่างออกหน้าออกตาดังที่ทราบและเห็นกันเป็นที่ประจักษ์อยู่ดังทุกวันนี้
อีกทั้งข่าวก็บอกด้วยว่า ความต้องการที่จะให้นายทักษิณ ชินวัตร กลับประเทศ ก็เพราะมีความเชื่อกันว่า นายทักษิณ ชินวัตร เท่านั้นที่จะเป็นตัวจักรสำคัญของกลุ่มการเมืองฝ่ายอนุรักษ์นิยม ในการต่อกรกับฝ่ายพรรคก้าวไกล เพื่อเอาชนะพรรคก้าวไกลให้ได้ในการเลือกตั้งทั่วไปอีกประมาณ 3 ปีข้างหน้า บ่งบอกว่าฝ่ายอนุรักษ์นิยมหรือฝ่ายอำนาจดั้งเดิมยังคิดและเชื่อว่า นายทักษิณ ชินวัตร ยังมีมนต์ขลังและฝีไม้ลายมืออย่างมากมาย ไม่เสื่อมสลายลงไปโดยเฉพาะนโยบายมาตรการแบบประชานิยมทั้งหลายที่จับจิตจับใจอย่างไม่รู้ลืมของประชาชนพลเมืองโดยทั่วไป และโดยเฉพาะในระดับมวลชนรากหญ้า จึงเชื่อกันว่าความสำเร็จแต่อดีตของนายทักษิณ ชินวัตรยังจะนำมาเป็นความสำเร็จทั้งในปัจจุบันและในอนาคตอันใกล้นี้ได้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ทั้งนั้นกลุ่มอำนาจเก่าเหล่านี้ก็มิได้ติดใจและมองว่าผลการกระทำในเชิงลบต่างๆ ของนายทักษิณ ชินวัตร ต่อสังคมไทยในอดีต จนเข้าในทำนอง“เอาโจรมาปราบโจร”
และในการนี้ฝ่ายอำนาจเก่า หรือฝ่ายอนุรักษ์นิยมดั้งเดิม ก็ยังออกมาป่าวประกาศว่า ฝ่ายพวกเขาได้ปรองดองสมานฉันท์ กับฝ่ายอำนาจใหม่ ที่นำโดย นายทักษิณ ชินวัตร เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้ว่าจะได้เคยขับเคี่ยวกันมาอย่างโชกโชน และฉะนั้นเมื่อปรองดองกันแล้ว สังคมไทยก็ต้องรับทราบและรับปรากฏการณ์นี้อย่างไม่เป็นที่ต้องสงสัย และไม่ควรต้องออกมา“กวนน้ำให้ขุ่น” แต่อย่างใด
แต่ทว่าก็เริ่มมีคำถามเป็นข้อสงสัยและห่วงกังวลกันในวงการคอการเมืองของไทยว่า นายทักษิณ ชินวัตร จะกลับมาทำงานทำการให้กับกลุ่มปรองดองดังกล่าว เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการต่อกรกับพรรคก้าวไกล และขบวนการเคลื่อนไหวทางการเมืองของฝ่ายก้าวไกล หรือนายทักษิณ ชินวัตร กำลังใช้โอกาสที่สังคมเปิดกว้างในการกู้และฟื้นฟูสถานะของตนเองและลิ่วล้อเป็นสำคัญเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม นายทักษิณ ชินวัตร แม้ว่าจะไม่ได้ทิ้งห่างเรื่องการเมืองของไทยในระยะสิบกว่าปี แต่การที่มิได้พำนักพักพิงอยู่ในประเทศไทยมานาน จึงมิสามารถตระหนักอย่างสุดซึ้งว่า สังคมไทยนั้นได้มีการเปลี่ยนแปลงไปมากมาย เช่น การกลับมาสนอกสนใจในเรื่องบ้านเมืองของเยาวชน และกลุ่มคนรุ่นหนุ่มรุ่นสาว การเข้าถึงซึ่งข้อมูลข่าวสารอย่างไร้พรมแดนของคนรุ่นใหม่ ที่ช่วยเสริมสร้างองค์ความรู้และข้อเปรียบเทียบ รวมทั้งการส่งข่าวแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นต่อกันและกัน
และที่สำคัญที่สุดคนรุ่นใหม่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงสังคมไทยอย่างกว้างขวาง และมีความไม่เข้าใจและเหนื่อยหน่ายต่อความเป็นไปในสังคมโดยการพูดจาและการกระทำต่างๆ ของคนรุ่นเก่า ในทำนองจมปลักอยู่กับที่ และมีความเห็นแก่ตัวเป็นสำคัญ
พรรคก้าวไกลได้กลายเป็นสัญลักษณ์ หรือธงของความต้องการที่จะให้มีการเปลี่ยนแปลง ขณะที่นายทักษิณ ชินวัตร และผู้ร่วมคิดและร่วมสนับสนุนของเขา ยังต้องการที่จะอนุรักษ์สิทธิพิเศษ อิทธิพล อำนาจ และผลประโยชน์ต่างๆ ไว้ โดยมุ่งปฏิเสธการปรับปรุง
เปลี่ยนแปลงใดๆ และไร้ซึ่งขีดความสามารถในการรับฟังข้อคิดเห็นที่เป็นอื่นหรือแตกต่าง ซึ่งก็หมายความว่า นายทักษิณ ชินวัตร มิได้คิดและไม่มีทางที่จะเข้าถึงซึ่งคนรุ่นใหม่ได้ แล้วจะนำพาประเทศได้อย่างไร เมื่อคนรุ่นใหม่ไม่เอาด้วย จะเห็นว่านายทักษิณ ชินวัตร เป็นตัวแทนของเก่าและของล้าสมัย
ข้อตกลงลับดังกล่าวจึงดูจะไปไม่รอด เพราะรักษาความปรองดองไว้ไม่ได้ เพราะนายทักษิณ ชินวัตร ดูจะไปอย่างโดดๆ ในขณะที่ฝ่ายปรองดองหรืออนุรักษ์นิยมทั้งหมดมิได้อยู่กับความเป็นจริง ที่ได้สัมผัสแต่ความเป็นจริง และผิดกาลเวลา (Out of touch, Out of tune และ Out of time)
ก็ใคร่ขอเสนอให้ท่านผู้หลักผู้ใหญ่ในสังคมเปิดเวทีให้มีการพูดจากันอย่างกว้างขวางลึกซึ้งตรงไปตรงมา เพื่อให้มีข้อยุติให้แน่ชัดของความเป็นสังคมประชาธิปไตยของราชอาณาจักรไทย เนื่องจาก นายทักษิณ ชินวัตร นั้นมิใช่คำตอบและทางออกสุดท้ายของการเมืองไทยอย่างแน่นอน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี