นักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร นั้นอยู่เหนือรัฐธรรมนูญ..อยู่เหนือกฎหมายทุกฉบับในประเทศนี้จริงๆ..ประเทศไทยได้กลายเป็นประเทศที่ระบบนิติรัฐและหลักนิติธรรมถูกทักษิณทำลายลงอย่างสิ้นเชิง
ทันทีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5 : 4 เสียง..ให้นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นเก้าอี้นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีต้องสิ้นสุดลงทั้งคณะ..เนื่องจากไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) และและมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง อันมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (5)..กรณีตั้ง“ทนายถุงขนม-พิชิต ชื่นบาน”เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี..นักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร..ก็เรียกแกนนำพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลประชุมหารือที่“บ้านจันทร์ส่องหล้า”ซึ่งเป็นเรือนจำชั่วคราวสำหรับคุมขังนักโทษที่ได้รับการพักโทษทันทีทันควัน
ข่าวในเบื้องต้นที่หลุดรอดออกมาจาก“ศูนย์กลางอำนาจรัฐเถื่อน”ที่ซ้อนอำนาจรัฐไทยในเวลานี้..เปิดเผยว่านักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ผู้ทรงอำนาจนอกรัฐธรรมนูญ และเป็นเจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริง..เคาะชื่อ“นายชัยเกษม นิติสิริ”แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย..ซึ่งเป็นอดีตอัยการสูงสุดเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่แทนนายเศรษฐา ทวีสิน
ในอดีตนั้น สมัยที่นายชัยเกษม นิติสิริ ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด..เคยมีคำสั่งไม่ฟ้องคดี“หวยบนดิน”ที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ฟ้องร้องนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร..รวมทั้งสั่งไม่ฟ้องการทุจริตในโครงการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ..จนตกเป็นข่าวว่า..ในเวลาต่อมานายชัยเกษมได้รับการตอบแทนให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม..สมัยรัฐบาล“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”เมื่อปี 2556
อย่างไรก็ดี ยังไม่ทันครบ 24 ชั่วโมงจากข่าวที่ว่านักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร..เคาะนายชัยเกษม นิติสิริ วัย 75 ปี..ที่เคยวูบระหว่างหาเสียงเลือกตั้งในปี 2566 ที่จังหวัดน่านจากอาการป่วยก้อนเลือดแห้งอยู่ในสมอง..ซึ่งเป็น 1 ใน 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย..ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทนนายเศรษฐา ทวีสิน..ก็ปรากฏว่านายชัยเกษมตกเป็นเป้านิ่งว่าจะไปไม่รอด..จากเรื่องราวปูมหลัง รวมทั้งเรื่องแก้ไขมาตรา 112 ที่นายชัยเกษมเคยหนุนเรื่องนี้..จึงทำให้ชื่อ“อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร”ที่เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยอีกคนหนึ่ง..กลายเป็นตัวเลือกใหม่ของพรรคเพื่อไทยที่ถูกยกขึ้นมาประกบคู่กับนายชัยเกษม
ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลชุดเดิม..ก็ยังสงวนท่าที..แม้ปากจะบอกว่าสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยซึ่งจะเป็นใครก็ตามเป็นนายกรัฐมนตรี..แต่ก็มีข้อแม้เรื่องมาตรา 112 เป็นเงื่อนไข..ทั้งนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ..ที่ได้ยืนยันโดยให้สัมภาษณ์สื่อว่า..ต้องไม่มีนโยบายที่จะแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112
สุดท้ายในช่วงเย็นเมื่อวานนี้ เวลา 17.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย รวมทั้งหัวหน้าพรรคการเมืองและเลขาธิการพรรคร่วมรัฐบาลชุดเดิม..อาทิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย, นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ, นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ, นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา, นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย..ก็ได้ร่วมกันเปิดโต๊ะแถลงข่าวที่ทำการพรรคเพื่อไทย ณ อาคารชินวัตร 3..ว่าจะโหวตรับรอง“อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร”เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดพิเศษวันที่ 16 สิงหาคมวันนี้
ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูร ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองที่มีเสียง สส.เป็นลำดับสองในรัฐบาลผสมชุดนี้ แถลงว่า..“วันนี้เป็นสปิริตของพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค..เมื่อมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นคือนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่..พวกเราทุกคนพร้อมใจกันเพื่อทำให้ไม่เกิดความชะงักของการบริหารราชการแผ่นดินและประเทศของเรา..เราจึงพร้อมใจกันจะให้พรรคเพื่อไทยในฐานะที่เป็นพรรคแกนนำรัฐบาล..เป็นผู้ที่จะเสนอชื่อบุคคลที่พร้อมดำรงตำแหน่งนายกฯ และให้พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคได้รับทราบ คือการเสนอชื่อนางสาวแพทองธาร เพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบในวันที่ 16 สิงหาคม”
หัวหน้าพรรรคภูมิใจไทย ยังกล่าวด้วยว่า..”พรรคภูมิใจไทยมีความยินดีอย่างยิ่ง เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาพรรคภูมิใจไทยได้มีการเรียกประชุม สส. และกรรมการบริหารพรรค..ซึ่งเมื่อทราบถึงตัวบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งก็เป็นไปตามที่เราคิดไว้..และเมื่อทราบว่าเป็นท่านแพทองธารก็ยิ่งมีความมั่นใจว่า..ภายใต้การนำของว่าที่นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร..เราทุกคนก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุนและให้ความร่วมมือเต็มที่ รวมถึงพร้อมที่จะปฏิบัติตามนโยบายของว่าที่นายกฯ นับตั้งแต่วันแรกที่ดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการ”
ขณะที่“อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร” ได้เปิดใจกล่าวขอบคุณสมาชิกพรรคเพื่อไทย และแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่ให้การสนับสนุน..พร้อมทั้งแสดงความเสียดายที่นายเศรษฐา ทวีสิน ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยกล่าวว่าเป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันมาก่อนว่าจะเกิดขึ้นกับนายเศรษฐา
ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทยวัย 37 ปี ซึ่งเป็นดีเอ็นเอของนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า...“ประเทศต้องไปต่อ..พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล..วันนี้เรามีความพร้อมที่จะผลักดันประเทศต่อ..ดิฉันมีความมั่นใจในพรรคเพื่อไทย..มั่นใจในพรรคร่วมรัฐบาลทุก ๆ พรรคที่จะนำพาประเทศของเราให้หลุดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจ..เรามารวมตัวกันในวันนี้เพื่อให้ประชาชนได้เห็นว่าเรามีความตั้งใจ..มีความมุ่งมั่น..และมีความพร้อมเพรียงกันในการผลักดันประเทศให้ไปต่อ”
ส่วนโครงการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทที่เป็นนโยบาย“ตกเขียว”ของพรรคเพื่อไทยนั้น, “อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร” ถูกผู้สื่อข่าวถามว่าจะได้รับการผลักดันต่อ..หรือล้มพับไปพร้อมการพ้นตำแหน่งของนายเศรษฐา ทวีสิน..ซึ่ง“อุ๊งอิ๊ง”ไม่กล้ายืนยัน โดยกล่าวว่า..“ต้องรับฟังความคิดเห็นกันต่อไป..วันนี้ยังไม่มีการโหวตเลือกนายกฯ..ขอให้เป็นทางการก่อน..ถ้าจะลงเรื่องการบริหารงาน..วันนี้เราเอาตรงนี้ก่อนดีไหม”
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าทายาทรุ่นที่สามของตระกูลชินวัตร..นามว่า“แพทองธาร ชินวัตร”จะได้รับการโหวตเป็นนายกรัฐมนตรีแบบนอนมา..เพราะมีเสียงสนับสนุนจาก 11 พรรคการเมืองรวมทั้งพรรคเพื่อไทยด้วยถึง 314 เสียง..ขณะที่พรรคร่วมฝ่ายค้าน 8 พรรคมีเพียงแค่ 179 เสียงเท่านั้น..แต่ในระยะยาวไม่แน่ว่าจะไปได้สวยหรือไม่
ต้องไม่ลืมว่า“อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร” ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นสุภาพสตรีคนที่สองของประเทศไทยต่อจาก“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”ผู้เป็นอา..และจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทยนั้น..ไม่เพียงแต่จะมีปัญหาเรื่องวุฒิภาวะ..ตลอดจนประสบการณ์ในการทำงานที่ยังอ่อนหัดเท่านั้น..ปัญหากรณี“ข้อสอบเอนทรานซ์รั่ว”ในปี 2547..อันเป็นแผลติดตัวของเธอตั้งแต่สอบเข้าคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ..ก็คงจะถูกขุดขึ้นมาพูดถึงให้น่าอับอายขายขี้หน้าในเรื่องจริยธรรมของคนที่ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี
อีกประการหนึ่งที่สำคัญ..พรรคเพื่อไทยก็อาจจะถูกร้องให้มีการยุบพรรคหลังจากนี้..ฐานที่ปล่อยให้นักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็น“คนนอก”ควบคุม-ครอบงำ-ชี้นำพรรคเพื่อไทย..อันเป็นการละเมิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 28 และมาตรา 29 ที่มีบทบัญญัติห้ามเอาไว้..โดยใช้“บ้านจันทร์ส่องหล้า”ซึ่งเป็นที่ควบคุมตัวนักโทษ..มาใช้เป็นที่ประชุมหารือเรื่องนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของประเทศไทย..ทันทีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
มิหนำซ้ำการประชุมหารือดังกล่าว..ยังมีแกนนำพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลระดับหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค..เข้าไปร่วมประชุมกับนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร..ที่อยู่ระหว่างการพักโทษอีกด้วย..ทำให้กลายเป็นว่าบ้านนี้เมืองนี้มีแต่คนเถื่อนๆ..ที่ไม่เคารพกฎหมายอยู่เต็มไปหมด..และเป็นคนเถื่อนที่เป็นผู้บริหารของประเทศเสียอีกด้วย
เชื่อว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่นามว่า“อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร”..นั้นอยู่ไม่ยาวแน่..เพราะนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทยคนนี้นอกจากจะอ่อนหัดแล้ว..ยังตกอยู่ภายใต้อิทธิพลและการครอบงำของนักโทษเด็ดขาดชายทักษิน ชินวัตร ?!
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี