ผ่านมาเกือบหนึ่งสัปดาห์กับเหตุการณ์ลอบสังหารโดนัลด์ ทรัมป์อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผู้อื้อฉาว..ขณะกำลังรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งที่เมืองบัตเลอร์รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา..เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา..ทำให้มีผู้เสีย 1 คนและบาดเจ็บ 2 คน
เหตุการณ์ครั้งนี้..ถือว่าเป็นเหตุการณ์อุกอาจที่สุดในรอบ 43 ปีของอเมริกันชน..นับตั้งแต่ปี 2524 (ค.ศ.1981) ที่มีความพยายามลอบสังหาร“โรนัลด์เรแกน” อดีตประธานาธิบดีคนที่ 40 ของสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน
แม้ว่า“โดนัลด์ ทรัมป์”วัย 78 ปีซึ่งเวลานี้พรรครีพับลิกันได้แต่งตั้งให้เป็นตัวแทนของพรรคลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯในเดือนพฤศจิกายนปลายปีนี้..จะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากนัก..แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ก่อให้เกิดคำถามตามมามากมายว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง“แผนลอบสังหาร”
โดยที่เวลานี้ในโลกออนไลน์กำลังขุดคุ้ยเกี่ยวกับประเด็นที่ว่า..นโยบายหยุดสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนของทรัมป์นั้น..ทำให้พ่อค้าสงครามและนักการเมืองขี้ฉ้อทั้งในสหรัฐฯและยุโรปเสียผลประโยชน์..จึงอาจจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังแผนลอบสังหารทรัมป์ในครั้งนี้
เนื่องจากหลังเกิดสงคราม“รัสเซีย-ยูเครน”ตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นมา..ยอดขายอาวุธของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็นประวัติการ..โดยยอดขายในปี 2565เพิ่มขึ้น 49 เปอร์เซ็นต์..ตัวเลขกลมๆ ก็คือ 6.7 ล้านล้านบาท (205,600 ล้านดอลลาร์)และสำหรับปี 2566 เพิ่มขึ้น 16 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็น 8.44 ล้านล้านบาท (238,000ล้านดอลลาร์)..ซึ่งแน่นอนว่า เงินมหาศาลขนาดนี้บรรดา“นักค้าสงคราม”ย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปแน่
อย่างไรก็ตาม หนึ่งในคลิปวิดีโอที่มีการนำออกมาเผยแพร่ซ้ำอีกครั้งก็คือ..คลิปการให้สัมภาษณ์ของ“วิคตอเรีย นูแลนด์”อดีตรองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐฯเจ้าของผลงานการเปลี่ยนรัฐบาลในหลายประเทศทั่วโลกด้วยการส่งออกปฏิวัติหลากสี..รวมทั้งยังเป็นสถาปนิกคนสำคัญในการก่อสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน
ทั้งนี้“นูแลนด์”ได้กล่าวอย่างมั่นใจว่า..ทรัมป์จะไม่มีโอกาสได้กลับมาเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐฯ..เธอว่า “ฉันไม่คิดว่าโดนัลด์ ทรัมป์จะได้เป็นประธานาธิบดีถ้านั่นคือสิ่งที่ปูตินเดิมพัน..เขาจะต้องได้รับความประหลาดใจ”
นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่น่าสนใจอีกประเด็นหนึ่ง นั่นก็คือก็คือ “โธมัส แมตธิว ครูกส์”มือปืนที่ก่อเหตุในครั้งนี้และถูกปลิดชีพไปแล้ว..เคยร่วมแสดงภาพยนตร์โฆษณาของบริษัท“Blackrock” อันเป็นบริษัทวาณิชธนกิจซึ่งเป็นเจ้าของกองทุนใหญ่อันดับหนึ่งของโลก..ที่ได้เข้าไปช่วยเหลือรัฐบาลยูเครนวางแผนการระดมทุนจากแหล่งทุนทั่วโลก..เพื่อก่อตั้งธนาคารฟื้นฟูประเทศ
อีกทั้งยังมีรายงานของสถาบันโอคแลนด์ที่ระบุด้วยว่า..บรรดาความช่วยเหลือทั้งหลายที่ยูเครนได้รับจากโลกตะวันตกนั้น..ถูกผูกไว้กับการผ่านกฎหมายแปรรูปและการเปิดเสรีตลาดที่ดิน..ซึ่งเอื้อต่อการกระจุกตัวของที่ดินในมือของบริษัทต่างชาติและนายทุน
รายงานฉบับนี้ที่เขียนโดย“เฟรเดอริก มูสโซ”ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายของสถาบันโอคแลนด์ระบุว่า ปัจจุบันมีพื้นที่มากกว่า 9ล้านเฮกตาร์..ซึ่งเกิน 28เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่เพาะปลูกของยูเครน..ได้ตกไปอยู่ในมือนายทุน, นักการเมืองและธุรกิจขนาดใหญ่จากต่างประเทศ รวมถึงกองทุนภายใต้การดูแลของBlackrock..และกองทุนบำเหน็จบำนาญหลายกองทุน..เป็นการลงทุนผ่าน“NCH Capital”อันเป็นกองทุนหุ้นนอกตลาดในสหรัฐฯ
และมาถึงวันนี้จากความซับซ้อนซ่อนเงื่อนดังกล่าว..อันเป็นปมเหตุของการลอบสังหาร“โดนัลด์ทรัมป์”..ก็ปรากฏว่าได้ถูกขยายวงพาดพิงไปถึงอิหร่าน..ทำให้ความขัดแย้งระหว่างอิหร่านกับสหรัฐ..โดยเฉพาะทรัมป์กับอิหร่านร้อนระอุขึ้นมาอีก..เมื่อสำนักข่าว CNNรายงานเมื่อวันที่ 16
กรกฎาคมที่ผ่านมา..ด้วยการอ้างข้อมูลเจ้าหน้าที่วงในระบุว่า..ทางการสหรัฐฯได้ข้อมูลข่าวกรองในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาว่า..อิหร่านมีแผนลอบสังหารทรัมป์
สาเหตุที่“โดนัลด์ ทรัมป์”ตกเป็นเป้าหมายของอิหร่าน..ก็เพราะเมื่อสี่ปีก่อนขณะที่ทรัมป์ยังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯอยู่นั้น..นายพลคาเซม โซเลมานีวัย 62 ปี ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษคุดส์ สังกัดกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน(Revolutionary Guard Corps)..ถูกสังหารตามคำสั่งของทรัมป์ ที่สนามบินในกรุงแบกแดดประเทศอิรัก ในวันที่ 3 มกราคม 2563..โดยที่อิหร่านเคยปฏิญาณไว้ว่าจะล้างแค้นขณะที่ในเวลานั้นทรัมป์ได้เคยทวีตไว้ว่า..น่าจะจัดการกับโซเลมานีมาตั้งนานหลายปีแล้ว
สำหรับข่าวที่ถูกปล่อยออกมาจาก CNN ดังกล่าวนั้น..ผู้แทนอิหร่านประจำองค์การสหประชาชาติได้ออกมาปฏิเสธอย่างทันทีทันควัน..โดยระบุว่าข้อกล่าวหานี้ไม่มีมูลและเป็นการป้ายสี..เนื่องจากในมุมของอิหร่าน..ทรัมป์คืออาชญากรที่ต้องถูกดำเนินคดีในศาลจากการสั่งการสังหารนายพลโซเลมานี..ซึ่งอิหร่านเลือกที่จะใช้กฎหมายเพื่อคืนความยุติธรรมให้แก่นายพลโซเลมานี..ไม่ใช่ด้วยวิธี“ตาต่อตา-ฟันต่อฟัน”
ทั้งหลายทั้งปวงนี้ก็ด้วย“อำนาจและผลประโยชน์”ทั้งสิ้น..ซึ่งเมื่อเทียบกับบ้านเราแล้ว..คนอย่างนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร
นั้น..ถือว่าโชคดีที่เกิดเป็นคนไทย..การที่ลูกสาวหรือใครต่อใครออกมาแสดงความเป็นห่วงนั้น..วางใจได้
เพราะคนไทยนั้นไม่“โหดเหี้ยม”ชนิดเอาชีวิตกันถึงตายแบบคนอเมริกัน !
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี