พฤติกรรมของรัฐบาลเลวทรามต่ำช้าในประเทศไทย คือรัฐบาลที่มีพฤติกรรมฉ้อฉลคดโกง ทุจริตคอร์รัปชั่นดีแต่ปาก ดีแต่พูด พูดแล้วสร้างความแตกแยก นอกจากนั้น รัฐบาลเลวทรามยังหมายถึงการมีนายกรัฐมนตรีเป็นสิ่งมีชีวิตจำพวกไร้สติสิ้นปัญญา ปราศจากคุณธรรม ไร้จริยธรรม และไร้ความละอาย
ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีจำพวกไร้สติสิ้นปัญญามาแล้วกี่คน ผู้ตอบคำถามนี้ได้ดีที่สุดคือคอการเมืองพันธ์ุแท้ของไทย ส่วนหน้าตาของนายกรัฐมนตรีไร้สติสิ้นปัญญามีหน้าตาอย่างไร ผู้ตอบคำถามนี้ได้ดีที่สุดก็คือนักการเมืองที่ได้ครองตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจำพวกปราศจากปัญญา แต่ทว่าอุดมไปด้วยความหยาบหนาและด้านทน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายกรัฐมนตรีที่เป็นหุ่นเชิดหุ่นชักของนักธุรกิจการเมืองที่หวังกินรวบประเทศไทย
ในขณะที่คนไทยจำนวนมากกำลังประสบปัญหาข้าวยากหมากแพง เศรษฐกิจฝืดเคือง ทำมาหากินด้วยความสุจริตได้ลำบากยากเข็ญ แต่นักการเมืองก็หาได้นำพากับปัญหาเศรษฐกิจของประเทศไม่ เพราะพวกเขายังคงตั้งหน้าตั้งตาก่อเหตุทุจริต ฉ้อฉลปล้นประเทศอย่างไม่ลดละ แล้วยังพยายามแก่งแย่งชิงตำแหน่งรัฐมนตรีอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ถึงกระนั้น ปากของนักการเมืองกลุ่มฉ้อฉลก็ยังคงป่าวร้องโฆษณาชวนเชื่อว่า พวกเขาเข้ามาแก้ปัญหาของประเทศ เข้ามาสร้างความเจริญให้ประชาชน แต่วิญญูชนประจักษ์และตระหนักดีว่า คำพูดทั้งหมดจากปากนักการเมืองส่วนใหญ่นั้นเป็นเพียงคำโกหกพกลม
ในขณะที่ประชาชนจำนวนมากกำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจอย่างเลวร้ายสารพัดปัญหา แต่กลับไม่เคยเห็นว่านักการเมืองและคณะรัฐมนตรีจะประกาศปรับลดเงินเดือนและสวัสดิการของพวกเขาแต่กลับจะขอเพิ่มค่าตอบแทนและสวัสดิการให้มากขึ้น โดยไม่สนใจความเดือดร้อนของประชาชนส่วนใหญ่บนแผ่นดินนี้
เงินเดือนและสวัสดิการของ สส. ตกเดือนละ 113,560 บาท และยังมีผลประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย แถมยังมีคณะ (ที่อ้างว่า) ทำงานอีกบานเบอะ เช่น ผู้เชี่ยวชาญประจำตัว ผู้ชำนาญการประจำตัว และผู้ช่วยดำเนินงาน รวมเงินค่าใช้จ่ายประจำเดือนของคนกลุ่มนี้อีก 54,000 บาท และยังมีผลประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย
ส่วนประธานสภาฯได้เงินเดือนและสวัสดิการรวม 125,590 บาท แล้วยังมีทีมที่ปรึกษา นักวิชาการ และเลขานุการอีกด้วย ส่วนนายกรัฐมนตรีได้เงินเดือนและเงินได้อื่นๆ จากตำแหน่งรวม 125,590 บาท ในขณะที่รัฐมนตรีได้เงินเดือนและเงินได้อื่นๆ เดือนละ 115,740 บาท เมื่อดูเงินเดือนที่คนกลุ่มนี้ได้รับอาจจะมองว่าไม่มากนัก แต่ทว่า สส. และรัฐมนตรียังมีรายได้อื่นๆ อีกมากมาย โดยรายได้มหาศาลบางอย่างไม่สามารถเปิดเผยให้ชัดเจนได้ เพราะที่มาของเงินดังกล่าว น่าจะไม่ใช่เงินสะอาดบริสุทธิ์
ถามว่า ทำไมนักการเมืองจึงกระสันจะได้อยู่ฝั่งรัฐบาล แล้วเหตุใดจึงกระสันมุ่งหวังจะได้ครอบครองตำแหน่งรัฐมนตรีให้จงได้ คำตอบเรื่องนี้คือ เพราะการเป็นรัฐบาลมันสามารถสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้ตนเอง ไม่ต้องอดอยากปากแห้งเหมือนการเป็นฝ่ายค้าน แล้วเมื่อได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงหลัก กระทรวงใหญ่ที่มีงบประมาณจำนวนมาก ก็จะยิ่งทำให้ผู้เป็นรัฐมนตรีมีความมั่งคั่งสมบูรณ์พูนสุขอย่างล้นเหลือ เพราะเมื่อกระทรวงที่ตนนั่งคุมอยู่มีเงินงบประมาณมหาศาล ก็หมายถึงเงินมหาศาลจะไหลเข้ากระเพาะของรัฐมนตรีได้ง่ายดาย เมื่อดูเงินงบประมาณของปี 2567 อยู่ที่ 3.35 ล้านล้านบาทส่วนเงินงบประมาณของปี 2568 อยู่ที่ 3.752 ล้านบาทโดยจำนวนเงินงบประมาณประจำปีเพิ่มมากขึ้นทุกๆ ปี ซึ่งก็หมายความว่ารัฐมนตรีและรัฐบาลจะอู้ฟู่มั่งคั่งเพิ่มขึ้นทุกปี แต่เศรษฐกิจไทยกลับเติบโตสวนทางกับเงินงบประมาณแผ่นดินที่เพิ่มมากขึ้นทุกๆ ปี
คนไทยมีนายกรัฐมนตรีที่แสนจะร่ำรวย เพราะนายกรัฐมนตรีมีพ่อสะสมโภคทรัพย์มากมายมหาศาลไว้ให้ แต่คนไทยส่วนใหญ่ของประเทศมีฐานะยากจนข้นแค้น มีหนี้มีสินรุงรังท่วมหัวท่วมหูบางคนใช้หนี้ไปจนวันตายก็ยังไม่จบไม่สิ้น เศรษฐสถานะของคนไทยส่วนใหญ่ในประเทศนี้ต่างกับเศรษฐสถานะของนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันอย่างไม่สามารถนำไปเปรียบเทียบกันได้ คนไทยมีนายกรัฐมนตรีมีฐานะร่ำรวยล้นฟ้า แต่ทว่าคนไทยไม่มีนายกรัฐมนตรีที่มีปัญญาแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ประเทศชาติและประชาชนได้ นี่คือความจริงที่นายกรัฐมนตรีไทยรู้ดีอยู่แก่ใจ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี