วันนี้เป็นวันมงคลของพสกนิกรชาวไทยทั้งชาติ..12 สิงหาคม--นอกจากจะเป็นวัน“เฉลิมพระชนมพรรษา”สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง..ก็ยังเป็น“วันแม่แห่งชาติ”ด้วย
ปีนี้นับว่าเป็นมหามงคลยิ่ง..สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงซึ่งมีพระชนมายุ 92 พรรษา..ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯพระราชทานคำขวัญวันแม่แห่งชาติ--ประจำปี 2567 ความว่า
“คือใยรักถักร้อยด้วยชีวิต..สร้างอีกหนึ่งชีวิตจนเติบใหญ่..ทอเส้นสายคุณธรรมสู่หัวใจ..ลูกทดแทนคุณแม่ให้สู่แผ่นดิน”
พระคุณแม่นั้นยิ่งใหญ่มิอาจหาสิ่งใดมาเปรียบเทียบได้..กว่าจะถนอมอุ้มชูเลี้ยงดูให้บุตรและธิดาเติบใหญ่ขึ้นมาได้ ต้องทุ่มเททั้งชีวิตและจิตใจ..ดังคำขวัญที่พระราชทานว่า“คือใยรักถักร้อยด้วยชีวิต..สร้างอีกหนึ่งชีวิตจนเติบใหญ่”
และไม่เพียงแต่จะทุ่มเททั้งชีวิตและจิตใจให้เท่านั้น..แม่ยังต้องคอยอบรมบ่มเพาะให้ลูกหลานของตนเป็นคนดีมีคุณธรรม..เพื่ออุทิศตนและสร้างคุณประโยชน์ให้แก่แผ่นดินถิ่นเกิดในภายภาคหน้าเมื่อเติบใหญ่ด้วย
ดังสองวรรคสุดท้ายในคำขวัญของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง..“ทอเส้นสายคุณธรรมสู่หัวใจ..ลูกทดแทนคุณแม่ให้สู่แผ่นดิน”
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง นั้นพระองค์ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่..ทั้งในฐานะที่ทรงเป็นสมเด็จพระบรมราชินีของไทย..และในฐานะคู่พระราชหฤทัยแห่ง พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรในหลวงรัชกาลที่ 9 ต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน
พระองค์ทรงช่วยแบ่งเบาพระราชภารกิจของในหลวงรัชกาลที่ 9 อีกแรงหนึ่ง..มีโครงการพระราชดำริหลายโครงการของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง..เพื่อช่วยเหลือประชาชนและพัฒนาประเทศ..ซึ่งโครงการพระราชดำริเหล่านั้นได้ยังประโยชน์มหาศาลแก่พสกนิกรชาวไทย
สืบมาจนทุกวันนี้
เป็นโครงการที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิต, อาชีพและความเป็นอยู่ของประชาชนผู้ยากไร้..ตลอดจนประชาชนในชนบทห่างไกล อาทิ โครงการ“ส่งเสริมศิลปาชีพ”ที่ขยายสาขาแผ่กว้างขวางไปทั่วประเทศ..ซึ่งในภายหลังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ก่อตั้งเป็นรูปมูลนิธิ..พระราชทานนามว่า 'มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพพิเศษในพระบรมราชินูปถัมภ์' เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2519..และในปี 2528 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น“มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ”..ที่นอกจากจะเป็นการส่งเสริมอาชีพแล้ว..ก็ยังอนุรักษ์และส่งเสริมงานศิลปะพื้นบ้านที่มีความงดงามหลายสาขา เช่น การปั้น, การทอ และการจักสาน เป็นต้น
นอกเหนือจากนั้นสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง..ยังทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศ..อันเป็นที่ประจักษ์ทั้งแก่พสกนิกรชาวไทยและนานาอารยะประเทศ
โดยในปี 2553 สมัยรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ..เพื่อเป็นการแสดงกตเวทิคุณและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณด้านการ“อนุรักษ์, คุ้มครองและฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ”อันเป็นฐานการดำรงชีวิตของประชาชนคนไทยและพลเมืองโลก..คณะรัฐมนตรีที่มีนายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี..จึงได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2553 ถวายพระราชสมัญญา 'พระมารดาแห่งการคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพ' แด่สมเด็จพระพระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ที่กล่าวมาโดยสังเขปนั้น เมื่อได้ทบทวนดูแล้ว..ก็เกิดความปีติและรู้สึกว่าโชคดีของคนไทยที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์..เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์ของเรา..ไม่ได้รีดนาทาเร้นอาณาประชาราษฎร์..ไม่ได้เสวยสุขอยู่บนกองเงินกองในปราสาทราชวัง..โดยที่ไม่ทรงใส่ใจในความทุกข์ยากเดือดร้อนของพสกนิกร
ถ้าเป็นภาษาชาวบ้านก็ต้องพูดว่า—ในหลวงและสมเด็จพระราชินีของไทยไม่ว่าจะรัชกาลไหน..ทรงทำงานหนักทั้งชีวิตทุกพระองค์
ผู้หลักผู้ใหญ่ในครอบครัวคนไทยจึงได้สั่งสอนลูกหลานและบอกกล่าวสืบต่อๆกันมาว่า..“เมืองไทยเรานี้มีบุญ” มีบุญเพราะมีสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทรงคุณอันประเสริฐ
พระมหากรุณาธิคุณ, พระเมตตาคุณ, พระบริสุทธิคุณและคุณทั้งหลายทั้งปวง..ของสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น..ผู้หลักผู้ใหญ่สอนว่า—เป็นคุณที่คอยปกปักรักษาชาติไทยให้อยู่รอดมาได้จนตราบทุกวันนี้
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน..ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี