จำนวนเสียงสนับสนุนในสภาผู้แทนราษฎร ไม่ใช่จุดที่รัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์จะต้องเป็นห่วง
เพราะจำนวนเสียง สส.ที่สนับสนุนตอนนี้ ดูเหมือนจะมากกว่าตอนโหวตในสภาเสียอีก
จุดแข็ง-จุดอ่อน-จุดตายที่แท้จริง คือ อะไร?
1. การจัด ครม.อุ๊งอิ๊งค์ 1 รวบตึงเสียง สส.มาเป็นฐานสนับสนุนล้นเกิน
มีแต่ภาพนักการเมือง พรรคการเมือง ที่อยากจะร่วมรัฐบาล
แม้แต่พรรคก้าวไกล แม้จะประกาศเป็นฝ่ายค้าน แต่ก็ค้านแบบซึมกระทือ แบบหวังผลประโยชน์ทางการเมืองบางอย่างจากพรรคเพื่อไทย
วันที่สภาฯเลือกนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ได้เป็นนายกฯด้วยคะแนนเสียง 319 ต่อ 145 เสียง
มี 6 สส. พรรคไทยสร้างไทย และพรรคเล็กอีก 3 พรรคฝ่ายค้านเดิม คือ พรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน พรรคใหม่ โหวตให้ด้วย
2. พรรคพลังประชาชน แตกยับเยิน
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐกระอักเลือด
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค ประกาศอิสรภาพ
นำ สส.พลังประชารัฐ 26 คน ตบเท้าแสดงพลัง ประกาศร่วมรัฐบาล แยกจากการอยู่ภายใต้อาณัติของพลเอกประวิตร
3. พรรคประชาธิปัตย์ น่าจะร่วมรัฐบาลแน่นอน
พรรค ปชป. มี สส. 25 เสียง สุดท้าย ถ้ามีมติร่วมรัฐบาล น่าจะได้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรฯ และรัฐมนตรีช่วยว่าการอีกหนึ่งกระทรวง
แต่ที่ผ่านมามี สส.ปชป.อยู่ 4 เสียง ที่ไม่เห็นด้วยกับการร่วมรัฐบาลเพื่อไทยชัดเจน ได้แก่ นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ และ นายสรรเพชญ บุญญามณี
โดยคุณชวน หลีกภัย ให้สัมภาษณ์จุดยืนส่วนตัวว่าไม่ร่วมรัฐบาล แต่ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับมติพรรค หากมีมติอย่างไร ก็ต้องเอาตามนั้น
ถ้าเข้าร่วมรัฐบาลจริง ก็ต้องดูว่า จะมีใครออกจากพรรค ปชป.ไปอีกหรือไม่?
4. พรรคส้ม ชกไม่สมศักดิ์ศรีฝ่ายค้าน แค่ติ๊ดชึ่ง หวังรอผลประโยชน์ทางการเมือง
พรรคประชาชน หรือพรรคส้ม เล่นบทบาทฝ่ายค้านอย่างไม่สมศักดิ์ศรีพรรคฝ่ายค้านที่มี สส.ร้อยกว่าคน
ยังคงเอาแต่ประเด็นการเมือง เรื่อง คดี 112 เรื่องนิรโทษกรรม และการปั่นวาทกรรมซ้ำซากเดิมๆ
ไม่กล้าแตกหักกับพรรคเพื่อไทยแบบเต็มตัว เพราะหวังผลประโยชน์ทางการเมืองในเรื่องที่ตนเองผลักดัน เช่น การแก้รัฐธรรมนูญ การนิรโทษคดี 112
รวมถึงอาจจะคาดหวังลึกๆ ว่า จะได้รับโอกาสเป็นรัฐบาลกับเขาด้วย หวังส้มหล่น หากการเมืองพลิกขั้วกลับ
หวังลมๆ แล้งๆ ต่อไป
สู้ไป เกรงใจไป แต่หลอกกองเชียร์ทำขึงขัง พูดปากดี และปั่นวาทกรรม สร้างภาพไปวันๆ
5. ทั้งหมดข้างต้น คือ ยุทธวิธีการลดดาบในมือศัตรูของพรรคเพื่อไทย
พยายามประนอมอำนาจ ด้วยการดึงเข้ามาเป็นแนวร่วม ในด้านใดด้านหนึ่ง เพื่อให้ถูกเปิดศึกหลายด้าน
กลายมาเป็นแนวร่วมทางการเมืองในหลายมิติ ต่างกันไป
พรรคร่วมรัฐบาลเดิม พรรคภูมิใจไทย รวมไทยสร้างชาติ พลังประชารัฐแถลงจุดยืนชัดเจนไม่แตะมาตรา 112 แน่นอนว่าพรรคเพื่อไทยก็แตะไม่ได้เช่นกัน
นายทักษิณ นางสาวแพทองธาร พลพรรคเพื่อไทย แสดงออกชัดเจนว่า เที่ยวนี้ ไม่มีทางเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันอีกแล้ว แม้แต่นักเคลื่อนไหวที่เคยจาบจ้วงภาพที่มีทุกบ้านก็ยังออกปาก ไม่มีทางทำอะไรแบบเดิมอีกแล้ว แถมจ้วงพรรคส้มว่าไม่ควรจะไปทำกระทบสถาบันอีกด้วย
กล่าวได้ว่า แนวรบทางการเมืองของรัฐบาลเพื่อไทย ที่เป็นพรรคการเมืองต่างๆ ในสภา แทบไม่มีเลย
นี่คือจุดแข็งของรัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์
ข้อดี คือ เป็นโอกาสให้รัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์ 1 จะได้ทำงานบริหารประเทศอย่างมีเสถียรภาพสูงมาก เสียงในสภาแน่นปึ้ก ขนาดเสียงฝ่ายค้านยังแอบหนุนเพราะหวังผลประโยชน์ทางการเมือง
ถ้ารัฐบาลทำตามที่พูด คือ แก้ปัญหาเศรษฐกิจเร่งด่วน ฟังคนเห็นต่าง ไม่เหลิงอำนาจเหมือนสมัยระบอบทักษิณ ย่อมจะทำให้ประเทศเดินหน้าไปได้
6. จุดอ่อนของรัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์
คือ การดำเนินการตามสิ่งที่เคยประกาศหาเสียงไว้หลายเรื่อง จะกลายเป็นความเสี่ยงเสียเอง
จึงต้องใช้สถานการณ์ช่วงเปลี่ยนนายกฯ เปลี่ยนรัฐบาล เป็นจุดเปลี่ยนให้ได้
เพื่อลดความเสี่ยงที่มีต่อตัวนายกฯอุ๊งอิ๊งค์ เพราะถ้าติดคุก ก็ติดคุกเอง ไม่ใช่ลูกน้องติดแทน
และเพื่อให้เกิดผลงานรูปธรรมด้านเศรษฐกิจออกมาเร็วที่สุดจับต้องได้มากที่สุด
จึงเห็นท่าทีของทักษิณ และแกนนำรัฐบาล ที่จะปรับเปลี่ยนโครงการเต็มเงินหมื่นฯ
ชัดเจนว่า ยังจะมีการเติมเงิน กระตุ้นเศรษฐกิจแน่นอน เร็วกว่าเดิมด้วย
แต่จะปรับเปลี่ยนช่องทางการเติมเงิน ไม่ต้องรอพัฒนาระบบชำระเงินแบบดิจิทัล วอลเล็ต ที่ล่าช้า และมีความเสี่ยง
สื่อมวลชนรายงานข่าวจากแหล่งข่าวระบุว่า โครงการเติมเงินหมื่นฯ จะมีการปรับเงื่อนไข
เบื้องต้น จะเป็นการแจกเงินให้กับกลุ่มเปราะบางที่ลงทะเบียนไว้ก่อนเป็นอันดับแรก ในวงเงิน 1.22 ล้านบาท ตามที่สภาเห็นชอบอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติม 1.22 แสนล้าน มาใช้แจกเงินหมื่นดิจิทัล วอลเล็ต
จะเป็นการแจกเงินสดผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐครั้งเดียวเลย 10,000 บาท
โดยไม่สนใจว่า บัตรสวัสดิการฯ เป็นบัตรที่มาจากนโยบายของรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
เป็นการเปลี่ยนจากการใช้เงินผ่านระบบดิจิทัล เป็นการเติมเงินสดลงไปในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อเป็นการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางที่ต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐก่อน
7. จุดตายของรัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์
แม้จะมีจุดแข็ง จุดอ่อน ตามที่กล่าวมาแล้ว
แต่จุดตายของรัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์ ที่จะต้องติดตามพฤติกรรมต่อไป คือ การลุแก่อำนาจ
หากใช้อำนาจเอื้อประโยชน์แก่คนในครอบครัว อาทิ อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ นายทักษิณ ชินวัตร
หรือการไม่แก้ไข แต่แก้แค้น
หรือพยายามใช้อำนาจแสวงหาอำนาจและผลประโยชน์แบบระบอบทักษิณเดิม
หากเหลิงตน คิดว่าคุมเสียงนักการเมืองได้หมด ดูแคลนพลังภาคประชาสังคม สื่อมวลชน ฯลฯ ไม่แก้ไขปัญหา ไม่ทำตามแนวทางประนอมอำนาจที่สร้างสมดุลใหม่เอาไว้
ปมปัญหาต่างๆ ที่ซุกไว้ ก็จะระเบิดทะลักกลับมาถล่มรัฐบาลนอกสภา แบบสึนามิ แบบไม่ทันตั้งตัว ก็มีโอกาสจะเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน
เสียงข้างมากตั้งรัฐบาลได้ แต่การฝ่าฝืนหรือกระทำผิดกฎหมายผิดรัฐธรรมนูญ จะเป็นตัวล้มรัฐบาล
เมื่อนั้น เสียงในสภา ก็จะช่วยไม่ได้ และเสียงในสภาจะคว่ำรัฐบาลเสียเองด้วย!
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี