ปัญหาใหญ่ของคนไทยในยุคนี้อีกเรื่องคือต้องจ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิง และค่าไฟฟ้าที่แพงมาก เมื่อทั้งสองอย่างมีราคาแพง ก็หมายความว่าต้นทุนของการผลิตในบ้านเรามีราคาแพง นั่นหมายถึงค่าครองชีพก็จะสูงมากขึ้น
ทำไมน้ำมันเชื้อเพลิงไทย และค่าไฟฟ้าของไทยจึงมีราคาแพง ปัญหานี้รัฐบาลไทยไม่สามารถแก้ไขได้ นอกจากหาเสียงไปวันๆ เท่านั้นว่าจะลดราคา แต่ก็เป็นเพียงการโฆษณาชวนเชื่อ แล้วก็โยกเงินจากกระเป๋าซ้ายไปกระเป๋าขวา แต่ทั้งหมดมันก็คือเงินภาษีอากรของประชาชนทั้งนั้น
สำหรับคนที่ต้องจ่ายเงินเติมน้ำมันรถยนต์และจักรยานยนต์คงประจักษ์แล้วว่า ในบางช่วงนั้นพบว่าราคาน้ำมันที่หน้าปั๊มบริการขายน้ำมันปรับขึ้นเร็วมาก โดยพบว่าในบางช่วงระยะเวลาเพียงแค่ประมาณ 2-3 สัปดาห์ ราคาขายที่หน้าปั๊มปรับขึ้นลงประมาณ 10 กว่าครั้ง
แน่นอนว่า คนไทยรู้ดีว่าเราต้องนำเข้าน้ำมันจากแหล่งผลิตน้ำมันที่สำคัญของโลก ดังนั้นเมื่อราคาในตลาดโลกแพง ก็ต้องส่งผลกระทบถึงบ้านเราอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งเรื่องนี้พอเข้าใจได้แต่นอกจากปัจจัยเรื่องราคาน้ำมันโลกแล้ว ยังมีอีกปัจจัยหนึ่งคือเงินที่รัฐบาลเรียกเก็บเพื่อเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ถามว่าไม่เก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันได้หรือไม่ตอบว่า ได้ แต่นั่นก็หมายความว่าเราก็ต้องจ่ายเงินค่าน้ำทันตามราคาของตลาดโลก โดยไม่มีเงินช่วยสนับสนุนเวลาที่น้ำมันมีราคาแพง แต่ปัญหาของกองทุนน้ำมันไม่ได้อยู่ที่แค่การเก็บเงินเข้ากองทุนฯ แต่ปัญหามันอยู่ที่กองทุนน้ำมันฯ ติดลบอยู่มากกว่าแสนล้านบาท ถามต่อไปว่า เงินที่ติดลบนั้น ใครต้องรับผิดชอบ ตอบว่าประชาชนต้องรับผิดชอบ แม้รัฐบาลพยายามโฆษณาชวนเชื่อว่าจะแก้ปัญหาราคาน้ำมันเชื้อเพลิงแพง แต่ก็ไม่สามารถแก้ได้อย่างจริงจัง แล้วทุกวันนี้ก็ทำได้แค่เพียงโยกเงินไปมา ราวกับตบตาประชาชน โดยอ้างว่าพยุงราคาน้ำมัน หรืออุ้มราคาน้ำมันไว้ไม่ให้แพงมากเกินไป
การใช้กลอุบายผ่านกองทุนน้ำมันฯ ผสมกับการแทรกแซงราคาน้ำมัน โดยอ้างว่าเพื่อลดค่าครองชีพของประชาชน ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่จีรังยั่งยืน ทั้งนี้ในบางครั้งก็ใช้การปรับลดภาษีน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉพาะภาษีน้ำมันดีเซล แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าเมื่อรัฐบาลอุ้มราคาน้ำมันดีเซล แต่ก็ส่งผลให้ราคาน้ำมันเบนซินแพงขึ้นไปโดยปริยาย แล้วการลดภาษีน้ำมันก็หมายความว่ารัฐบาลต้องสูญเสียเงินรายได้ไปด้วย แถมยังต้องใช้เงินจากกองทุนน้ำมันฯ เข้าไปพยุงราคาน้ำมัน ก็ยิ่งทำให้เกิดปัญหาสะสมมากขึ้น
ขอย้ำว่าไม่มีวันที่รัฐบาลไทยจะใช้มาตรการบิดเบือนกลไกราคาน้ำมันเชื้อเพลิงได้ตลอดไป เพราะมันหมายถึงการใช้เงินจำนวนมหาศาล แล้วก็ต้องย้ำว่าเราไม่มีเงินจำนวนมหาศาลเพื่อใช้บิดเบือนกลไกราคาน้ำมันได้ ขอย้ำอีกครั้งว่าทุกวันนี้กองทุนน้ำมันฯ ติดลบเป็นแสนล้านบาท หากรัฐบาลยังแก้ปัญหาแบบเดิมๆ คือการขายผ้าเอาหน้ารอดไปวันๆ รับรองว่าจะเกิดปัญหาหนี้กองทุนน้ำมันฯ จำนวนมาก มากกว่านี้อีกหลายเท่า
รัฐบาลอาจจะอ้างว่าต้องพยุง ต้องอุ้มราคาน้ำมันต่อไป เพื่อให้ประชาชนได้ใช้น้ำมันราคาไม่แพงเกินไป แต่คำถามคือแล้วรัฐบาลมีปัญญาหาเงินไปใช้หนี้กองทุนน้ำมันฯ หรือ หรือรัฐบาลจะอ้างว่าจะกู้เงินจากแหล่งเงินกู้ที่ไหนก็ตาม เพื่อนำไปโปะหนี้กองทุนน้ำมันฯ ก็ต้องถามต่อไปว่า เจ้าหน้าที่ไหนจะยอมให้กู้เพราะเจ้าหนี้รู้ดีว่ากองทุนน้ำมันฯ ติดลบมากมายมหาศาลเช่นนี้ ถามจริงๆ รัฐบาลมีปัญญาหาเงินกู้จากที่ไหนไปโปะหนี้กองทุนน้ำมันฯ การที่รัฐบาลปล่อยให้กองทุนน้ำมันฯ ติดหนี้มากขึ้น และมากขึ้นเป็นลำดับ ในที่สุดแล้ว รัฐบาลก็ต้องนำเงินภาษีอากรของคนทั้งประเทศไปล้างหนี้ก้อนมหึมานั้น ถามว่าการนำเงินภาษีอากรของคนทั้งประเทศไปล้างหนี้ มันเป็นธรรมกับคนทั่วไปที่ไม่ได้เป็นเจ้าของรถยนต์ หรือจักรยานยนต์ เช่นนั้นหรือ
ที่พูดมาทั้งหมดนี้ ยังไม่ได้แตะประเด็นค่าไฟฟ้าแพง แต่พื้นที่ของคอลัมน์หมดแล้ว แต่ขอบอกสั้นๆ ว่ารัฐบาลยังเป็นหนี้ค่า Ft. (ค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ) กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.)เป็นจำนวนนับแสนล้านบาทอีกด้วย แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่ได้ทำให้ค่าไฟฟ้าที่ประชาชนต้องจ่ายถูกลง แต่กลับยิ่งจะแพงขึ้น แล้วยังต้องมาเจอกับปัญหาหนี้ที่รัฐบาลผลักภาระให้ กฟผ. ต้องแบกรับไว้แต่ก็มิได้หมายความว่ารัฐบาลจะไม่ต้องรับผิดชอบหนี้ดังกล่าว เพราะอย่างไรเสีย รัฐบาลก็ต้องจ่ายหนี้ที่ก่อไว้
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้คือระเบิดเวลาที่รัฐบาลได้ตั้งระเบิดไว้ ซึ่งรอเวลาที่ระเบิดจะปะทุเท่านั้น แล้วทั้งหมดทั้งมวลก็เป็นเครื่องประจานรัฐบาลว่า ไม่มีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาค่าน้ำมันเชื้อเพลิง และค่าไฟฟ้า แต่ยิ่งทำให้ประชาชนเห็นชัดว่ารัฐบาลตีแต่โฆษณาชวนเชื่อ ดีแต่หาเสียงไปวันๆ แต่ไม่มีปัญญาแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศได้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี