สงครามพายุอัลอักซอที่ขบวนการฮามาสเปิดปฏิบัติการทางทหารต่ออิสราเอลในดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครองได้ดำเนินมากว่า 3 เดือนแล้ว ได้ฝ่าข้ามคำปรามาสและการวิเคราะห์เอียงตะวันตกทั้งหลายที่เคยวิเคราะห์ว่าฮามาสจะพ่ายแพ้ภายในไม่ถึง 1 เดือนอย่างหมดจดงดงามยิ่งเพราะถึงวันนี้นอกจากขบวนการฮามาสไม่ปราชัยแล้ว สงครามพายุอัลอักซอกำลังรุกคืบหน้าและขยายตัวเป็นสงครามทั่วทั้งภูมิภาคแล้ว
และต้องถือว่านับตั้งแต่ตั้งประเทศอิสราเอลมาหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ไม่เคยมีครั้งใดที่อิสราเอลจะได้รับผลกระทบและความเสียหายมากมายเท่าครั้งนี้เลย และได้ทำลายความเชื่อมั่นในศักย์สงครามอย่างยับเยิน
เพราะความภาคภูมิใจเมื่อครั้งสงครามหกวันเมื่อ 20 ปีก่อนระหว่างอิสราเอลกับ 7 ประเทศอาหรับ ที่อิสราเอลได้รับชัยชนะอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดรวบรัดรวดเร็วได้หมดสิ้นไปแล้ว เพราะแค่กลุ่มฮามาสเพียงกลุ่มเดียว อิสราเอลซึ่งได้ทุ่มเทกำลังรบทั้งประเทศเข้าทำสงครามก็ไม่สามารถเข้าเอาชัยชนะให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดได้ และสงครามพายุอัล อักซอก็ได้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่อิสราเอลด้วย
สงครามพายุอัล อักซอนั้นแม้เกิดขึ้นในพื้นที่ปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง แต่ชื่อสงครามก็บ่งบอกชัดเจนว่าเป้าหมายของสงครามนี้คือมัสยิดอัลอักซอ ที่จะต้องยึดกลับคืนมาเป็นของอิสลาม และจะต้องเป็นไปตามที่พยากรณ์ไว้ในฮะดีษในอิสลาม ที่ว่าในสักวันหนึ่งกองทัพของพระผู้มาโปรดพระองค์ใหม่จะรุกเข้ายึดอัลอักซอและเยรูซาเลม และเมื่อนั้นพระผู้มาโปรดพระองค์ใหม่ก็จะปรากฏพระองค์ขึ้นคืออิหม่ามมะดีฮ์ซึ่งเป็นที่หวังตั้งตาคอยของชาวมุสลิมทั่วโลกโดยเฉพาะชาวชีอะห์
และสงครามปลดแอกปาเลสไตน์ โดยเฉพาะสงครามพายุอัลอักซอนั้นก็ได้รับคำฟัตตวาหรือคำวินิจฉัยทางศาสนาว่าเป็นสงครามศาสนาหรือสงครามศักดิ์สิทธิ์ ที่มุสลิมทั่วโลกจะต้องเข้าสู่สงครามนี้เพื่อรับใช้พระผู้เป็นเจ้า หากมีใครเสียชีวิตในสงครามนี้ก็จะได้รับการตอบแทนเป็นนักบุญหรือชาฮีด
ดังนั้นคำศักดิ์สิทธิ์ในอิสลามสองคำคือจีฮัดหรือสงครามศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา หรือชาฮีดหรือนักบุญจึงเป็นคำที่ใช้กันอย่างกว้างขวาง และเป็นคำรณรงค์ให้มุสลิมทั่วโลกเข้าสู่สงครามนี้ในฐานะที่เป็นอุดมการณ์สำคัญของมุสลิมทั่วโลกด้วย ดังนั้น ประเทศมุสลิมทั้งหลายจึงพร้อมเพรียงน้ำใจกันเข้าสู่สงครามนี้
คงเหลือแต่ผู้นำประเทศมุสลิมบางชาติที่เป็นชาติซาตาน 2-3 ประเทศเท่านั้น ที่ยังคงทรยศต่อพระเป็นเจ้าและเหล่ามุสลิมทั่วโลก โดยไม่กลัวต่อการถูกลงโทษซึ่งขณะนี้กำลังก่อเค้าขึ้นเพราะประชาชนในประเทศนั้นๆ กำลังลุกฮือขึ้นปฏิวัติประชาชาติเพื่อล้มล้างอำนาจรัฐที่เป็นทาสซาตานให้มลายหายไปในเร็ววัน
สงครามพายุอัลอักซอได้ทำให้ขบวนการปฏิวัติอิสลามต่างๆ ในตะวันออกกลางและพื้นที่อื่นๆ ของโลกเข้าร่วมสงครามกันอย่างคึกคัก ตั้งแต่ขบวนการฮามาสแห่งปาเลสไตน์ ขบวนการฮิซบอลเลาะห์แห่งเลบานอนขบวนการอัลซอรุลเลาะห์แห่งเยเมน ขบวนการฮัชชาบีแห่งอิรัก ขบวนการฮัชชาบีแห่งซีเรีย แม้กระทั่งขบวนการตาลิบันแห่งอัฟกานิสถาน และเหล่านักรบเชเชนจากรัสเซียก็เข้าร่วมรบในสงครามนี้อย่างเอิกเกริก
โดยมีกองทัพกุซหรือกองทัพปลดแอกปาเลสไตน์ที่มีเป้าหมายรับใช้ภารกิจของพระผู้มาโปรดพระองค์ใหม่เป็นกองทัพหลักที่ให้การสนับสนุนอย่างแข็งขัน ภายใต้การนำอย่างเต็มที่ของผู้นำสูงสุดแห่งอิหร่าน
ในขณะที่อิสราเอลก็มีสหรัฐและอังกฤษทุ่มตัวเข้าสู่สงครามในลักษณะที่เป็นประเทศและจีน รัสเซีย เกาหลีเหนือ ได้แสดงท่าทีชัดเจนว่าจะยืนข้างอิหร่านในการทำสงครามครั้งนี้อย่างถึงที่สุด
ในสงครามครั้งนี้ในระยะต้นก็ต้องถือว่าอิสราเอลมีศักย์สงครามสูงกว่าขบวนการปฏิวัติอิสลามทั้งหลาย เพราะมีกองทัพที่เข้มแข็งทันสมัย มีกองทัพอากาศที่แข็งแกร่งที่สุดกองทัพหนึ่งของโลก และเป็นศักยสงครามสูงสุดของอิสราเอลด้วย ส่วนการป้องกันก็มีระบบป้องกันภัยทางอากาศหลายระบบ โดยเฉพาะระบบโดมเหล็ก เป็นต้น
แต่ทว่าการสงครามนั้นไม่ได้ชี้ขาดด้วยแค่แข็งชนะอ่อนหรือมากชนะน้อย แต่ยังอาศัยปัจจัยอื่นอีกมา ดังที่ขงเบ้งเรียกปัจจัยเหล่านั้นว่าพลังจักรวาล ได้แก่ ดาว เดือน ดิน ฟ้าอากาศ ความหนาว ร้อน แห้ง เย็น สภาพภูมิประเทศใกล้ ไกลราบเรียบ ทุรกันดาร จิตใจที่แข็งแกร่ง สู้รบ ศรัทธา เคียดแค้น ชิงชัง หรือหวาดกลัวของมหาชน ล้วนเป็นปัจจัยแห่งสงครามทั้งสิ้น
อิสราเอลแม้เป็นประเทศที่มีศักยสงครามที่สูงมากในภูมิภาคนั้นแต่ก็มีปัจจัยสำคัญที่สามารถชี้ขาดแพ้ชนะของสงครามได้อย่างน้อยสองปัจจัยคือ
ปัจจัยแรก อิสราเอลเป็นประเทศเล็ก ทุกสิ่งอย่างที่ประชาชนอุปโภค-บริโภครวมทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ทั้งหลายต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ ซึ่งต้องขนส่งมาทางทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและทะเลแดง ซึ่งปัจจัยนี้กำลังถูกท้าทายอย่างรุนแรง เนื่องจากขบวนการฮูตีรับเป็นเจ้าภาพในการถล่มจมเรือทั้งหลายที่จะแล่นไปเทียบท่าอิสราเอล จนถึงกับสหรัฐและอังกฤษส่งกองเรือมาคุ้มครองก็ไม่ได้ผล ทำให้เกิดความขาดแคลนโดยทั่วไป และเป็นสาเหตุของการลี้ภัยหลายแสนคนในขณะนี้
ปัจจัยที่สอง คือแสนยานุภาพทางอากาศของอิสราเอลนั้นต้องพึ่งสนามบินเพราะต่อให้มีเครื่องบินรบทันสมัยอย่างไร ถ้าหากบินขึ้นไม่ได้ก็ไร้ผล และการป้องกันสนามบินนั้นเป็นเรื่องยาก และขณะนี้สนามบินทั้งหลายของอิสราเอลได้กลายเป็นเป้าหมายในการถล่มของขบวนการทั้งหลายไม่เว้นแต่ละวัน และเมื่อถึงจุดหนึ่งที่สนามบินถูกทำลายและใช้งานไม่ได้เต็มที่ แสนยานุภาพทางอากาศของอิสราเอลที่โดดเด่นก็จะไร้ความหมาย
ดูเหมือนว่ากองทัพปฏิวัติอิสลามทั้งหลายจะรู้และจงใจทำลายจุดอ่อนนี้ของอิสราเอลอย่างเอาจริงเอาจัง และถ้าประสบความสำเร็จในที่สุดก็จะเป็นเหตุปัจจัยสำคัญของความปราชัยของอิสราเอล ซึ่งจะต้องติดตามดูกันต่อไป
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี