คนบางคนกำลังพาตัวเองไปสู่ความหายนะ ทั้งๆ ที่รู้ดีว่าจุดจบจะพบกับความวิบัติร้ายแรงสถานใด แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังคงเดินหน้าพาตัวเองไปสู่แดนมรณะต่อไป
นักการเมืองไทยจำนวนไม่น้อยเข้าไปสู่สนามการเมืองด้วยความโลภ หวังจะกอบโกยโกงกินบ้านเมือง เพราะคิดเอาเองว่าเมื่อตนเองมีอำนาจรัฐ ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ได้เป็นรัฐมนตรี แล้วจะทำให้สามารถกอบโกยโกงกินบ้านเมืองอย่างไรก็ได้ เพราะสามารถใช้อำนาจรัฐเบียดบัง ฉ้อฉล ปล้นชิงผลประโยชน์สาธารณะเข้ากระเป๋าตัวเองได้
Power tends to corrupt and absolute power corrupts absolutely. Great men are almost always bad men, even when they exercise influence and not authority; still more when you superadd the tendency of the certainty of corruption by authority. (Lord Acton)
สรุปความจากประโยคและวลีข้างต้นได้ว่า อำนาจมักนำไปสู่การคอร์รัปชัน ยิ่งมีอำนาจมากมายก็ยิ่งจะคอร์รัปชันได้อย่างมากที่สุด คนที่เป็นผู้ยิ่งใหญ่มักจะเป็นคนเลวได้ ในกรณีที่เขาใช้อิทธิพลโดยไม่ใช้อำนาจอย่างมีความรับผิดชอบ แล้วจะคอร์รัปชันมากขึ้นเมื่อเขาใช้อำนาจเพื่อโกงกิน
ถามว่า ทุกวันนี้เราทุกคนเห็นชัดแล้วใช่ไหมว่า ประเทศไทยของเรามีนักการเมืองจำพวกโกงบ้านกินเมืองอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง และนักการเมืองที่ตั้งใจโกงบ้านกินเมืองก็มากันทั้งตระกูล ดังนั้น เมื่อเราจึงเห็นนักการเมืองจงใจส่งลูกหลานญาติพี่น้องเข้าสู่วงจรอำนาจรัฐ เพราะต้องการได้อำนาจรัฐ เมื่อได้อำนาจรัฐแล้วก็นำไปใช้เป็นเครื่องมือโกงบ้านกินเมือง
เราเห็นตระกูลนักการเมืองในไทยหลายตระกูล แล้วเราก็เห็นว่าหลายตระกูลการเมืองเข้ามาทำลายล้างความเจริญของบ้านเมืองมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน บางตระกูลการเมืองนั้นพ่อแม่ล้มหายตายจากไปแล้ว แต่ยังมีลูกหลานเข้ามาเวียนว่ายอยู่ในวงจรแห่งอำนาจรัฐ บางตระกูลการเมืองนั้น สมาชิกของตระกูลได้กระทำผิดคิดร้ายต่อประเทศ จนต้องคดีอาญาแผ่นดิน แล้วก็หลบหนีคดีความไปอยู่ต่างประเทศ แต่นักโทษคดีอาญาบางรายที่เคยเป็นผู้ยึดกุมอำนาจรัฐไว้ได้ เมื่อหลบหนีคดีความไปอยู่ต่างแดนเกือบสองทศวรรษ แล้วก็กลับเข้ามายึดกุมอำนาจรัฐอีกครั้ง โดยมีสถานะเป็นผู้ครอบครองนายกรัฐมนตรี ซึ่งการประกาศว่าเป็นผู้ครอบครองนายกรัฐมนตรี ก็เท่ากับประกาศว่าเป็นผู้ครอบครองอำนาจรัฐไปโดยปริยาย เพราะในเมื่อนายกรัฐมนตรีเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดเพื่อใช้บริหารประเทศ ดังนั้น การเล่นลิ้นว่าครอบครองนายกรัฐมนตรีก็คือการประกาศโดยนัยว่าครอบครองอำนาจรัฐไว้ด้วย
อำนาจการเมืองหรืออำนาจรัฐนำมาซึ่งผลประโยชน์มหาศาล ดังนั้น เมื่อนักการเมืองบ้าอำนาจได้เสพอำนาจรัฐแล้ว เขาจะติดมันจนไม่สามารถมีชีวิตโดยปราศจากมันได้ เพราะการมีอำนาจรัฐสามารถดลบันดาลให้ผู้ใช้อำนาจรัฐโดยไม่ชอบ สามารถเข้าถึงและครอบครองผลประโยชน์มหาศาลบนแผ่นดินนั้นๆ ได้ตลอดเวลาที่เขายังคงยึดกุมอำนาจรัฐไว้ได้ เพราะฉะนั้นจึงไม่ต้องสงสัยว่าเหตุใดคนคนหนึ่งที่มีอำนาจรัฐแล้วกล้าประกาศแบบบ้าบิ่นลืมตัวว่า จะครอบครองอำนาจรัฐไว้ในกำมือ 20 ปี แต่แล้วเมื่อมีอันต้องกระเด็นพ้นจากอำนาจรัฐไป เขาก็กระเสือกกระสนทุรนทุรายกลับมามีอำนาจรัฐให้ได้ แม้จะไม่สามารถรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ด้วยตัวเอง แต่คนบ้าอำนาจรัฐ เพราะเสพติดอำนาจรัฐก็ใช้ตัวแทน ใช้หุ่นเชิดหุ่นชักไปเป็นผู้กุมอำนาจแทนตนเอง โดยคนบ้าอำนาจผู้นั้นยังคงมีอิทธิพลเหนือหุ่นเชิดหุ่นชัก
เพราะฉะนั้น เราจึงเห็นว่าไม่มีคนบ้าอำนาจ หรือพวกเผด็จการรายใดจะยอมมีชีวิตอยู่โดยปราศจากอำนาจ เพราะต่อให้เขา (หรือเรียกว่ามัน ก็น่าจะไม่ผิด) จะล้มตายในเวลาอีกไม่นาน เขาก็พยายามไขว่คว้ายึดกุมอำนาจไว้ให้จงได้แล้วหากเขารู้แน่ว่าต้องตายแน่แท้แล้ว เขาก็ส่งอำนาจให้ทายาทของเขา เพื่อให้สืบทอดอำนาจต่อไปให้ยาวนานที่สุด
ในเชิงการแพทย์กล่าวว่าคนบ้าอำนาจคือคนที่มีจุดอ่อนในสมองส่วนที่ชื่อ nucleus accumbens ซึ่งเป็นสมองส่วนกลางที่อยู่ลึก และควบคุมสมองทั้งสองซีกของคน
คนเสพติดอำนาจก็ไม่ต่างจากคนเสพติดความสุข ความร่ำรวย เสพติดรสชาติของอาหาร และเสพติดกามารมณ์ โดยการเสพติดนั้นมาจากการสั่งการของสมองส่วนที่ชื่อ nucleus accumbens (อันที่จริงเมื่อพูดถึงเรื่องการเสพติดใดๆ ก็จำเป็นต้องพูดถึงฮอร์โมนโดพามีน (dopamine) ด้วย เพราะเป็นฮอร์โมนตัวสำคัญที่ทำให้คนเราเกิดแรงกระตุ้นให้ทำในสิ่งที่ทำให้เราอยู่รอด และติดใจในการกระทำสิ่งใดๆ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องไม่ดีต่อตัวเราเองก็ตาม แต่ต้องขออนุญาตไม่ลงรายละเอียดเรื่องนี้มากเกินไป เพราะจะทำให้หลุดประเด็นนักการเมืองบ้าอำนาจเสพติดอำนาจ)
อย่างไรก็ตาม ต้องบอกว่านักการเมืองทุกคนไม่ใช่คนเลว เพียงแต่ว่าเราหานักการเมืองดีๆ ได้ยากเหลือเกิน นักการเมืองดี (ที่มีจำนวนน้อย) มักไม่เสพติดอำนาจ คือรู้จักปล่อยวาง และรู้จักพอเมื่อได้ครอบครองอำนาจในระยะเวลาที่พอเหมาะพอสม แต่สำหรับนักการเมืองโคตรเลวนั้น มันจะยึดกุมอำนาจรัฐไว้ตลอด แม้กระทั่งมันตายไปแล้ว มันก็ยังหวงอำนาจไว้ให้ลูกหลานและโคตรเหง้าของมัน ดังนั้นมันจึงเกิดตระกูลการเมืองสายพันธุ์ชั่วบนแผ่นดินไทยตลอดเวลา
นักการเมืองชั่วมีโทษลักษณะ ดังนี้ คือ บ้าอำนาจ พูดปดตลอดเวลา ยกตนข่มท่าน ไม่เคารพกฎหมาย ไม่เคารพศีลธรรม หน้าด้านมากๆๆๆๆ สัญญาว่าจะทำโน่นนี่นั่น แต่ทำไม่เคยได้ ใช้อำนาจโดยไม่ชอบธรรม โกหกว่ารวยแล้วไม่โกง โกหกว่าเลิกเล่นการเมืองแล้ว จะกลับมาเลี้ยงหลาน โกหกว่าใช้เงินเมียเพื่อทำงานการเมือง ประกาศว่าจังหวัดไหนไม่เลือกพรรคของมัน มันไม่ดูแลจังหวัดนั้น โกหกว่าจะปราบสิ่งผิดกฎหมาย แต่ทำไม่เคยได้ เพราะตัวมันเองยังทำผิดกฎหมายตลอดเวลา
นักการเมืองที่มีพฤติกรรมด้งกล่าวข้างต้นเป็นใคร ชื่ออะไร หน้าตาเป็นอย่างไร คนไทยที่ติดตามการเมืองอย่างใกล้ชิดรู้ดีทุกคน
ที่นี่ลองมาพิจารณานักการเมืองที่ชื่อทักษิณ ชินวัตร และแพทองธาร ชินวัตร แล้วลองเทียบเคียงว่ามีพฤติกรรมดีกว่าที่ยกตัวอย่างในข้างต้นอย่างไรบ้าง เพราะหลายคนยังเชื่อว่าทักษิณเป็นคนดี เป็นคนที่สามารถสร้างความเจริญให้บ้านเมืองได้ แต่บางคนก็ไม่เชื่อเช่นนั้น ซึ่งก็เป็นไปตามมุมมองและทัศนคติที่แต่ละคนจะมีต่อตัวของทักษิณ และเป็นไปตามประสบการณ์ตรงที่แต่ละคนจะมีต่อทักษิณ
แน่นอนว่าทักษิณคืออดีตนายกรัฐมนตรีที่ชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายเมื่อปี 2544 แล้วก็พยายามจะอยู่ในอำนาจรัฐให้ยาวนานที่สุด แต่ทว่าต้องจบชีวิตของผู้มีอำนาจรัฐ เพราะถูกรัฐประหาร เมื่อเดือนกันยายน 2549
ประเด็นการทำรัฐประหารทักษิณ เป็นเรื่องที่ต้องพูดกันอีกครั้งในโอกาสหน้า เพราะเรื่องนี้มีที่มาที่ไปที่ซับซ้อนมาก แต่สิ่งที่แน่นอนที่สุดคือ เมื่อทักษิณมีอำนาจรัฐนั้น เขาถูกวิพากษ์ว่าทุจริตเชิงนโยบาย และทักษิณก็ต้องหนีคดีทุจริตซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก โดยเขาหนีคดีไปตั้งแต่ปี 2551 โดยทำหนังสือของอนุญาตศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งการเมือง โดยอ้างว่าไปทำธุระในประเทศจีนและญี่ปุ่น (อันที่จริงต้องพูดถึงเรื่องที่ศาลฎีกาฯ อนุญาตให้ทักษิณเดินทางออกนอกประเทศในครั้งนั้นด้วย เพราะมีเบื้องหน้าเบื้องหลังมากมาย แต่พื้นที่สำหรับเขียนไม่พอ ขอยกยอดไปคุยเรื่องนี้ในวันหน้า)
ทักษิณหนีคดีอาญาไปร่อนเร่ในประเทศต่างๆ เป็นเวลา 17 ปี แต่ระหว่างที่หนีคดีนั้น ทักษิณไม่เคยหยุดเรื่องการเมือง เพราะเขาคือตัวการตัวสำคัญที่ทำให้เกิดความแตกแยกในหมู่คนไทยตลอดเวลา แม้เขาจะอยู่นอกแผ่นดินไทย หลายคนจำได้ดีว่าเขาใช้รูปแบบการสื่อสารสารพัดชนิดเข้ามาก่อให้เกิดการเผชิญหน้ากันระหว่างคนไทยที่คลั่งไคล้ทักษิณกับกลุ่มคนเกลียดทักษิณ จึงกล่าวได้ว่าทักษิณเป็นตัวการสำคัญชนิดหนึ่งที่ทำให้คนไทยต้องเผชิญหน้ากันเองแบบต่างกรรมต่างวาระ
และแล้ว เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 ทักษิณในฐานะนักโทษหนีคดีอาญาก็กลับประเทศไทย ซึ่งต้องบอกว่ากลับแบบทำให้คนไทยที่เคารพกฎหมายงุนงงกันทั้งแผ่นดิน เพราะเขาคือนักโทษอาญาที่ไม่ต้องได้รับโทษในคุกแม้แต่วินาทีเดียว แถมยังมีคำถามมากมายว่าเขาไปทำข้อตกลงพิเศษกับใครหน้าไหน จนทำให้เขากลายเป็นนักโทษที่ไม่ต้องรับโทษแม้แต่วินาทีเดียว ทำไมเขาได้รับอภิสิทธิ์มากเสียจนทำลายระบบยุติธรรมของไทยให้พังพินาศได้อย่างราบคาบ เรื่องนี้จะถูกโจษขานและถูกขุดคุ้ยไปอีกนานจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะตายจากกันไป แต่ไม่ต้องเป็นห่วงว่าเรื่องจะจบ แม้จะไม่มีความกระจ่างก็ตาม เพราะเรื่องนี้จะถูกนำมาพูดตลอดไป ไม่ผิดกับเรื่องที่สังคมไทยตั้งคำถามเรื่องเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ 6 ตุลาฯ
วันนี้ทักษิณประกาศว่าเขาคือผู้ครอบครองนายกรัฐมนตรี ซึ่งรัฐมนตรีก็คือลูกสาวคนเล็กของทักษิณ ที่ชื่อแพทองธาร ถามว่าแพทองธารมีคุณสมบัติด้านการเมืองที่เหมาะสมกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เรื่องนี้ก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละฝ่าย แต่ที่แน่นอนที่สุดคือแพทองธารไม่มีประสบการณ์การเมืองแม้แต่น้อย ขอย้ำว่าการเป็นลูกทักษิณไม่ได้หมายความว่ามีประสบการณ์การเมือง ดังนั้น จึงตอบแบบฟันธงว่าแพทองธารไม่มีประสบการณ์การเมือง และไม่เหมาะสมกับการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วยประการทั้งปวง แต่การที่แพทองธารได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็เป็นเพราะอิทธิพลของทักษิณ
เมื่อคนส่วนใหญ่มองตรงกันว่าแพทองธารขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้เพราะอิทธิพลของทักษิณ ก็หมายความว่าทักษิณมีอิทธิพลเหนือแพทองธาร แล้วเมื่อแพทองธารเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคการเมืองใต้อาณัติของทักษิณ เพราะฉะนั้น ประเด็นนี้จึงโยงกลับไปที่หัวข้อเรื่องที่ชวนคุณสนทนาในวันนี้ คือทักษิณ แพทองธาร นำตัวเองไปสู่แดนประหาร จริงหรือ
เรื่องนี้จะจริงหรือไม่ ขอให้ตามดูกันต่อไป เพราะอีกไม่นานจะได้พบบทสรุปพร้อมๆ กันทั้งประเทศ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี