นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พรรคใหญ่อันดับสอง รองจากเพื่อไทยแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่มีนายเศรษฐาทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ที่มีปัญหารุมเร้าทั้งปัญหากฎหมาย และไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันตลอดเวลาเกือบหนึ่งปีที่ผ่านมา
ปัญหารุมเร้ารัฐบาล ที่ส่อเค้าขัดแย้งแตกแยกภายใน ทั้งเรื่องนโยบายขัดกัน เรื่องแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต 500,000 ล้านบาท นโยบายกัญชา นโยบายพลังงาน ตลอดถึงความพยายามเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมที่รวมเอาการกระทำผิดกฎหมายอาญามาตรา 112เข้าไปด้วย ความขัดแย้ง นโยบายแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต ของพรรคเพื่อไทย และนโยบายนำกัญชาออกจากกฎหมายยาเสพติด ของพรรคภูมิใจไทย ตลอดถึงนโยบายพลังงานของรวมไทยสร้างชาติ ที่ความขัดแย้งกัน และยังมีเรื่องที่หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ผิดใจกับนายใหญ่พรรคไทยรักไทยมานานหลายปี
ท่ามกลางความขัดแย้งไฟสุมขอน ที่มีทีท่าจะกระพือขึ้นเป็นไฟกองใหญ่ จู่ๆ มีปรากฏการณ์หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยไปเล่นดนตรีร้องเพลง “When You Say Nothing
At All” กับนายทักษิณ และ แพทองธาร ชินวัตร สองผู้ยิ่งใหญ่เพื่อไทย สร้างความประหลาดใจให้กับผู้สนับสนุน ทั้งสองฝ่าย นางสาวณัฐจิราอิ่มวิเศษ สส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์คลิปวีดีโอสั้นๆ ผ่าน IG Story เป็นภาพที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยบุตรสาว ร่วมกันร้องเพลง“When You Say Nothing At All” ระหว่างใช้เวลาพักผ่อนกับครอบครัวชินวัตร ที่บ้านพักบริเวณเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา เมื่อคืนวันที่ 19 ก.ค.
แต่ที่สร้างความประหลาดใจอย่างมาก คือ การปรากฏตัวของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ที่มาร่วมร้องเพลงเล่นดนตรีด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสในครั้งนี้ด้วย
When You Say Nothing At All เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ เรื่อง Nothing Hill ซึ่งมีความหมายว่า “#คุณสื่อมันออกมาได้ดีที่สุด ยามที่คุณไม่เอ่ยคำพูดออกมา..” ดังนั้นการร่วมเล่นดนตรีร้องเพลงนี้ด้วยของนักการเมืองระดับแกนนำ จึงตีความได้ว่า มองตาก็รู้ใจถึงไม่พูดอะไรก็รู้ความหมายเข้าใจกันว่า การเมืองไทยมันเป็นตามครรลองของมันเมื่อถึงเวลา ผู้ด้อยอาวุโสกว่า ก็มามองส่งสายตา บอกว่า เพื่อไทยต้องยอมให้เป็นตามสภาวการณ์ หากคนของพรรคเพื่อไทยต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะปัญหาทางกฎหมาย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็ยินดีขึ้น เป็นหัวหน้ารัฐบาล ตามเสียงวิจารณ์และคำทำนายของนักสังเกตการณ์ทางการเมืองหลายคน
เค้าลางของความสิ้นสุดวาระนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย มันบอกตั้งแต่มี สส.งูเห่า ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลโผล่หัวให้เห็นหลายราย ในวันที่สภาลงมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.เพิ่มงบประมาณ ปี 2567 สส.งูเห่าแสดงตนออกมาเพราะรู้ว่างบประมาณ 1.22 ล้านบาท ที่จะเติมเต็มให้โครงการดิจิทัล วอลเล็ต นั้นไม่ได้ใช้ เพราะรัฐบาลนายเศรษฐาต้องลาโรงก่อนเงินดิจิทัลได้ใช้ในทางปฏิบัติ พรรคร่วมรัฐบาลเองต่างตระหนักว่า การแจกเงินดิจิทัล 500,000 ล้านบาท ของพรรคเพื่อไทย ทั้งผิดกฎหมายและสร้างความเสียหายแก่การเงินการคลังของชาติหนักกว่านโยบายรับจำนำข้าวหลายเท่าตัวแต่ที่ยกมือสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติม 1.22 ล้านบาท เพราะตระหนักเช่นกันว่ารัฐบาลนายเศรษฐาไม่อยู่ถึงวันได้ใช้นำเงินงบประมาณไปผลาญกับโครงการ
ดิจิทัล วอลเล็ต
ดังนั้นหลังจากสภารับหลักงบประมาณเพิ่มเติม 1.22 ล้านบาท พรรคร่วมรัฐบาลถึงดาหน้ากันออกมาคัดค้านพรรคเพื่อไทยเรื่องนำกัญชากลับไปอยู่ในหมวดยาเสพติด เรื่อง ม.112 ตลอดถึงเรื่องพลังงาน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ย้ำแล้วย้ำเล่า อีกเรื่องความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ คัดค้านการแก้ ม.112 รวมทั้งนิรโทษแก่ผู้กระทำผิดหมายอาญามาตรา 112 พรรคเพื่อไทยที่เคยสนับสนุนแก้ม.112 ตอนเป็นฝ่ายค้าน และในวันหาเสียงเลือกตั้ง แต่เมื่อเป็นรัฐบาลเรื่อง ม.112ก็เงียบหายไปไม่มีใครพูดถึง ไม่มีเรื่อง ม.112ในนโยบายที่แถลงในสภา แต่หลังจากนายทักษิณ ชินวัตร ตกเป็นจำเลยคดีอาญามาตรา 112 สส.เพื่อไทยที่เป็นกรรมาธิการศึกษาพิจารณา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เสนอให้รวมผู้กระทำผิด ม.112 เข้าไปด้วยโดยอ้างว่าเพื่อช่วยเหลือเด็กๆ ให้กลับไปเรียนหนังสือ
การเสนอนิรโทษกรรมผู้กระทำผิด ม.112 ของพรรคเพื่อไทยเผชิญการต่อต้านจากประชาชนอย่างหนัก และหลังจากสภารับหลักการร่าง พ.ร.บ.เพิ่มเติมงบประมาณปี 2567 ผู้แทนจากพรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติดาหน้าออกมาประสานเสียงคัดค้านนิรโทษกรรมผู้กระทำผิด ม.112 และต่อต้านทุกวิถีทางต่อใครก็ตามที่แตะต้องกฎหมายปกป้องสถาบัน การประสานเสียงพรรคการเมืองปกป้อง ม. 112 จึงเป็นสัญญาณบอกพรรคเพื่อไทยที่ นายทักษิณเป็นจำเลยคดีละเมิด ม.112 โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคการเมืองต่างๆ ส่งสัญญาณบอกพรรคก้าวไกลว่า หากถูกยุบพรรควันที่ 7 สิงหาคม ที่จะถึงนี้อย่าได้หวังว่าจะหาแนวร่วมในสภาชุดนี้ได้ แม้แต่พรรคเพื่อไทยที่เหมือนพรรคพี่พรรคน้องก็ไม่กล้าคบหาก้าวไกลออกหน้าเพราะสำเหนียกว่าคนไทยส่วนใหญ่รังเกียจเดียดฉันท์ พรรคที่มีอุดมการณ์ต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นที่เคารพรักเทิดทูนเหนือสิ่งใดของคนไทย
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ นอกจากคัดค้านการนิรโทษกรรม ม.112 แล้วยังแสดงการสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย ที่คัดค้านการนำกัญชา กลับไปอยู่ในหมวดยาเสพติด โดยให้เหตุผลว่า#ผู้ที่เสนอถอดกัญชาออกจาก หมวดยาเสพติดกับผู้ที่จะนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดเป็นคนเดียวกัน ถามว่ามีเหตุผลอะไร ท่าทีของนายพีระพันธุ์ จึงมองได้ว่าไม่เห็นด้วยกับพรรคแกนนำรัฐบาลหลายประการไม่ว่าจะเป็นท่าทีกับ ม.112 นโยบายกลับไปกลับมาเรื่องกัญชาตลอดถึงเรื่องพลังงานและการแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต แต่ที่ไม่พูดสองเรื่องหลังในที่สาธารณะ เพราะในฐานะนักกฎหมายนายพีระพันธุ์ย่อมทำนายได้ล่วงหน้าว่า คดีที่40 สว.ร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่านายเศรษฐา ทวีสิน ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ที่แต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี จะเป็นบวกหรือลบต่อนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย
นายอนุทิน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่นักวิเคราะห์วิจารณ์และกูรูการเมืองมองว่า มีบารมีเพิ่มขึ้นในสภาที่ได้รับเสียงสนับสนุน ทั้งจากสภาผู้แทนราษฎรและคาดหมายว่าจะได้รับการสนับสนุนท่วมท้นจากวุฒิสภาชุดใหม่ อาจก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี หากศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาให้นายเศรษฐาพ้นจากตำแหน่ง และหากพรรคก้าวไกลถูกยุบในวันที่7 สิงหาคม สส.ก้าวไกล จำนวนหนึ่งจะไหลเข้าสู่ภูมิใจไทย จึงได้ร่วมร้องเพลงกับผู้มีอำนาจสูงสุดพรรคเพื่อไทยล่วงหน้าว่า When You Say Nothing At All #คุณสื่อมันออกมาได้ดีที่สุด ยามที่คุณไม่เอ่ยคำพูดออกมา
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี