ณ เวลานี้ทั่วทั้งโลกกำลังตกอยู่ในสภาพระทึกใจเพราะหวั่นเกรงว่าจะเกิดสงครามโลกขึ้น และสงครามครั้งนี้จะเป็นสงครามใหญ่มากยิ่งกว่าสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 ซึ่งเกิดขึ้นในยุโรป โดยมีประเทศที่เกี่ยวข้องเพียง 10-20 ประเทศเท่านั้น แต่ครั้งนี้จะมีประเทศต่างๆ ทั่วโลกเข้าร่วม
สงครามเป็นจำนวนมาก และจะมีสมรภูมิเป็นวงกว้างทุกภูมิภาคของโลกด้วย
สาเหตุที่ทั่วโลกกำลังจับจ้องสถานการณ์ชนิดตาไม่กะพริบในขณะนี้เกิดจากการที่อิสราเอลปฏิบัติการลอบสังหารโจมตีผู้นำกรรมการทางการเมืองของขบวนการฮามาสในกรุงเตหะรานซึ่งเป็นเมืองหลวงของอิหร่าน ในขณะที่ได้รับเชิญให้ไปร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของประธานาธิบดีคนใหม่ของอิหร่าน
ซึ่งต้องถือว่าเป็นการเอาตีนลูบหน้าอิหร่านโดยตรง และเป็นพฤติการณ์ที่มีปัญหาต่อชาวโลกมาก
ข้อแรก เป็นการละเมิดอธิปไตยของอิหร่าน เพราะการเข้าไปโจมตีแขกของประเทศอิหร่านถึงเมืองหลวงอิหร่านเป็นการผิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรงที่ประเทศคู่กรณีมีสิทธิ์และความชอบธรรมที่จะตอบโต้ได้ และพฤติกรรมลอบสังหารนี้เป็นพฤติกรรมเฉพาะของการก่อการร้าย ซึ่งประเทศตะวันตกมักใช้ประณามฝ่ายตรงกันข้ามกับตนอยู่เสมอ แต่เมื่อเกิดกรณีนี้ขึ้น ประเทศตะวันตกที่เป็นพวกเดียวกันกลับเงียบกริบ ซึ่งเป็นหลักฐานพิสูจน์ว่าข้อหาก่อการร้ายนั้นเป็นข้อหาที่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย และใช้สำหรับพวกฝ่ายตรงกันข้ามกับพวกฝรั่งตาน้ำข้าวเท่านั้น
ข้อสอง เป็นการลบหลู่เกียรติยศแห่งชาติของอิหร่านอย่างถึงที่สุด ชนิดที่เรียกว่าไม่ให้เกียรติเหลือไว้เลยแม้แต่นิดเดียว เพราะผู้นำกรรมการทางการเมืองของฮามาสท่านนี้แม้จะเป็นปรปักษ์กับอิสราเอล แต่ในขณะนั้นท่านเป็นแขกของรัฐบาลอิหร่าน และเดินทางไปเข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของอิหร่าน เป็นการกระทำชนิดที่เรียกได้ว่าไม่ไว้หน้ากันเลย และไม่เหลือทางเลือกอื่นให้อิหร่านเลยนอกจากการตอบโต้อย่างสาสม
ข้อสาม กรุงเตหะรานเป็นเมืองหลวงของอิหร่าน เป็นพื้นที่ปลอดภัยของประชาชนและแขกของอิหร่านที่ได้รับเชิญไปในเมืองหลวง ที่ปกติแล้วทั่วประเทศจะให้เกียรติและถือว่าเป็นพื้นที่ปลอดจากอันตรายสำหรับทุกคน แต่อิสราเอลกลับลุแก่อำนาจเปิดฉากลอบสังหารแขกของรัฐบาลอิหร่านถึงใจกลางเมืองหลวง มีลักษณะเป็นการหยามหน้าอิหร่านซึ่งเป็นชาตินักรบที่มีประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์มาช้านานแล้ว จึงเป็นเรื่องที่อิหร่านไม่สามารถยอมรับได้
การเกิดเหตุลอบสังหารครั้งนี้ได้สร้างความไม่พอใจอย่างรุนแรงให้แก่ชาวอิหร่านทุกระดับ ตั้งแต่ผู้นำสูงสุดลงมา เป็นเหตุให้ผู้นำสูงสุดแห่งอิหร่านได้แสดงท่าทีที่แข็งกร้าวอย่างยิ่งว่าอิหร่านจะตอบโต้และลงโทษอิสราเอลอย่างสาสมต่อการกระทำครั้งนี้ และมีรายงานข่าวว่าได้มีการออกคำสั่งให้ทุกเหล่าทัพตอบโต้อิสราเอลให้สาสม
ทันทีที่มีเรื่องราวเช่นนี้ปรากฏขึ้น สหรัฐได้แสดงท่าทีสนับสนุนอิสราเอล โดยประกาศส่งเรือรบ 12 ลำ เข้าไปในภูมิภาคนั้น นัยก็คือต้องการแสดงท่าทีทางการเมืองว่าสหรัฐพร้อมปกป้องอิสราเอลด้วยกำลังทหาร และต้องการแสดงท่าทีทางการทหารว่าพร้อมที่จะร่วมกับอิสราเอลทำสงครามกับอิหร่านด้วย
ในขณะเดียวกัน ก่อนหน้านี้ไม่นาน ทั้งรัสเซีย จีนและเกาหลีเหนือ ก็ได้ประกาศสนับสนุนอิหร่านในทางการทหารทุกรูปแบบมาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งหมายความว่าถ้าอิหร่านเกิดสงครามกับฝ่ายตะวันตก ทั้งรัสเซีย จีน และเกาหลีเหนือก็พร้อมที่จะเข้าร่วมรบกับอิหร่านด้วย กล่าวโดยสรุปก็คือแกนกำลังหลักของกลุ่มประเทศองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้เตรียมพร้อมรบกับอิหร่านแล้ว
สถานการณ์หลังจากนั้นปรากฏว่าในคืนวันที่ 1 สิงหาคม 2567 ขบวนการฮิซบอลเลาะห์ได้เปิดฉากถล่มอิสราเอลด้วยขีปนาวุธ 60 ลูก ทำให้เกิดความเสียหายจำนวนมาก และขบวนการฮิซบอลเลาะห์แห่งเลบานอนก็กำลังเตรียมการรบครั้งใหญ่ มีการเตรียมทั้งกำลังคนและกำลังอาวุธครั้งใหญ่ที่สุด และแน่นอนว่าขบวนการฮูตี ขบวนการอัลซอรุลเลาะห์แห่งเยเมนก็จะเข้าร่วมสงครามอย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน ซึ่งวันนี้ขบวนการฮูตี ก็ได้ประกาศที่จะเพิ่มการโจมตีเรือของพันธมิตรอิสราเอลในพื้นที่ทะเลแดงและพื้นที่ข้างเคียงอย่างเต็มอัตรา
ในช่วงเวลาเดียวกันนี้มีรายงานข่าวว่ากองกำลังตาลิบันหลายพันคนได้เคลื่อนกำลังจากอัฟกานิสถานผ่านดินแดนอิรัก ซีเรีย เพื่อเดินทางเข้าไปในเลบานอนเพื่อเสริมกำลังรบให้กับขบวนการฮิซบอลเลาะห์ด้วย
กล่าวได้ว่าสถานการณ์ขณะนี้บรรดาขบวนการปฏิวัติอิสลามต่างๆ ไม่ว่าฮามาส ฮิซบอลเลาะห์ อัลซอรุลเลาะห์แห่งเยเมน และฮัชชาบีอิรักและซีเรีย ขบวนการนักรบเชเชนแห่งรัสเซีย และนักรบตาลิบันแห่งอัฟกานิสถานได้เคลื่อนกำลังเข้ามาพร้อมเข้าร่วมรบแล้ว ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
ขณะนี้ทั่วโลกได้คาดหมายกันว่าเมื่ออิหร่านสั่งปิดน่านฟ้า ตั้งแต่คืนวันที่ 1 สิงหาคม 2567 แล้ว การโจมตีตอบโต้น่าจะเกิดขึ้นภายใน 72 ชั่วโมงจากนี้ไป เป็นสถานการณ์ซ้ำรอยปฏิบัติการทางทหารที่รัสเซียได้กระทำในยูเครน
ในครั้งนั้นนอกจากแรงกดดันที่ยูเครนจะเข้าเป็นสมาชิกนาโตเพื่อคุกคามต่อรัสเซียแล้ว ยังมีการลอบสังหารผู้นำมิตรประเทศของรัสเซียที่ได้รับเชิญจากประธานาธิบดีปูตินไปร่วมงานสำคัญ ซึ่งถือเป็นการเอาตีนเหยียบหน้ารัสเซียเช่นเดียวกัน ดังนั้น รัสเซียจึงตัดสินใจเปิดปฏิบัติการต่อยูเครนตั้งแต่บัดนั้นมาเป็นเวลาร่วมสามปีแล้ว
แต่ทว่าสงครามที่อิสราเอลจุดชนวนขึ้นครั้งนี้อาจจะแตกต่างจากสงครามยูเครน เพราะการโจมตีของอิหร่านถ้าเกิดขึ้นก็ย่อมจะมีลักษณะพิเศษ คือเป็นการโจมตีเพื่อป้องกันการตอบโต้ของอิสราเอลด้วย ในขณะที่อิสราเอลก็อาจจะตอบโต้หรือชิงตอบโต้ในเชิงป้องกันคือชิงถล่มอิหร่านก่อน ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าอิหร่านก็เตรียมพร้อมรับมือด้วยความพร้อมอย่างยิ่งมาก่อนหน้านี้แล้ว
ดังนั้นสงครามระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านถ้าจะเกิดขึ้นจึงมีความรุนแรงมากกว่าสงครามที่เกิดขึ้นในยูเครน เพราะเป็นสงครามที่เกิดขึ้นเพื่อทำลายการตอบโต้ของอีกฝ่ายหนึ่งด้วย ซึ่งต้องใช้สรรพแสนยานุภาพที่ร้ายแรงที่สุด และแน่นอนว่าสหรัฐก็ย่อมผสมโรงอย่างเต็มที่ ซึ่งพันธมิตรของอิหร่านก็จะไม่ปล่อยให้อิหร่านโดดเดี่ยว ดังนั้น ลักษณะของสงครามจึงมีขนาดใหญ่โตและรุนแรงอย่างยิ่ง
คอยจับตาดูกันให้ดีก็แล้วกัน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี