เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่า อิสราเอลนั้นมีแสนยานุภาพทางทหารเหนือประเทศใดๆ ในละแวกตะวันออกกลาง นอกจากนั้นชาวโลกก็ยังเชื่อด้วยว่า เพราะอิสราเอลได้แอบครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ไว้ จึงไม่มีประเทศหนึ่งใดในละแวก เช่น อิหร่าน ซาอุดีอาระเบีย อียิปต์ หรือซีเรีย จะกล้าต่อกรกับอิสราเอลแบบตัวต่อตัว ขนาดแม้ว่าจะร่วมมือกัน 2-3 ประเทศรุม ก็ยังเป็นรองอิสราเอลอยู่ดี บวกกับที่เคยได้พ่ายแพ้ต่ออิสราเอลมาแล้ว 2-3 ครั้ง ตลอด 50-60 ปีที่ผ่านมา น่าจะทำให้เข็ดหลาบกันอยู่ อีกทั้งอิสราเอลก็มิได้ยืนโดดเดี่ยวอยู่ผู้เดียว หากแต่มีสหรัฐอเมริกาสนับสนุนอย่างเต็มที่ ทั้งทางด้านการเงิน อาวุธยุทโธปกรณ์ และการมีกำลังทัพเรือและอากาศอยู่ในบริเวณตะวันออกกลาง
ในรูปการณ์นี้ จึงไม่แปลกที่อิสราเอลจะมีความเชื่อมั่นในตัวของตัวเองว่า ตนสามารถที่จะรักษาความมั่นคงและป้องกันภยันตรายต่างๆ ได้จากประเทศรอบข้าง เพราะไม่มีประเทศใดที่จะกล้าบุกรุก รุกรานอิสราเอลโดยตรงเป็นแน่
อย่างไรก็ตาม สงครามสู้รบก็มีหลายรูปแบบ เช่น การจัดกำลังทัพเข้าเผชิญหน้าและเข้าประหัตประหารกัน เป็นแบบสงครามสู้รบในรูปแบบ Conventional Warfare และก็ยังมีสงครามแบบก่อการร้าย สงครามย่อยเฉพาะพื้นที่ ที่เน้นความยืดเยื้อ ค่อยๆ บ่อนทำลายไปทีละนิด (Attrition and Protracted) อีกด้วย
ณ วันนี้จากเหตุการณ์ที่ฝ่ายกองกำลังฮามาสในกลุ่มชาวปาเลสไตน์อาหรับได้เปิดการโจมตีและสังหารชาวอิสราเอลไปประมาณ 1,200 คน และจับตัวชาวอิสราเอลและแรงงานต่างชาติเป็นเชลยคุมขังอีกประมาณ 250 คน เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 อิสราเอลก็ได้เปิดทำการโต้ตอบล้างแค้น และมุ่งขจัดฝ่ายฮามาสในเขตฉนวนกาซา โดยไม่คำนึงว่า ชาวปาเลสไตน์ในเขตฉนวนกาซาจะได้รับเคราะห์กรรมอย่างไร เป็นเสมือนว่ามุ่งขจัดขบวนการฮามาส แล้วทำโทษทำร้ายชาวปาเลนไตน์ไปในตัวด้วย จึงเข้าทำนองการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ จนประชาคมโลกร่วมกันออกมาเรียกร้อง จนมีการไปฟ้องร้องกันทั้งที่ศาลอาญาระหว่างประเทศ และศาลยุติธรรมระหว่างประเทศที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ด้วย แต่สุดท้ายแล้ว ฝ่ายอิสราเอลก็ไม่ได้แยแส ยังคงใช้มาตรการสู้รบ คู่ขนานกับการสร้างความยากลำบากให้กับชาวปาเลสไตน์ในเขตฉนวนกาซาต่อไปอย่างไม่ลดละ
ประเทศกาตาร์ และประเทศอียิปต์โดยการสนับสนุนของสหรัฐอเมริกา ก็ได้เพียรพยายามที่จะให้ฝ่ายอิสราเอล และฝ่ายฮามาสได้ยุติการสู้รบ และพร้อมจะส่งความร่วมมือด้านการช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมเข้าไป แต่จนแล้วจนรอดก็ยังมิได้มีความคืบหน้าใดๆ รวมทั้งข้อมติต่างๆ ที่องค์การสหประชาชาติมีออกมา ยังมิได้รับการตอบสนองใดๆ จากอิสราเอล
ณ วันนี้อิสราเอล จึงต้องเผชิญกับภยันตรายรอบด้าน นอกจากการต้องต่อกรกับฝ่ายฮามาสที่เขตฉนวนกาซา และการต้องปราบปรามพวกหัวรุนแรงปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์แล้ว ก็ยังมีการยิงจรวดของขบวนการฮูตีในประเทศเยเมนเข้าสู่อิสราเอล การยิงจรวดของพวกฮิซบอลเลาะห์ ที่ตั้งมั่นอยู่ในประเทศเลบานอน เข้าสู่อิสราเอล การลองเชิงหยั่งท่าทีด้วยการยิงจรวดของฝ่ายอิหร่านเข้าสู่อิสราเอล และฝ่ายอิสราเอลก็ตอบโต้กลับ
ผลก็คือ อิสราเอลจะตกอยู่ในสภาวะที่ต้องรบศึกรอบด้าน โดยเฉพาะกับพลเมืองอิสราเอลที่พำนักอาศัยอยู่ทางตอนเหนือของประเทศใกล้กับเลบานอน โดยระยะทำการของจรวดของฝ่ายฮิซบอลเลาะห์นั้นอยู่ในสภาวะอันตราย ต่างจำเป็นที่จะต้องโยกย้ายถิ่นฐานลงมาตอนกลาง และตอนใต้ของอิสราเอล ประมาณเกือบ 200,000 คน ซึ่งจะต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก อีกทั้งการที่อิสราเอลต้องอยู่ในสภาวะการสู้รบนั้นก็มีผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจ และประชาชนพลเมืองจำนวนหนึ่งก็จะทำงานทำการเป็นปกติไม่ได้ เนื่องจากถูกเรียกเข้าประจำการเพื่อเข้าปฏิบัติการสู้รบ หรือเป็นกองกำลังสำรองฉุกเฉิน
ทั้งนี้ความมุ่งมั่นของฝ่ายรัฐบาลอิสราเอลในเรื่องการใช้กำลังอาวุธนั้น ก็มิได้รับความเห็นชอบจากบรรดาประชาชนทั้งหมด สร้างความแตกแยกให้กับสังคม ซึ่งฝ่ายรัฐบาลจะเพิกเฉยมิได้ เพราะเกี่ยวกับอนาคตของตนเองภายใต้การเมืองในระบอบประชาธิปไตย
หนทางออกจึงมิใช่การใช้กำลังบดขยี้เพื่อให้ได้รับชัยชนะบนสนามรบที่ดูจะยืดเยื้อ และยาวนาน เพราะขบวนการฮามาสมิได้ประกอบด้วยแค่ผู้คนถืออาวุธเท่านั้น หากแต่ได้กลายเป็นอุดมการณ์ทางการเมืองอย่างหนึ่งซึ่งอยู่ในจิตใจชาวปาเลสไตน์ ซึ่งขจัดไม่ได้ด้วยการบังคับขู่เข็ญ ก็เป็นเรื่องที่ฝ่ายผู้นำอิสราเอลจะได้ตระหนัก และมุ่งกลับสู่โต๊ะเจรจา ซึ่งก็จะเป็นเรื่องที่ดีต่ออิสราเอลเองในที่สุด
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี