เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมวานนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน ได้ส่งคำแถลงปิดคดีที่อดีต 40 สว.ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ กรณีแต่งตั้ง“ทนายถุงขนม-พิชิต ชื่นบาน” เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนที่ศาลจะชี้ชะตาว่าจะอยู่หรือไปในวันที่ 14 สิงหาคมอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า
ในรายละเอียดของเนื้อหาในคำแถลงปิดคดีดังกล่าวของนายเศรษฐา ทวีสิน ตามที่ปรากฏเป็นข่าว พอจับความได้ว่า มาตะเภาดียวกับนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ในปี 2544 กรณี“ซุกหุ้น”ผ่านคนรับใช้ และคนขับรถ เพื่อปกปิดรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินที่ยื่นแสดงต่อ ป.ป.ช. คืออ้างในทำนองว่า“บกพร่องโดยสุจริต”
นายเศรษฐา ทวีสิน ได้ระบุไว้ในเอกสารที่ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ว่าการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ดำเนินการถูกต้องตามขั้นตอน และตามแนวทางปฏิบัติของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ( สลค.) ในการตรวจสอบคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามของผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรี
นอกจากนั้น การชี้แจงของนายเศรษฐา ทวีสิน ยังเน้นย้ำในเอกสารที่มีความยาว 32 หน้ากระดาษ ว่าการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ไม่ได้ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลหรือเอื้อประโยชน์ให้แก่บุคคลใด แต่กระทำด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และคำนึงถึงผลประโยชน์ในการบริหารราชการแผ่นดินเป็นสำคัญ
ประเด็นดังกล่าวเรื่อง“ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลหรือเอื้อประโยชน์ให้แก่บุคคลใด”นั้น จากคำร้องของอดีต 40 สว.ที่ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมีการกล่าวอ้างไว้ว่า นายเศรษฐา ทวีสิน เสนอชื่อนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หลังจากที่นายเศรษฐาได้ไปพบนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร 3 ครั้งในช่วงที่มีการปรับคณะรัฐมนตรี“เศรษฐา 1/1”
ทั้งนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน ยังระบุไว้ในเอกสารอีกด้วยว่า ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวของอดีต 40 สว.ในฐานะผู้ร้อง เป็นข้อกล่าวอ้างที่ไม่มีมูล โดยนายเศรษฐาให้เหตุผลว่า เพราะตนรู้จักกับนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร มานานแล้ว และมีการพบปะกันบ้างตามแต่ละโอกาส
ส่วนการพบปะกับนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร 3 ครั้งในช่วงที่มีการปรับคณะรัฐมนตรี“เศรษฐา 1/1”นั้น นายเศรษฐา ทวีสิน มิได้ปฏิเสธว่าไม่เคยพบ โดยได้ชี้แจงว่า ในการพบกับนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ทั้งที่บ้านพักจันทร์ส่องหล้าในซอยจรัญสนิทวงศ์ 71, ที่จังหวัดเชียงใหม่ และที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ได้ทำโดยเปิดเผย ไม่ได้ไปรับคำสั่งหรือรับข้อปฏิบัติใดๆ ในทางการเมืองจากนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ
“เช่น ตอนไปพบที่บ้านพักจันทร์ส่องหล้าช่วงวันหยุดสงกรานต์ ก็เพื่อขอรดน้ำดำหัวตามประเพณีปฏิบัติของสังคมไทย”นายเศรษฐา ทวีสิน ชี้แจงในรายละเอียด
และอีกประเด็นหนึ่งจากเนื้อหาของคำแถลงปิดคดี ที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ถ้านายเศรษฐา ทวีสิน รู้ตัวว่าด้อยปัญญาขาดความรอบรู้ในการบริหารราชการแผ่นดิน ก็ไม่สมควรที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่แรก
โดยนายเศรษฐา ทวีสิน ได้บรรยายไว้ในเอกสารว่า ตนเองไม่มีภูมิหลังทางการศึกษาด้านนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ ประกอบกับมีประสบการณ์ทางการเมืองและการบริหารราชการแผ่นดินที่จำกัด จึงไม่อาจรู้หรือควรรู้ว่านายพิชิต ชื่นบาน เป็นบุคคลที่ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่
มิหนำซ้ำยังมีอีกประเด็นหนึ่ง ที่ฟังแล้วเสมือนเป็นการแก้ตัวของเด็กน้อยที่ไม่รู้ว่าจะหาเหตุผลใดมาอ้างกับผู้ปกครองหลังจากได้กระทำผิดไปแล้วว่า การเข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น มีความมุ่งมั่นในการทำงานโดยไม่ได้หวังผลตอบแทนใดๆ ซึ่งนายเศรษฐาระบุไว้ในเอกสารเหมือนออดอ้อนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่า “แม้แต่เงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง ก็นำไปบริจาคเพื่อการกุศลและประโยชน์สาธารณะทั้งหมด”
สรุปแล้ว การแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญของนายเศรษฐา ทวีสิน ตามเอกสารที่ยื่นเมื่อวันที่ 30 กรกฏาคมวานนี้ ยืนยันว่า “ทำโดยถูกต้องตามขั้นตอน” ไม่มีพฤติกรรมฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ที่จะทำให้ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี--จึงขอให้ศาลโปรดให้ความเป็นธรรม
ต้องจับตาดูว่าวันที่ 14 สิงหาคมนี้ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยออกมาว่าอย่างไร จะเหมือนคดีซุกหุ้นของนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร หรือไม่ ซึ่งในครั้งนั้นเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2544 ตุลาศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นักโทษเด็ดขาดชายทักษิณพ้นผิดแบบเฉียดฉิว ด้วยมติ 8 : 7 เสียง
คำว่า“บกพร่องโดยสุจริต”จะเป็นประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกครั้งหรือไม่ในวันที่ 14 สิงหาคม 2567 ?!
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี