ข่าวพาดหัวว่า..‘เศรษฐา’ยันไม่เคยคุย‘ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์’ ปม‘เสรีพิศุทธ์’ถอนฟ้องแต่งตั้งผบ.ตร.
ประเด็นนี้มีผลสืบเนื่องมาจาก..พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า..เคยพูดคุยกับอดีต 2 นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ถอนฟ้องนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีในฐานะประธาน ก.ตร. ตามความผิด มาตรา 157 ปมเสนอชื่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็น ผบ.ตร.คนที่ 14 เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2566
ผู้สื่อข่าวได้นำประเด็นนี้ถามนายเศรษฐา ทวีสิน เมื่อเช้าวันที่ 8 กรกฎาคม..โดยนายเศรษฐาได้ตอบว่า..”ผมไม่ถามเรื่องนี้..ไม่เกี่ยวกับผม..ผมไม่เคยปรึกษากับอดีต 2 นายกรัฐมนตรี..ไม่เคยพูดคุยกันครับ”
ก็คงจะแปลกพิกลหรือไม่ก็นายเศรษฐา ทวีสิน ต้องกินยาผิดขวด..หากยอมรับว่าเคยคุยในกรณีดังกล่าวกับนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร และ“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”นักโทษหนีคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวที่ตำรวจไทยไม่สามารถนำตัวมาติดคุกได้
ถ้าสมมุติว่านายเศรษฐาตอบว่า..”ครับ—ผมเคยปรึกษาเรื่องนี้กับท่านทักษิณและคุณยิ่งลักษณ์”..ต้องบ้าแน่เลย..นอกจากจะต้องกระเด็นออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว ก็ยังต้องติดคุกติดตะรางอีก..เพราะคงไม่มีใครปล่อยไว้ ต้องงมีการยื่นร้องต่อ ปปช.และผู้ตรวจการแผ่นดินให้ยื่นฟ้องตตะรางสถานเดียว
เรื่องนี้—“เปลว สีเงิน” ได้เขียนไว้ในคอลัมน์“คนปลายซอย”หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมปลายสัปดาห์ที่แล้วไว้อย่างนี้ :-
“เห็นข่าวโครมคราม ด้วยอดีตนายตำรวจใหญ่ท่านหนึ่ง ให้สัมภาษณ์นักข่าว PPTV ช่อง ๓๖”
“ตอนหนึ่ง อดีตนายตำรวจใหญ่ เล่าให้นักข่าวฟังว่า ๒ นายกฯ ‘นายกฯ ปู-นายกฯ ทักษิณ’ มาขอร้อง พี่...ให้ช่วยๆ ถอนหน่อย...ก็แหม พี่รู้จักพวกนี้หมดนี่...คนรู้จักกันขนาดนี้ ขอแค่นี้ ใช่มั้ย ให้ได้-ให้ไม่ได้ ความจริง เราเป็นตำรวจ เรารู้กฎหมายนะ ว่า‘ถอนไม่ได้หรอก’...”
“มันเป็นคดีอาญาแผ่นดิน เข้าใจมั้ย ตอนที่ขอมา พี่ก็บอกว่า ‘ถอนไม่ได้ครับ’ เขาบอกว่า ‘ไม่เป็นไร ให้พี่ถอนไปก่อน ทำหนังสือถอนไป เดี๋ยวไปวิ่ง ป.ป.ช.เอง’ พี่ก็...อ้าว วิ่งเหรอ ก็แล้วแต่แล้วกัน ๑.คุณวิ่งได้ก็โชคดีไป แล้วแต่วิธีการของคุณ ผมไม่เกี่ยวนี่้ ใช่มั้ย”
“อันที่ ๒. ก็เอ๊ะ..เราก็ไม่ใช่คนอาฆาตใคร ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวเราด้วย...ก็เห็นเป็นพี่-เป็นน้องกันอยู่แล้ว ทักษิณก็เป็นรุ่นน้องตำรวจ ก็เลยทำตามที่ขอ ขอมาก็ไปถอนให้เลย"
“คือทักษิณขอร้องให้เขา‘ถอนฟ้องเศรษฐา’ตั้งแต่รักษาตัวอยู่ที่ชั้น ๑๔ ของโรงพยาบาลตำรวจ..โดยนายตำรวจท่านนั้นไปเยี่ยมที่ชั้น ๑๔ ก็คุย-ก็ขอกันในประเด็นนี้..ส่วน "ยิ่งลักษณ์" นั้น ......โทร.หาเองโดยตรงจากต่างประเทศ ขอให้ถอนฟ้องนายกฯ เศรษฐา ที่นายตำรวจท่านนั้นไปยื่นฟ้องไว้”
“ก็เท่านี้แหละ เรื่องบางเรื่อง ก็เหมือนดูหนังบางเรื่อง ไม่ต้องพากย์ ไม่ต้องมีคำบรรยาย แต่ด้วยเนื้อหาทำให้คนดูเข้าใจได้เอง”
”ทักษิณนอนชั้น ๑๔ รอยัล สวีท แทนนอนคุก แพทย์ รพ.ตำรวจและกรมราชทัณฑ์อ้างว่า‘ป่วยขั้นวิกฤต’..และในเอกสารทางการของราชทัณฑ์ ระบุเหตุผล ว่า‘เนื่องจากนักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ ชินวัตร ยังคงมีอาการเจ็บป่วยที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยแพทย์ผู้ทำการรักษาเฉพาะทาง หากเกิดภาวะแทรกซ้อน หรืออาการที่อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต จะได้ดำเนินการรักษาอย่างทันท่วงที’
“แต่จากการเปิดเผยของนายตำรวจท่านนั้น เป็นสิ่งยืนยันได้ว่า ทักษิณ ‘ป่วยวิกฤต’ จริง หรือ ‘ป่วยทิพย์’..นับเป็น‘พยานประจักษ์’ เพราะท่านยืนยันด้วยปากคำท่านเองว่า ขึ้นไปพบทักษิณบนชั้น ๑๔ ขอร้องเรื่อง ‘ถอนฟ้องเศรษฐา’ กันโดยตรง”
“เท่ากับ ‘ตอกย้ำ-ยืนยัน’ลงไปอีกขั้น ที่โจษจันกันทั้งโลกว่า ‘ทักษิณผู้อยู่เบื้องหลังรัฐบาล กั้นม่านบัญชาการผ่านนายกฯ หุ่นเชิด’ นั้น‘จริง’!” และย้ำที่ตอกคาไว้ ‘ทักษิณมีอำนาจเหนือระบบประเทศ’ นั้น ‘จริงในจริง"!’ ในเมื่อนายตำรวจท่านนั้น บอก ‘ท่านรู้กฎหมาย’ ว่าที่ท่านฟ้องนายกฯ เศรษฐาต่อ ป.ป.ช.ผิดตามมาตรา ๑๕๗ นั้น เป็นคดี ‘อาญาแผ่นดิน’ถอนฟ้องไม่ได้’..แต่ทักษิณบอก ‘เขาจะไปวิ่งทาง ป.ป.ช.เอง’ให้ท่านทำหนังสือขอถอนฟ้องไปก็แล้วกัน”
“นี่ ‘พระศุกร์เข้า-พระเสาร์แทรก’ป.ป.ช.ที่มี ‘พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ’ เป็นประธานทันที! ท่านไม่ใช่นายกฯ....จะอ้างไปกวนราชการตามต่างจังหวัดหรือไปเป็นเซลส์แมนขายคอนโดฯ-ขายแผ่นดินเช่า ๙๙ ปี ในต่างประเทศ เพื่อ ‘เลี่ยงตอบ-เลี่ยงเผชิญ’ประเด็นถอนฟ้องนี้ ไม่ได้แน่”
“คนทั้งประเทศ กำลังรอฟังว่า.......ตกลง ป.ป.ช.ให้ ‘ถอนฟ้อง’นายกฯ ไปแล้ว ใช่หรือไม่?..ถ้าไม่ คือ ฟ้องแล้ว ‘ถอนไม่ได้’แล้วขณะนี้ เรื่องนี้ ป.ป.ช.ดองไว้ในขั้นดำเนินการชั้นไหนแล้ว? ถ้าใช่ คือ คดีอาญาแผ่นดินคดีนี้ ฟ้องแล้ว ‘ให้ถอนได้’ก็หมายความว่า ทักษิณวิ่ง ป.ป.ช.เป็นเรื่องจริง ทำได้จริง และ ป.ป.ช.อยู่ใต้อุ้งบาททักษิณจริง?..‘พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ’ประธาน ป.ป.ช.ท่านต้องออกมาเคลียร์ จะปล่อยให้คลุมเครือต่อไปไม่ได้”
“เพราะที่จะพินาศย่อยยับ ไม่ใช่แค่ ป.ป.ช. แต่มันหมายถึง ‘ระบบประเทศ’ทั้งหมด ภายใต้หลัก ‘ธรรมาภิบาล’ ๖ ประการ จะ ‘ล้มเหลว’ทั้งหมด”
ธรรมาภิบาล 6 ประการ หรือ“good governance”ในภาษาอังกฤษที่“เปลว สีเงิน”กล่าวถึง..อันเป็นหลักของการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดีนั้น ประกอบไปด้วย 1) หลักนิติธรรม2) หลักคุณธรรม 3) หลักความโปร่งใส 4) หลักการมีส่วนร่วม 5) หลักสำนึกรับผิดชอบ และ 6) หลักความคุ้มค่า
พิจารณาเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด แค่สองข้อหากนำมาจับวัดนายเศรษฐา ทวีสิน ก็ถือว่าไม่ผ่าน..คือ หลักนิติธรรม หมายถึงการตรากฎหมาย กฎ กติกาที่ถูกต้องเป็นธรรม..การบังคับใช้เป็นไปตามกฎ กติกาที่ตกลงกันไว้..คำนึงถึงสิทธิ เสรีภาพ ความยุติธรรมของสมาชิก และหลักคุณธรรมหมายถึงการยึดมั่นในความถูกต้องดีงาม..ส่งเสริม..สนับสนุนให้ประชาชนพัฒนาตนเอง..เพื่อให้มีความซื่อสัตย์..จริงใจ..ขยัน..อดทน..มีระเบียบวินัย..ประกอบอาชีพสุจริต
ที่ว่าไม่ผ่านเพราะ...กรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน เสนอชื่อพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็น ผบ.ตร. นั้น ได้ถูก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ยื่นฟ้องกล่าวหาต่อ ป.ช.ป. ในความผิดมาตรา 157 ก็เนื่องจากไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์..ซึ่งจะต้องคำนึงถึงความอาวุโสและความรู้ความสามารถในการป้องกันและปราบปรามเป็นหลัก
แต่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล มีอาวุโสลำดับสี่..คือลำดับสุดท้ายเมื่อเทียบกับ รอง ผบ.ตร.คนอื่นอีกสามคน..โดยที่นายเศรษฐา ทวีสิน ให้เหตุผลในการเสนอชื่อพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ว่า..“เพื่อสามารถตอบสนองนโยบายของรัฐบาล..และเป็นที่ไว้วางใจได้”..ซึ่งผู้ยื่นฟ้องนอกจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส คนหนึ่งแล้ว..พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล คู่กรณีของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ก็เป็นอีกคนที่ฟ้องนายเศรษฐาต่อ ป.ป.ช. โดยเห็นว่า..การแต่งตั้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ไม่เป็นไปตามกฎหมาย และขัดกับ พ.ร.บ.ตำรวจ (พ.ศ.2565)
จากนี้ไป ก็ต้องรอดูว่า ป.ป.ช.จะว่าอย่างไรกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ถอนฟ้องนายเศรษฐา ทวีสิน และถึงจะให้ถอนฟ้องไปแล้ว-แต่ถึงกระนั้นข้อกล่าวหาของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่ยื่นฟ้องนายเศรษฐาต่อ ป.ป.ช.ก็ยังคาอยู่ !
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี