คณะรัฐมนตรี“อุ๊งอิ๊งค์ 1” ที่รายชื่อนิ่งแล้วในวันนี้ และจะมีการนำขึ้นทูลเกล้าโปรดเกล้าฯแต่งตั้งภายในสัปดาห์นี้..จะเรียกได้ว่าเป็น“คณะรัฐมนตรี”ตามโมเดล“การสืบทอดพันธุกรรม”ทางการเมืองก็ว่าได้
คือตัวเจ้าของโควตาไม่สามารถเข้าไปเป็นรัฐมนตรีได้เพราะขาดคุณสมบัติ..ก็ส่งเมียเข้าไปเป็นแทน..พอคิดอีกทีเมียมีหลายคน..จะส่งคนใดคนหนึ่งเข้าไปเป็นรัฐมนตรีแทนก็กลัวบ้านแตก เลยต้องส่งน้องเข้าไปแทน..บางรายมีปัญหากับน้อง..เมื่อไม่เห็นมีใคร ก็ส่งลูกที่เป็นสายเลือดเข้าไปแทน..หรือบางรายจะส่งเมียเข้าไปเป็นแทนก็มีปัญหา..จะส่งน้องชายก็มีปัญหา และจะส่งลูกก็มีปัญหาอีก..ก็เลยต้องส่งพ่อเข้าไปเป็นรัฐมนตรีแทน
สรุปก็คือ ตัวเองเป็นรัฐมนตรีไม่ได้ก็ให้“ลูก-เมีย-ญาติพี่น้อง”เป็นแทน..ตำแหน่งรัฐมนตรีของรัฐบาล“อุ๊งอิ๊งค์ 1”จึงกลายเป็นสมบัติส่วนตัว..เป็นสมบัติผลัดกันครองและเป็นมรดกตกทอด..ซึ่งถ้าพูดให้ชัดก็คือ..ตำแหน่งรัฐมนตรีของรัฐบาล“อุ๊งอิ๊งค์ 1”ชุดนี้เป็นเรื่องของการ“สืบสันดาน”
หากมองในภาพรวมทั้งหมด รัฐบาลที่อ้างว่าเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยเพราะมาจาการเลือกตั้งนั้น..แม้จะไม่ได้“สืบทอดอำนาจ”เหมือนรัฐบาลที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นรัฐบาลเผด็จการ..แต่กลับยิ่งร้ายกว่า..เพราะเป็นการ“สืบสันดาน”..เพื่อครอบครองตำแหน่งรัฐมนตรีที่ถูกตีตราจองว่าเป็นมรดกของโคตรเหง้าวงศ์ตระกูล
แต่ถ้าฟังนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีที่ถูกบิดา“ครอบครอง” ให้สัมภาษณ์สื่อแล้ว เหมือนหนังคนละม้วน..โดยผู้สื่อข่าวถามว่า “ยึดหลักการอะไรในการฟอร์มคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ ?..“คุณหนูอุ๊งอิ๊งค์”ตอบแบบผู้สื่อข่าวถามไม่ตรงปกว่า..”คิดว่าอยากเห็นอะไรมากกว่า จากผลงานคนที่เลือกมา..จะได้ทำต่อ..รวมไปถึงคนที่คงไว้คงเดิม..เห็นถึงศักยภาพอยู่แล้วว่า..ใครพร้อมจะทำงาน..หลังจากอยู่ในพรรคมากกว่า 3 ปี..เห็นว่าแต่ละคนใครประมาณไหนอย่างไร..จริงๆ แล้วอยากชนะเหมือนที่คุณพ่อชนะ 377 เสียง..เราจะได้ให้ทุกคนมีทุกตำแหน่ง..แต่มันก็ได้แค่ปริมาณหนึ่ง..ก็ช่วยกัน..ของพรรคอื่นก็มีด้วย..ก็ได้ให้ทุกคนได้แสดงความสามารถด้วย”
ใครที่ไม่เข้าใจปูมหลัง..ฟัง“คุณหนูอุ๊งอิ๊งค์”ตอบแล้วก็จะงง..เพราะคำถามก็ชัดและกระชับไม่ซับซ้อน..แต่ถ้าใครที่รู้ปูมหลังและเห็นเธอมาตั้งแต่สมัยที่สอบเอ็นทรานซ์เข้าคณะรัฐศาสตร์จุฬาฯ..ก็จะไม่งวยงง..เนื่องจากนายกรัฐมนตรีที่มีวันนี้เพราะ“พ่อให้”คนนี้..เหมือน“มะม่วงบ่มแก๊ส”..ไม่ใช่มะม่วงที่สุกโดยธรรมชาติ
มะม่วงที่สุกโดยธรรมชาติต้องรอเวลา ตามวงรอบของมัน จึงจะสมบูรณ์..ทั้งสีผิวที่ชวนให้น่ากินและรสชาติที่หอมหวานตามธรรมชาติของมะม่วง..แต่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เหมือน“มะม่วงบ่มแก๊ส”..เพราะบิดาของเธอ คือ นักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร..เหลียวหน้ามองหลังแล้วไม่เห็นใคร..ก็เลยเชิดลูกสาวที่ความรู้ความสามารถไม่ถึง และอ่อนด้อยประสบการณ์..ไม่เคยเป็นที่ปรากฎว่าประสบความสำเร็จในด้านการบริหารธุรกิจมาก่อน..นอกจากเป็นเจ้าของบริษัท“กงสี”ของตระกูลชินวัตร..ที่มีคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ผู้เป็นมารดา..คอยกางปีกคุ้มอยู่ข้างหลัง
อีกทั้งพรรษาทางการเมืองของ“แพทองธาร ชินวัตร”ก็ยังอ่อน...จากหัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทยในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง..และเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย..ก็เขยิบขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยหลังการเลือกตั้ง..พร้อมกับการถูกเชิดให้กำกับดูแลเรื่อง“ซอฟต์ พาวเวอร์”ในคณะรัฐบาลของ“เศรษฐา ทวีสิน”..ที่จนบัดนี้ก็ยังไม่เห็นว่ามีผลงานอะไรเป็นที่ประจักษ์..หลังจากผลาญงบประมาณแผ่นดินไปแล้วกว่า 5 พันล้าบาทสำหรับใช้ในโครงการนี้..จากที่“คุณหนูอุ๊งอิ๊ง”ประโคมโหมข่าวตั้งแต่แรกเริ่มว่า..“ซอฟต์ พาวเวอร์” จะทำให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศผู้นำด้าน “Soft Power” และจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศไม่น้อยกว่า 4 ล้านล้านบาท
ดังนั้น “คุณหนูอุ๊งอิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร”..จึงถือว่าเป็นตัวอย่างแรกของ“รัฐบาลสืบสันดาน”ชุดนี้..เพราะเมื่อพ่อเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้..ก็ส่งลูกสาวเข้าไปนั่งเก้าอี้แทน..เหมือนมรดกตกทอดของโคตรเหง้าวงศ์ตระกูล..ซึ่งเวลานี้จึงเห็นลักษณะเด่นประการเดียวของเธอ..คือเสื้อผ้าหน้าผม..แต่งตัวเฉิดฉายด้วยชุดหรูแบรนด์เนมราคาแพงจากต่างประเทศเข้ามาที่“อาคารชินวัตร 3“ทุกวัน..โดยที่ไม่มีใครเห็นว่า..ที่ประชุมลับในตึกแห่งนี้ในแต่ละวันมีใครเป็น“ผู้บงการ”
ตัวอย่างต่อมาก็คือกรณีของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ชื่อเป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ..แต่ตัวและหัวใจที่เมื่อก่อนเคยมอบให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะ“นาย”..ก็เปลี่ยนมือมามอบให้“ทักษิณ ชินวัตร”กำไว้ในเวลานี้..เป็นภาพสะท้อนให้เห็นได้ชัดเจน
เมื่อตัวของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นเองไม่ได้..เพราะคุณสมบัติไม่น่าจะผ่านเรื่องจริยธรรมจากประวัติแต่หนหลัง..ที่เคยติดคุกคดีค้ายาเสพติดในประเทศออสเตรเลีย..ก็ส่งน้องชายคือนายอัครา พรหมเผ่า เข้าไปเป็นรัฐมตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ..โดยใช้โควตาคนนอกของพรรคเพื่อไทย
นอกจากนั้นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯที่เป็นโควต้าของตนเอง..ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ก็ส่งมอบเหมือนมอบมรดกให้“นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์” หัวหน้าพรรคกล้าธรรม เข้าไปเป็นรัฐมนตรีแทน..ซึ่งนางนฤมล หรือมีชื่อเล่นว่า“แหม่ม”เจ้าของฉายา “บิ๊กอาย”เพราะใส่คอนแทคเลนส์ที่ทำให้ตาดู“วิ้งๆ ปิ๊งๆ”..เป็นหัวหน้าพรรคกล้าธรรมที่ไม่มี สส.ในสภาฯแม้แต่คนเดียว..โดยที่ใครก็รู้ว่าพรรคกล้าธรรมถูกตั้งขึ้นมา..ก็เพื่อเตรียมไว้รองรับกลุ่ม สส.ในก๊วนของ ร.อ.ธรรมนัส หากถูกขับออกจากพรรคพลังประชารัฐ
รัฐมนตรีอีกตำแหน่งหนึ่งที่เหมือนเป็นมรดกตกทอดของ“การสืบทอดพันธุกรรม” คือตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ..ที่นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐและอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ..ซึ่งสังกัดกลุ่มก๊วน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า..มอบให้นายอิทธิ ศิริลัทธยากร ผู้เป็นบิดา นั่งเก้าอี้แทน
และล่าสุดที่ทำให้โผการแต่งตั้งรัฐมนตรีในคณะรัฐบาล“อุ๊งอิ๊งค์ 1”นิ่ง..แบบ“ไฟนอล”ตามภาษาพูดของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ก็คือ..การถอนตัวของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ จากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ตามโควตาของพรรคภูมิใจไทย..โดยเสนอชื่อนางสาวชาบีดา ไทยเศรษฐ์ บุตรสาว เข้าไปนั่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระรวงมหาดไทยแทนตนเอง
นายชาดา ไทยเศรษฐ์ นั้นได้ชื่อว่าเป็น“ผู้กว้างขวาง”ของจังหวัดอุทัยธานี..เจ้าของฉายา“เจ้าพ่อแห่งลุ่มน้ำสะแกกรัง”..ประเภทนักเลง“ใจกว้าง-ใจใหญ่”..ในปี 2546 เคยถูกจับกุมในข้อหาจ้างวานฆ่านายสมเกียรติ จันทร์หิรัญ เลขานุการของนายประแสง มงคลศิริ อดีต สส.จังหวัดอุทัยธานี พรรคไทยรักไทย..ซึ่งคดีนี้ศาลพิพากษายกฟ้องในปี 2548..นอกจากนั้นก็เคยถูกจับกุมในปี 2545 คดีจ้างวานฆ่านางนิตยา เพทายบรรลือ นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง..และศาลยกฟ้องอีกเช่นเดียวกัน
แต่อย่างว่ารัฐบาล“อุ๊งอิ๊ง 1” ที่ได้ชื่อว่าเป็น“รัฐบาลคุณพ่อจัดให้”จะต้องเคลียร์และคลีน..อะไรที่จะกลายเป็นปัญหาอันนำไปสู่จุดจบของ“แพทองธาร ชินวัตร”เฉกช่น“เศรษฐา ทวีสิน”..จึงต้องมีการตัดไฟแต่ต้นลมในทุกทาง ให้หมดสิ้น !
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี