การแถลงความคืบหน้าโครงการเงินดิจิทัล วอลเล็ต แบบอ้ำๆ อึ้งๆ ไม่ชัดเจนของรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เป็นสัญญาณว่า โครงการดิจิทัล วอลเล็ต ที่เปิดช่องทางทุจริตทางนโยบายครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย คงไม่มีโอกาสใช้ในรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน และรัฐบาลชุดต่อไปในทศวรรษนี้
สัญญาณที่บอกได้ชัดเจนว่า ดิจิทัล วอลเล็ต อาจล่มไปพร้อมรัฐบาลนี้ คือที่นายเศรษฐาผู้เปิดประเด็นนโยบายแจกเงินให้คนไทยตั้งแต่อายุ 16 ปีขึ้นไปคนละ 10,000 บาท นายเศรษฐา ถือได้ว่าเป็นผู้ให้กำเนิดดิจิทัล วอลเล็ต ไม่อยู่แถลงข่าวความคืบหน้ามาตรการแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต แต่มอบหมายให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการแถลงข่าว“ดิจิทัล วอลเล็ต โครงการเพื่อประชาชน พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจแล้ววันนี้” โดยมี นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังและนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมแถลงข่าวแก้ผ้าเอาหน้ารอดไปวันๆ
เหตุที่นายเศรษฐาไม่ร่วมแถลงข่าว อาจเป็นเพราะเขาตระหนักว่า มีอุปสรรคมากมายที่ไม่สามารถผลักดันแผนการงาบเงินทอนหลายหมื่นล้านบาทได้ รัฐบาลนายเศรษฐาไม่สามารถฝ่าฟันด่านทางกฎหมายและอุปสรรคใหญ่ คือ คนไทยรู้ทันแผนการ ไม่ชอบมาพากลของกลุ่มคนที่ วางแผนการนำเงินบาทมาแปลงเป็นคูปองให้ประชาชนไปใช้ซึ่งเปิดช่องให้โกงได้หลายทาง ส่วนอุปสรรคทางกฎหมายนายเศรษฐาตระหนักดีว่า ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของตนแขวนอยู่บนเส้นด้ายที่อาจต้องพ้นจากตำแหน่งในไม่กี่วันข้างหน้านี้ จึงไม่มีความจำเป็นใดๆ ต้องอยู่ทำผิดกฎหมายวินัยการเงิน ในการผลักดันโครงการดิจิทัล วอลเล็ต นายเศรษฐาถึงได้มอบหมายให้บรรดารัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย แบ่งเบาภาระทางกฎหมายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ความจริงสามารถพูดได้ว่านายเศรษฐา เป็นผู้ให้กำเนิดดิจิทัล วอลเล็ต เพราะแผนการนำงบประมาณหลายแสนล้าน มาแบ่งกันกินแบ่งกันใช้ออกจากปากนายเศรษฐา เป็นคนแรก ในวันเปิดตัว นายเศรษฐา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เขากล่าวในเวทีปราศรัยหาเสียง เป็นสัญญาประชาคมว่า จะแจกเงินดิจิทัลให้คนไทยตั้งแต่อายุ 16 ปีขึ้นไปคนละ 10,000 บาท ไปใช้บรรเทาความลำบากจากเศรษฐกิจซบเซาทันทีที่พรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล
การเปิดประเด็นแจกเงินในเวทีปราศรัยหาเสียงของนายเศรษฐาเกิดคำถามว่า ผิดกฎหมายเลือกตั้งที่ห้ามไม่ให้สัญญาว่า จะให้หรือไม่ และสร้างความงวยงงสงสัยว่าพรรคเพื่อไทยหาเงินจากไหนมาแจกชาวบ้าน 5-6 แสนล้านบาท และมีวิธีแจกเงินดิจิทัลอย่างไร ทำไม ไม่แจกเป็นเงินบาท พรรคเพื่อไทยมีเล่ห์กลอะไรที่เอาเงินบาทไปทำเป็นคูปอง แล้วนำคูปองแลกเงินบาทกลับมาใหม่ ค่าธรรมเนียม เงินทอนที่แลกกันไปมาเข้ากระเป๋านักการเมืองคนไหน? หลายฝ่ายคิดไปไกลว่า บริษัทในเครือรัฐบาลปัจจุบัน ถือเงินดิจิทัลไว้หลายหมื่นล้าน วางแผนหมุนใช้เปลี่ยนขาดทุนเป็นกำไรจากโครงการดิจิทัล วอลเล็ต แต่ข้อสงสัยเหล่านั้นทุเลาเบาบางลงได้บ้าง เมื่อพรรคไทยเพื่อแจ้ง กกต.ว่า แจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต เป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่บริหารเงินงบประมาณมาใช้ โดยไม่ต้องกู้ยืมสถาบันการเงิน นโยบายแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต จึงไม่ผิดกฎหมายเลือกตั้ง
หลังเลือกตั้งเดือนพฤษภาคม 2566 พรรคเพื่อไทยโล่งใจที่ไม่ต้องคอยแจกแจง เรื่อง เงินดิจิทัล วอลเล็ต ที่ไม่มีแผนงานชัดเจนตอนหาเสียง เพราะหลังเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ใช้เวลาส่วนใหญ่กับแผนการจัดตั้งรัฐบาล โดยไม่มีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ จนกระทั่ง พรรคก้าวไกลติดกับดักตัวเองหน้าคว่ำ ดื้อรั้นไม่ยอมผ่อนปรนท่าทีปฏิปักษ์สถาบัน ไม่ยอมยกเลิกแผนการแก้กฎหมายอาญา มาตรา 112 พรรคเพื่อไทย จึงมีความชอบธรรมสลัดจากพรรคก้าวไกล แล้วหันมาจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคการเมืองที่เป็นปฏิปักษ์กันมาตลอดเวลาเก้าปี
พรรคเพื่อไทยบริหารประเทศอย่างเป็นทางการหลังจากแถลงนโยบายต่อสภาวันที่ 10 กันยายน 2566 นายเศรษฐาในฐานะนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เริ่มพูดถึงนโยบายดิจิทัล วอลเล็ต แต่ส่วนใหญ่แก้ต่าง ข้อกล่าวหาว่าไม่โปร่งใสที่นำเงินดิจิทัลแจกให้ชาวบ้านผ่านระบบ Blockchain อาจเปิดช่องให้โกงได้ง่าย และทำไม ไม่แจกเป็นเงินบาทไทยผ่านทาง “APP เป๋าตัง” ที่ประชาชนใช้กันแพร่หลายมาหลายปี
รัฐบาลเพื่อไทย นำโดย นายเศรษฐาใช้เวลาตอบโต้ แก้ต่างข้อกล่าวหา และคำเตือนจากธนาคารแห่งประเทศไทย สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตลอดถึงสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ถึงความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ที่อาจเกิดขึ้นแก่เศรษฐกิจไทยเมื่อนโยบายดิจิทัล วอลเล็ต ใช้ในทางปฏิบัติ นอกจากความเสียหายทางเศรษฐกิจแล้ว คณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)และคณะกรรมการกฤษฎีกาเตือนว่า รัฐบาลเสี่ยงต่อละเมิดกฎหมายการเงินการคลัง ที่ ครม.มีสิทธิติดคุกหลายปีและผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญในพรรคเพื่อไทย แก้เกมด้วยการเปลี่ยน ตัวผู้เล่นใหม่ถอด นายเศรษฐา ออกจากตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แต่งตั้ง นายพิชัย ชุณหวชิร ขึ้นมาเดินเกม พลิกแพลงแผนการนำเงินงบประมาณมาใช้ในโครงการดิจิทัล วอลเล็ต
พรรคเพื่อไทยละล้าละลังจะแจกเงินอย่างไร และหาเงินมาจากไหนมาใช้จนกระทั่งถึงเดือนเมษายน 2567 ได้ข้อสรุปภายในให้นำเงินธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)1.73 ล้านบาท มาสมทบกับบริหารงบประมาณปี 2567 เพื่อใช้ในโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ถึงจุดนี้ รมต.เพื่อไทยตีปีก คุยโม้ถึงความคืบหน้าและกำหนดไทม์ไลน์แจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต ได้ในไตรมาส 4 หรือปลายปี 2567 แต่สามเดือนผ่านไป รัฐมนตรีเพื่อไทย ต้องเปลี่ยนวิธีหาเงินมาใช้อีกครา เมื่อพบว่ากฎหมายห้ามไม่ให้นำเงิน ธ.ก.ส.มาใช้ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
ด้วยความมุ่งมั่นนำเงินบาทมาแบ่งกันกินแบ่งกันใช้ให้ได้ พรรคเพื่อไทยเสนอร่าง พ.ร.บ.เพิ่มเติมงบประมาณปี 2567 อีก 1.22 ล้านบาท เข้าสภาเพื่อนำมาสมทบ กับงบประมาณ 3.8 ล้านบาทที่ใช้ไปแล้ว 90%มาบวกกับเงินบริหารงบประมาณปี 2568 เพื่อใช้ในโครงการดิจิทัล วอลเล็ต แล้วพรรคเพื่อไทย ก็สรุปเอาเองว่ามีเงิน 4.5 แสนล้านบาท กองอยู่เบื้องหน้า พร้อมใช้ในโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ถึงจุดนี้ รัฐมนตรีเพื่อไทยกระดี๊กระด๊าแถลงความคืบหน้า โดยที่ไม่มีนายเศรษฐาร่วมวง
นายพิชัย ซึ่งรับช่วงผลักดันแผนการแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต แถลงเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมว่า รัฐบาลพร้อมแล้วที่จะเริ่มต้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการแจกเงินดิจิทัลให้ประชาชนใช้ เพื่อให้เกิด พายุเศรษฐกิจหมุน 4 รอบ โดยพายุลูกที่ 1.ประชาชนใช้จ่ายกับร้านค้าขนาดเล็ก พายุลูกที่ 2 ร้านค้าขนาดเล็ก ใช้จ่ายกับร้านค้าขนาดใหญ่ พายุลูกที่ 3 ร้านค้าขนาดใหญ่ใช้จ่ายกับร้านค้าขนาดใหญ่ พายุเศรษฐกิจลูกที่ 4 คือพลังการใช้จ่ายกระตุ้นให้เกิดพายุเศรษฐกิจครั้งใหญ่กระตุ้นเกิดอุตสาหกรรมการผลิตทำให้ประชาชนมีงานทำมากขึ้น
#ระบบเศรษฐกิจแบบนี้ เราเห็นมาตั้งแต่เรียนชั้น ป.4 คือ 1.ชาวบ้านขายขี้ยางกับร้านรับซื้อยางในหมู่บ้าน 2.ร้านซื้อขี้ยางในหมู่บ้าน นำขี้ยางไปขายยี่ปั้วในอำเภอ 3.ยี่ปั้วในอำเภอขายให้โรงรมยาง 4 โรงรมยางขายให้อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ นำไปผลิตถุงอนามัย ถุงมือยางตลอดถึงยางรถยนต์ พายุเศรษฐกิจตามทฤษฎีรัฐมนตรีพิชัยก็เห็นพายุเศรษฐกิจหมุนอยู่แต่ในร้านและอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ คนขายขี้ยางจนอย่างไรก็จนอยู่อย่างนั้น พ่อค้าแม่ค้าในหมู่บ้านอย่างดีก็ขายข้าวเหนียวปิ้งโกปี้อ้อแก่คนขายขี้ยาง แต่ที่ดีกว่า พายุเศรษฐกิจของรัฐมนตรีพิชัย คือคนขายขี้ยาง คนขายโกปี๊มีเงินบาทใช้จ่ายหมุนเวียนได้ทันที ดีกว่าเงินดิจิทัล ที่ทุนใหญ่ได้ผลประโยชน์เต็มๆ จากเงินทอนดิจิทัล วอลเล็ต
รมต.พรรคเพื่อไทยที่แสวงหาลู่ทางใช้งบประมาณให้อยู่กรอบกฎหมาย แถลงว่าประชาชนที่สนใจร่วมโครงการลงทะเบียน ได้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม ถึง 15 กันยายน โดยมีไทม์ไลน์ แจกเงินดิจิทัลให้ประชาชนในไตรมาส 4 หรือปลายปี 2567 พิเคราะห์จากที่นายเศรษฐา ผู้ให้กำเนิดดิจิทัล วอลเล็ต และผู้ผลักดันโครงการอย่างแข็งขันมาแต่ต้น แต่ในระยะหลังหลีกเลี่ยงแถลงความคืบหน้าโครงการ
จึงอนุมานได้ว่านายเศรษฐาตระหนักว่า ตนไม่มีโอกาสได้เป็นประธานในพิธีเปิดการแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต เนื่องจากว่ารัฐบาลปัจจุบันอาจล่มไปก่อนได้ใช้ดิจิทัล วอลเล็ต และเป็นไปได้สูงว่า ตนต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกไม่กี่วันข้างหน้า เพราะปัญหากฎหมายที่แต่งตั้งคนของนายใหญ่ เป็นรัฐมนตรี แต่หากบาปเหมาะเคราะห์ร้าย ได้ไปต่อ ก็เสี่ยงติดคุกคดีดิจิทัล วอลเล็ต
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี