เดือนสิงหาคม กำหนดการทางการเมืองเข้มข้นสุดๆ เริ่มจาก 7 สิงหาคม ศาลนัดฟังคำวินิจฉัยคดี “ยุบพรรคก้าวไกล” 14 สิงหาคม คดี “ถอดถอน เศรษฐา ทวีสิน”และ 22 สิงหาคม “ทักษิณ ชินวัตร” พ้นโทษ
ก้าวไกล-จะโกลาหล, เพื่อไทย-ทักษิณจะเข้าควบคุมการเมือง ผ่านการกำหนดตัวนายกฯ นโยบาย และทิศทางทางการเมือง
การเข้ามาวุ่นวายของทักษิณ จะนับหนึ่งในการเรียกแขกเรียกม็อบ และเพิ่มแรงต้านทางการเมือง จนบ้านเมืองเข้าสู่ความวุ่นวายอีกครั้ง
1) นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ว่า ช่วงนี้ขอให้พี่น้องประชาชนพักผ่อนเอาแรงตามอัธยาศัย เพื่อมาพบกันใหม่วันที่ 1 สิงหาคม ในสถานการณ์อำนาจทางการเมืองใกล้จบสิ้น ซึ่งต้องถูกชำแหละลากไส้กันครั้งใหญ่
จตุพรระบุว่า การเมืองในเดือนสิงหาคมจะเป็นการเผาจริง เมื่ออำนาจและผลประโยชน์เดินมาถึงจุดหนักที่สุด เพราะรัฐบาลมี 4 โครงการใหญ่ที่กำลังผลักดัน แต่โครงการเหล่านั้นล้วนคำนึงถึงประโยชน์ส่วนตัวของพวกพ้องกลุ่มทุน เหนือกว่าผลประโยชน์ของชาติบ้านเมือง
สิ่งสำคัญภัยร้ายในอนาคตที่รัฐบาลออกแบบสร้างและเริ่มลงมือดำเนินการนั้น ไม่ว่าโครงการดิจิทัล วอลเล็ต และให้ต่างชาติซื้อคอนโดฯ 75% พร้อมที่ดินอยู่นาน 99 ปี โดยหวังตั้งต้นเทขายคอนโดว่างประมาณ 1.3 ล้านยูนิตก่อน นอกจากนี้ยังมีบ่อนกาสิโน 8 แห่งทั่วไทย และแลนด์บริดจ์ซุกซ่อนที่ดิน 3 แสนไร่ให้ต่างชาติครอบครองนาน 99 ปีโครงการเหล่านี้ยิ่งกว่าการขายชาติขายแผ่นดินเสียอีก และต้องถูกชำแหละให้สิ้นซาก
“แม้ประชาชนทุกข์ยากลำบากกับเศรษฐกิจในปัจจุบันจึงต่อสู้คัดค้านภัยร้ายของโครงการอย่างยากลำบาก แต่ไม่ได้หมายความว่า จะสู้ไม่ได้ โดยเหตุการณ์พฤษภาปี 2535 ประชาชนยังสามารถพลิกแพ้เป็นชนะได้ ดังนั้น จึงหวังว่า ถ้าประชาชนพร้อมและตื่นตัวแล้ว เราจะระงับยับยั้งความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับชาติบ้านเมืองได้”
พร้อมย้ำว่า คนที่มีหน้าที่เอาทักษิณ ชินวัตร เข้าประเทศจนเกิดรัฐบาลตระบัดสัตย์แบบนี้ และคิดออกแบบโครงการภัยร้ายเช่นนี้ออกมาย่ำยี ซ้ำเติมประชาชนให้แสนสาหัสยิ่งขึ้น แต่วันนี้พวกเขากลับไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย
นายจตุพร กล่าวว่า ที่ย้ำพิษภัย 4 โครงการของรัฐบาลเพราะต้องการรักษาไว้ซึ่งชาติ บ้านเมือง โดยโครงการเหล่านี้ล้วนเต็มไปด้วยผลประโยชน์ เห็นได้ชัดจากโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ที่มีต้นทุนแค่ 20% ของเงินแจกหมื่นบาท ดังนั้นจึงมีผลต่างของประโยชน์กว่า 3 แสนล้านจากเงินแจก 4.5 แสนล้าน
นอกจากนี้ โครงการคอนโดมีมูลค่าผลประโยชน์มากถึง 4 ล้านล้าน แล้วบ่อนกาสิโนก็มีมูลค่าให้กลุ่มทุนกอบโกยถึงล้านล้าน ส่วนที่ดินแลนด์บริดจ์บวกมูลค่าโครงการมีค่าประโยชน์มากมายถึง 10 ล้านล้าน ซุกซ่อนอยู่กับการดึงต่างชาติมาลงทุน
“ผลประโยชน์มันสูงสุดกับการได้รัฐบาลพันธุ์แบบนี้ดังนั้น ผมจึงหวังว่า วันที่ 14 สิงหาคมจะมีการระงับยับยั้งความเสียหายทั้งปวง แต่เราไว้วางใจสถานการณ์ใดๆ ไม่ได้ทั้งสิ้น เราจึงได้แต่หวังให้ทำในสิ่งที่ถูกต้องเพื่อยับยั้งสิ่งที่ไม่ถูกต้องนั้นเสีย” จตุพรกล่าว
2) นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) โพสต์เฟซบุ๊ก เรื่อง “อย่าผูกขาดโดยลืมความจริง” ความว่า...
“ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องขังเด็ดขาด คดีทุจริตคอร์รัปชั่น ได้จัดงานวันเกิดที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ไม่ใช่ในเรือนจำเหมือนผู้ต้องขังทั่วไป บุญทรง เตริยาภิรมย์ได้จัดแบบนี้ไหมนะ
ทักษิณ ประกาศว่า ปัญหาประเทศตอนนี้ ต้องพรรคเพื่อไทยแก้เท่านั้น
1.ทำไมผูกขาดว่าประเทศนี้ต้องพรรคเพื่อไทยเท่านั้นล่ะ
2.ลองตักน้ำใส่กะโหลก ชะโงกดูเงาหัวตัวเองซิปัญหาประเทศตอนนี้ มาจากรัฐบาลเพื่อไทยบริหารประเทศไม่ใช่เหรอ
พรรคเพื่อไทยคือปัญหา และทักษิณ ชินวัตร คือปัญหาประเทศ ตัวปัญหาจะมาแก้ปัญหา มันฟังดูตลก”
3) และในบรรยากาศการเมือง ที่พรรคการเมืองใหญ่ๆ มีคนหน้าฉากและคนหลังฉากคอยบัญชาการ หนึ่งในนั้นคือ “ทักษิณ ชินวัตร” เทพไท เสนพงศ์ ออกโรงวิเคราะห์ว่า ทำไม “ทักษิณ ”เป็นผู้มีบารมีนอกพรรค มากกว่า “เนวิน-ธนาธร” ความว่า...
จากผลการสำรวจของนิด้าโพล หัวข้อ ผู้มีบารมีนอกพรรค สอบถามถึงบารมีของบุคคล 3 คน เป็นผู้มีบารมีของ 3 พรรค ผลปรากฏว่า คุณทักษิณ ชินวัตร กับ พรรคเพื่อไทย พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 67.40 ระบุว่า มีบารมีทางการเมืองต่อพรรคเพื่อไทยมาก ซึ่งต้องยอมรับว่าคุณทักษิณเป็นเจ้าของพรรคตัวจริง เป็นผู้นำจิตวิญญาณของสมาชิกพรรค แม้ว่าคุณทักษิณจะไม่ได้เป็นผู้บริหารโดยตรง แต่ได้ส่งลูกสาวคือคุณอุ๊งอิ๊ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร มาเป็นหัวหน้าพรรค ควบคุมการบริหารพรรค เป็นตัวแทนเชิดให้กับคุณทักษิณ ซึ่งคุณทักษิณสามารถควบคุมและบริหารพรรค ผ่านคุณอุ๊งอิ๊งอย่างเบ็ดเสร็จ
คุณเนวิน ชิดชอบ กับพรรคภูมิใจไทย พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 45.81 ระบุว่า มีบารมีทางการเมืองต่อพรรคภูมิใจไทยมาก แม้ว่าคุณเนวินจะวางมือทางการเมืองไปแล้ว แต่ก็ยังอยู่เบื้องหลังพรรคภูมิใจไทย ประกาศปั้นคุณอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคเป็นนายกรัฐมนตรีให้ได้ ส่งคนในตระกูลชิดชอบ มาทำหน้าที่แม่บ้านในตำแหน่งเลขาธิการพรรค ตั้งแต่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ จนมาถึงนายไชยชนก ชิดชอบ ซึ่งเป็นลูกชาย และยังส่งน้องชายอีกคน คือ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งพรรคภูมิใจไทย เดินเกมการเมืองภายใต้ การวางแผนของคุณเนวิน ซึ่งเป็นกุนซือคนสำคัญ ทำหน้าที่อยู่เบื้องหลัง ไม่ได้ออกหน้าผ่านสื่อเลย
คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับพรรคก้าวไกล พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 40.99 ระบุว่า มีบารมีทางการเมืองต่อพรรคก้าวไกลมาก คุณธนาธรเป็นผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ได้ปลูกฝังอุดมการณ์ไว้กับพรรค เมื่อพรรคถูกยุบเปลี่ยนมาเป็นพรรคก้าวไกล อุดมการณ์ก็ยังสืบทอดกันมา ประกอบกับคุณธนาธร ยังหนุนช่วยเหลือพรรคทั้งทางด้านความคิดและเงินทุนแบบลับๆ แต่ไม่มีคนสายตรงจากครอบครัวมาควบคุมพรรค มีแต่เพื่อนผู้ร่วมอุดมการณ์กลุ่มหนึ่ง มาควบคุมพรรค จึงทำให้เป็นผู้มีบารมีนอกพรรค น้อยกว่าคุณทักษิณและคุณเนวิน
คำตอบหัวข้อ ผู้มีบารมีนอกพรรค จากผลการสำรวจของนิด้าโพล แสดงให้เห็นถึง ความรู้ความเข้าใจ เรื่องการเมืองของประชาชนเป็นอย่างดี เพราะเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง และสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงมากที่สุด
3) กระนั้นก็ตาม มองกันในมุมหนึ่งว่า ที่ทักษิณต้องมาออกโรงเล่นเอง เพราะพรรคเพื่อไทยไร้ประสิทธิภาพ และกระแสทักษิณเองก็ไม่รุ่งนัก ในเรื่องนี้ สว.นันทนา นันทวโรภาส อธิบายถึงเหตุที่ทำให้ “ทักษิณ ชินวัตร” ถึงไม่ได้ประสบความสำเร็จเหมือนเมื่อกว่า 20 ปี ก่อน ว่า บริบทต่างกัน เทคโนโลยีการสื่อสารเปลี่ยนไป เพราะปัจจุบันมีโซเชียลมีเดีย ทั้ง YouTube TikTok shortsทวิตเตอร์
“สิ่งที่คุณทักษิณทำ ณ ตอนนี้ มันเอ้าท์ไปหมดเลย คุณทักษิณไม่ได้อยู่ในกระแสโซเชียลฯ ทำให้คนจำนวนมากไม่รู้ลุงคนนี้มาทำอะไร แล้วยิ่งคนรุ่นใหม่ไม่รู้คุณทักษิณมีคุณูปการต่อประเทศชาติ แต่วันนี้มาพบว่า คุณทักษิณเป็นนักโทษที่ไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว นี่คือสิ่งที่คนจำนวนมาก ไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้รักคุณทักษิณ แต่เขารู้สึกว่าสิ่งที่คุณทักษิณทำมันเป็นอภิสิทธิ์ มันไม่ได้ถูกใช้กับทุกคนคุณทักษิณไม่ใช่นักการเมืองที่ประชาชนจะโอบอุ้ม เพราะคุณทักษิณใช้อภิสิทธิ์ของตัวเองในการอุ้มตัวเอง ประชาชนไม่ได้ประโยชน์จากสิ่งที่คุณทักษิณทำ”
“คนจำนวนมากที่ยังอยู่ในคุกไม่ได้ประกันตัว เยาวชนจำนวนมากต้องติดคุกโดยที่ไม่ได้สิทธิประกันตัวไม่ได้สิทธิออกมารักษาข้างนอก จนบางคนเสียชีวิตไปนั่นคือการรับรู้ของคน เพราะฉะนั้นคุณทักษิณไม่มีมนต์ขลังอีกแล้ว”
แกนนำ สว.พันธุ์ใหม่ เตือนการสื่อสารถึงผู้นำจิตวิญญาณแห่ง “เพื่อไทย”ว่า ถ้ายังเป็นอยู่แบบนี้ก็จะกลายเป็นสิ่งที่ตัวเองทำนั้นทำลายความเชื่อมั่นของผู้คน เพราะไม่ได้ทำให้ประชาชนรู้สึกศรัทธา
ถามย้ำถึงเหตุที่ “พรรคเพื่อไทย” ไม่ประสบความสำเร็จกับการสื่อสารทางการเมืองในโลกยุคใหม่ “นันทนา”ระบุว่า
“การกระทำเสียงดังกว่าคำพูด เพราะฉะนั้นถึงแม้คุณจะสื่อสารดีแค่ไหนก็ตาม แต่มันตรงข้ามกับพฤติกรรม มันไม่ได้ทำให้คนเชื่อถือค่ะ การพูดและการกระทำต้องไปในทิศทางเดียวกัน”
“ถ้าคุณพูดแล้วคุณกระทำในทิศทางอย่างนั้น เสียงจะยิ่งดังขึ้น เพราะมันส่งเสริมซึ่งกันและกัน ถ้าบอกว่าเรามีอุดมการณ์แบบนี้แล้วเราพูดไปมีอุดมการณ์แบบนี้ แล้วเมื่อการกระทำมันก็สอดคล้องกันไป มันก็จะทำให้คนเชื่อถือตรงนั้น นี่คือการสื่อสาร”
“ถ้าคุณได้แต่พูด แต่ไม่ได้ทำ หรือทำตรงกันข้ามกับสิ่งที่คุณพูด คนเขาจะเชื่อสิ่งที่คุณทำมากกว่าสิ่งที่เป็นการพูด เพราะฉะนั้นตรงนี้เสียหายแน่นอน”
สรุป : เดือนสิงหาคม ในทางฤดูกาล เป็นช่วงฝนหนัก น้ำท่วม แต่ในทางการเมือง มันคือ “ฤดูร้อน” ที่น่าจะร้อนระอุที่สุด นับตั้งแต่รัฐบาล “เศรษฐา ทวีสิน” มา!!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี