แตกดังโพละ..อำนาจอำนวยประโยชน์เข้าที่ไหนก็แตกที่นั่น..พรรคพลังประชารัฐ..ซึ่งก็เหมือนพรรคเฉพาะกิจที่ตั้งขึ้นมาเพื่อหนุนส่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี..ถึงที่สุดก็ต้องมีอันเป็นไป..เหมือนชีวิตมนุษย์ตามกฎ“อนิจจลักษณะ”..ที่เกิดขึ้น, ตั้งอยู่ และดับไป
การตั้งรัฐบาล“อุ๊งอิ๊ง 1”ซึ่งมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ครั้งนี้..ถือว่ามีเดิมพันสูงสำหรับนายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดาที่เพิ่งจะพ้นโทษจากคดีทุจริตโกชาติโกงแผ่นดิน..เพราะถ้าหากพลาด..นั่นก็หมายถึง..ลูกสาวสุดเลิฟที่เป็นไข่ในหินไม่แคล้วจะต้องติดคุก..หรือไม่ก็ต้องมุดหนีออกจากทางช่องทางธรรมชาติไปเป็นสัมภเวสีในต่างแดน
ร้ายที่สุดซึ่งเปรียบเสมือนเวรกรรมที่คนใน“ตระกูลชินวัตร”ได้เคยก่อไว้..ก็คือไม่มีแผ่นดินอยู่ทั้งตระกูล..เหมือนอดีตประธานาธิบ“เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส”แห่งฟิลิปปินส์..ที่ตลอดช่วงเวลา 21 ปีระหว่างผูกขาดครองอำนาจมีแต่เรื่องโกงกิน-ประเทศชาติล่มจมเสียหาย..จนถูกประชาชนลุกขึ้นมาโค่นล้มต้องหลบหนีออกจากประเทศทั้งตระกูลในปี 2525 และมาร์กอสจบชีวิตในวัย 72 ปีที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2532
ดังนั้น..รัฐบาล“อุ๊งอิ๊ง 1”ที่มี“ทักษิณ ชินวัตร”เป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริง..และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็น“หุ่นเชิด”ที่สามารถชักใยได้ถนัดมือเพราะเป็นทายาทสืบสายเลือดดีเอ็นเอ..จึงต้อง“คลีน”..รัฐมนตรีทุกคนจากทุกพรรคการเมืองที่จะเข้ามานั่งในคณะรัฐมนตรี..จำเป็นต้องสกรีนและสแกนอย่างละเอียดยิบ..จะพลาดแบบกรณีของนายเศรษฐา ทวีสิน ไม่ได้เป็นอันขาด
บทบัญญัติเกี่ยวกับ“มาตรฐานทางจริยธรรม”ซึ่งกำหนดไว้ในรัฐธรรมฉบับปี 2560 ที่ใช้ในปัจจุบัน..อันเป็นเหตุให้นายเศรษฐา ทวีสิน ต้องพ้นจากตำแหน่งนั้น..เป็นกลไกสำคัญของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ที่นักการเมืองและ สส.ต้องการจะฉีกทิ้ง..เพราะเป็นการคัดกรองนักการเมืองชั่วไม่ให้เข้าไปมีอำนาจ..ตั้งแต่การเข้าสู่อํานาจทางการเมือง..และกระบวนการตรวจสอบไปจนถึงการลงโทษเมื่อเข้าสู่อํานาจ
คำว่า“จริยธรรม”อันหมายถึงกรอบหรือแนวทางอันดีงามที่พึงปฏิบัติซึ่งกําหนดไว้สําหรับสังคม..จึงครอบคลุมทั้งจักรวาล..ทั้งนี้ก็เพื่อต้องการให้เกิดความเป็น“ระเบียบเรียบร้อย-งดงาม”..ฉะนั้น พวกนักการเมืองหรือ สส.ประเภท“วัวสันหลังหวะ”ที่มีภูมิหลังไม่สะอาดแบบ“เทา-ทึม”..จึงหวาดกลัว“รัฐธรรมนูญปราบโกง”อันมีคุณอย่างยิ่งต่อประชาชนที่เสมือน“ยาแรง”ฉบับนี้
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม..กรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ..กำลังดิ้นพล่านและตกเป็นข่าวครึกโครมในเวลานี้จากการประกาศอิสรภาพ..โดยเจ้าตัวบอกว่า“6 ปีรับใช้คนๆ หนึ่งมาพอแล้ว”อันหมายถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นั้น..ดูจะเข้าทางพรรคเพื่อไทยของ“ทักษิณ ชินวัตร”ทันที
เพราะไม่เพียงแต่จะเป็นการสกรีนและสแกนบุคคลที่จะเข้ามาเป็น“ไม้ประดับ”ในคณะรัฐบาลของ“คุณหนูอุ๊งอิ๊ง”เท่านั้น..แต่หมายถึงการ“แตกดังโพละ”ของพรรคพลังประชารัฐ..ระหว่าง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า กับ “บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” ที่เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐอีกด้วย
ณ เวลานี้ พรรคพลังประชารัฐมี สส.อยู่ทั้งหมด 40 คน..ฝ่าย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อ้างและให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า“หลังจากนี้ผมพร้อมกับกลุ่มพี่น้อง..พร้อมจะไปไหนก็ได้ที่มีความสุข..ไม่แสวงหาความทุกข์เข้าตัวตัวเอง” มี สส.อยู่ในมือ 34 คน เป็น สส.พรรคพลังประชารัฐ 29 คน และ สส.จากพรรคเล็กอีก 5 คน..ขณะที่ฝั่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในช่วงแรกยืนยันว่ามี สส.ที่ยังสวามิภักดิ์ 25 คน
สรุปแล้วก็ถือว่าตัวเลขยังไม่นิ่ง..ต้องดูกันต่อไปว่าฝ่ายไหนจะมากกว่ากัน..เพราะพลังอำนาจของ“กล้วย”นั้นสามารถกวาดต้อนนักการเมืองประเภทหิวโหยให้เข้าไปอยู่ในสังกัดได้ไม่ยาก
แต่ถึงอย่างไร..ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในพรรคพลังประชารัฐ..อันเนื่องมาจากการที่พรรคพลังประชารัฐ..โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ..ไม่เสนอชื่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้นั้น..พรรคเพื่อไทยก็เหมือน“นั่งตีขิมอยู่บนกำแพง”..เฉกเช่น“อุบายขงเบ้งตีขิมบนกำแพงเมืองร้าง”ในเรื่องสามก๊ก
จำนวนสส.40 คนของพรรคพลังประชารัฐ..ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ของพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำรัฐบาลผสม 11 พรรคจำนวน 314 เสียง..เพราะถ้าตัดพรรคพลังประชารัฐออกไปก็จะเหลือ 274 เสียง..ยังเกินกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวน สส.ที่มีอยู่ทั้งหมด 500 คน
นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยยังสามารถดึงพรรคประชาธิปัตย์ที่มี สส.ทั้งหมด 25 คนเข้ามาเติมเต็มได้อีก..รวมทั้งยังมีงูเห่าอีก 6 คนในพรรคไทยสร้างไทย ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์..ที่เพิ่งจะโหวตสวนทางกับพรรคที่สังกัดโดยลงมติเห็นชอบให้“แพทองธาร ชินวัตร”เป็นนายกรัฐมนตรี..และเมื่อนำมารวมกับ สส.ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อีกจำนวนหนึ่งที่ไม่ว่าจะสังกัดพรรคไหนหรือมีสภาพเป็น“รัฐอิสระ”ในพรรคพลังประชารัฐ..เสียงที่จะสนับสนุนรัฐบาลในสภาฯถือว่าเหลือเฟือ..เกินกว่ากึ่งหนึ่งอย่างท่วมท้น
แต่สำหรับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า..เมื่อพ้นจากอกของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ..คนที่จะสบายใจและรู้สึกปลอดโปร่งที่สุดก็คือ พล.อ.ประวิตร นั่นเอง..เพราะ“ชุบเลี้ยงอุ้มชูกันมา”..ขนาด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปลดออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร และถูกขับออกจากพรรคพลังประชารัฐไปแล้ว..ในเวลาต่อมา พล.อ.ประวิตรก็ยังรับกลับเข้ามาอยู่ในพรรคพลังประชารัฐเป็นการ“ชุบชีวิต”ให้อีกครั้ง
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อาจจะมีปัญหาเรื่อง“มาตรฐานทางจริยธรรม”..ที่ในขณะนี้มีความเข้มข้นมากกว่าในอดีต..เพราะกรณีของนายเศรษฐา ทวีสิน ถือว่าเป็นมาตรฐานใหม่ที่เป็นบรรทัดฐานในเรื่องนี้..หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567
ต้องไม่ลืมว่า..ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า..เคยถูกจับกุมที่ประเทศออสเตรเลียเมื่อปี 2536..ฐานมีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องกับการนำเข้าเฮโรอีนในปริมาณเพื่อการค้าเข้าไปยังประเทศออสเตรเลีย..และคดีนี้ศาลออสเตรเลียได้มีคำพิพากษาตัดสินในวันที่ 31 มีนาคม 2537 สั่งจำคุก ร.อ.ธรรมนัส 6 ปี..อันเป็นที่มาของฉายา“แป้ง”ในทุกวันนี้
การที่พรรคพลังประชารัฐไม่เสนอชื่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า..ก็น่าจะปูมหลังดังกล่าวของ ร.อ.ธรรมนัสในเงื่อนไขนี้..เพราะคนที่เคยเข้าคุกเข้าตะรางมาแล้ว..ไม่ว่าจะข้อหาค้ายาเสพติดหรือทุจริตคอร์รัปชั่น..ล้วนเข้าข่ายขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ..ทั้ง“ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์” และ“มีพฤติกรรมเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง”
เอวัง ! ก็มีด้วยประการฉะนี้-“ทักษิณ ชินวัตร”กินเรียบ !
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี