“บุคคลแนวหน้า ใน หนังสือพิมพ์แนวหน้า, แนวหน้าออนไลน์/www.naewna.com สื่ออุดมการณ์ มั่นคง ตรงไปตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ทำความจริงให้ปรากฏให้สังคมไทยทันเล่ห์ทันเหลี่ยมนักการเมืองเสียชาติเกิด, นักเลือกตั้งชังชาติ,ส่ำสัตว์สัมภเวสีติ่งขี้คุกหน้าเหลี่ยม, สลิ่มติ่งแดงด้อมส้ม อย่างเท่าเทียม”...
■■ สร้างวาทกรรมลั่นเมืองสุรินทร์ “หลังเดือนสิงหาคมเป็นต้นไป ที่ “นักโทษเด็ดขาดชายคดีอุบาทว์ทุจริตคอร์รัปชั่น โกงบ้านกินเมือง ฉ้อฉลเงินแผ่นดิน-ทักษิณ ชินวัตร” จะได้รับการปลดปลอกคอพ้นพันธนาการหลังครบกำหนดจากคำพิพากษา จำคุก 8 ปีแต่ได้รับโปรดเกล้าฯพระราชทานอภัยลดโทษเหลือเพียง 1 ปีโดยไม่ถูกเข้าคุมขังในเรือนจำเลยสักวันเดียวด้วยเล่ห์เพทุบายและช่องว่างของกฎหมายจากอาการป่วยโกงบ้านกินเมืองจะขอทำงาน มีรูปธรรมออกมา เพื่อให้เป็นผลประโยชน์ต่อพี่น้องคนไทยทั้งประเทศ” ชวนสยองเสียวสันหลังกับเศรษฐกิจประเทศ ... โบราณว่า “ไม่มีสัจจะ ในหมู่โจร” ผ่านการพิสูจน์ความจริงครั้งแล้วครั้งเล่ากับสังคมไทย ... “เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือควาย” นะจ๊ะ...
■■ ได้ยินเสียงสำรอกที่สุรินทร์พาลให้นึกถึงประโยคบอกเล่าเมื่อปีเศษที่ผ่านมา ... เมื่อครั้ง “นางลูกสาว/อุ๊งอิ๊ง-แพธารทอง ชินวัตร”... ประสานในการพาตัว “ผู้ต้องหาหนีคดีทุจริตคอร์รัปชั่นโกงบ้านกินเมืองฉ้อฉลเงินแผ่นดิน-ทักษิณ ชินวัตร” ผู้พ่อ-ไอดอลทางการเมืองกลับประเทศไทย “ ...ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อายุเยอะอยากใช้ชีวิตบั้นปลายกับลูก 3 หลาน 7...” ได้ประพฤติปฏิบัติตนอย่างที่แสดงเหตุและผลในครั้งนั้นหรือไม่ ไม่มีสัจจะใดเลยสักนิด ... ฤๅ “ติ่งแดงด้อมส้ม” ทั่วราชอาณาจักรเห็นเป็นอย่างอื่นไม่ใช่อย่างที่ “ไม้หน้าสาม” นำเสนอ เมื่อครั้งมีอำนาจเต็มจนล้น “นักโทษหน้าเหลี่ยม”ศาสดาระบอบทักษิณ, ทักษิโณมิกส์คนนี้ยังทุจริตเชิงนโยบายจนคดีความมากมาย จะแถด้วยคำว่า “กลั่นแกล้งทางการเมือง ... คำพิพากษาศาล, คำสารภาพของผู้ต้องหา” น่าจะชัดเจนที่สุดแล้วว่า “บริสุทธิ์”หรือไม่อย่างไร...
■■ จับตาอย่ากะพริบ เมื่อครั้ง “พรรคเพื่อไทย” ห่างหายจากอำนาจทางการเมืองบริหารประเทศ “เดินหน้าปราศรัยประกาศนโยบายเศรษฐกิจ/อุดมการณ์ทางการเมือง” ชูประเด็นความเป็นมืออาชีพการบริหารเศรษฐกิจ “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อคนไทยทุกคน” ... การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ หัวใจอยู่ที่การเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ให้ประชาชนและประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจมุ่งแก้ไขปัญหาปากท้อง ฟื้นเศรษฐกิจทำให้ “จีดีพี” ขยายตัวเฉลี่ยปีละ 5% เฒ่ากะโหลกกะลา “สุทิน คลังแสง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จำกลิ่นน้ำลายเน่าเสียงสำรอกสำรากนี้ได้บ้างไหม แล้วถ้าเอา “นักการเมืองเสียชาติเกิด/ทุจริตคอร์รัปชั่น” มาช่วยเสริมทั้งสมองและภาคปฏิบัติที่ไม่ต้องรับผิดชอบจะไม่ฉวยโอกาสหาประโยชน์ให้ครอบครัว ตนเองและพวกพ้อง อีกหรือ!?!??!...
■■ เรื่องของ “สองคนยลตามช่อง” ... “ดราม่า” ชุดพิธีการนักกีฬาไทยที่ต้องสวมใส่ในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬามวลมนุษยชาติ “โอลิมปิกฤดูร้อน 2024 ณ กรุงปารีส ฝรั่งเศส”จากเรื่องเล็กน้อยกลายเป็นไฟสุมขอนที่ลุกลามใหญ่โตอย่างไร้สติ ตอกย้ำวิธีการบริหารงานของรัฐบาล อย่างที่ “ไม้หน้าสาม”เคยนำเรียนแฟนคลับแนวหน้าเมื่อฉบับวันอังคารที่ 16 กรกฎาคม ว่า “เจ้ายักษ์นักกู้ผ้าขาวม้าพันคอ/เศรษฐา ทวีสิน ชอบสนใจเรื่องใหญ่ที่เพ้อฝัน สนใจเรื่องเล็กที่ยิบย่อย สะท้อนภาวะนายกฯ ไร้อำนาจ” อย่างแท้จริง นี่แหละ “นิดนอมินี” การบริหารงานของคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ภายใต้การดูแลของ “ลุงป้อม -พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ”บุรุษที่ใช้ใจบันดาลแรงช่วงการหาเสียงเลือกตั้งเพื่อเก้าอี้นายกรัฐมนตรีครั้งที่ผ่านมา ที่เชื่อว่าพยายามสนองตัณหา“นโยบายซอฟต์พาวเวอร์” กับงบประมาณละลายแม่น้ำ5,000 ล้านบาท ที่ “นางลูกสาวนายใหญ่” ถือไว้ใช้สร้างประโยชน์ในการนี้ “ชุดพิธีการ” จึงออกมาใน “ลักษณะโชว์อัตลักษณ์” ความเป็นไทยในวัฒนธรรมไทยแบบ “เบบี้บูมเมอร์” โดยไม่คำนึงถึงสภาพความเป็นจริงทางภูมิภาคที่มีอากาศร้อนในช่วงเวลาดังกล่าว “พลเอกวิชญ์ เทพหัสดินณ อยุธยา” เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์” หยุดพาทัวร์นรกไปลงที่นักกีฬาที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติบ้านเมืองที่ชื่อ “ประเทศไทย/ราชอาณาจักรไทย” อย่างมิหยุดหย่อนและไม่ได้มีเจตนาต่อต้านแต่อย่างใด ... อีกไม่นานการแข่งขันก็จะเริ่มขึ้นเอาเวลานี้มาจับมือกันทุกฝ่ายทั้งประเทศ “สร้างขวัญกำลังใจ” มอบให้ตัวแทนราชอาณาจักรไทยทั้ง 51 คน ไม่ดีกว่าถูกต้องกว่าหรือ ถ้าตราบใดยังไม่เลิกให้พวกนายพลเกษียณหรือพวกข้าราชการแก่ๆ ที่ไม่มีความรู้ด้านนั้นๆ จริงๆ ไปนั่งตามบอร์ดสมาคมต่างๆ ก็อย่าหวังว่าจะได้เห็นการพัฒนาใดๆ เกี่ยวกับวงการเหล่านั้น ... จริงๆ เรื่องนี้ ถ้าเริ่มต้นด้วยการส่องกระจกดูตัวเองแล้วรู้จัก “Brainstorm” ลักษณะที่โบราณว่าไว้ “ปลูกบ้านตามใจผู้อยู่ ปลูกอู่ตามใจผู้นอน” บ้าง “นักกีฬาไทยทุกคน” จะรู้คุณค่า/หน้าที่ตนเองและปฏิบัติทุกอย่างด้วยความภาคภูมิใจกว่าไหม???...
■■ ทิ้งท้าย ฉบับนี้ “หนังสือพิมพ์แนวหน้า สื่ออุดมการณ์ มั่นคง ตรงไปตรงมา” ฉบับประจำวันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ.2567 รายงานว่า “ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ได้มีคำพิพากษาในคดีแพ่งหมายเลขดำที่ ผบ468 / 2566 โดยพิพากษาให้ธนาคารและบริษัทบัตรเครดิตร่วมกันใช้เงินคืนลูกค้า กรณีมิจฉาชีพดูดเงินในบัญชีไป โดยให้รับผิดชอบกึ่งหนึ่งของเงินที่สูญเสียไปจากทั้งหมด เนื่องจากมีส่วนร่วมในการประมาทคดีนี้เป็นคดีที่เป็นพื้นฐาน" เป็นอุทาหรณ์ให้กับลูกค้า สามารถฟ้องธนาคารให้รับผิดได้กึ่งหนึ่งครับ ซึ่งสอดคล้องกับคำพิพากษาฎีกาที่ 6233 / 2564” ... “ไม้หน้าสาม”ว่า น่าจะเป็นเรื่องน่ายินดีเรื่องแรกที่เกิดขึ้นในยุคสมัยประชาธิปไตยแบบนี้ ในยุคที่รัฐบาลประกาศว่าเกิด “วิกฤตเศรษฐกิจ/ข้าวยากหมากแพง ... กลียุค ... เป็นยุคที่ศีลธรรมเสื่อม คนดีมีศีลธรรมจะเหลือเพียง 1 ใน 4”น่าจะสะท้อนแนวคิด “เหล้า/สุรา-ซ่อง-โสเภณี” เสรี สมควรหรือไม่กับวัฒนธรรมประเพณีเมืองพุทธอย่างเรา กรณีอุบัติเหตุที่จังหวัดสุรินทร์นำมาซึ่งการบาดเจ็บของเยาวชนอนาคตสำคัญของประเทศ “...ครูพานักเรียนไปวัดทำกิจกรรมวันเข้าพรรษา แต่เมาตั้งแต่ถึงวัด ขากลับขับรถพานักเรียนแหกโค้ง รถพังยับนักเรียนบาดเจ็บจำนวนมาก...โชคดีที่เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ โศกนาฏกรรม”... แถมกันว่าคุณครูคนขับหลังก่อเหตุแทนที่จะรีบมาดูนักเรียนที่บาดเจ็บ แต่กลับนั่งอยู่หน้ารถดูสถานการณ์ ก็น่าจะเป็นธรรมดาของคนเมาที่สติสัมปชัญญะไม่ครบ 100% แน่นอน...■■
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี