ณ วันนี้“คุณหนูอุ๊งอิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร” ไข่ในหินของอดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร กับ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์-นายหญิงแห่งบ้านจันทร์ส่องหล้า เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทยเต็มตัวแล้ว และคำนำหน้านามของนายกรัฐมนตรีผู้นี้ที่สื่อเริ่มเรียกขานว่า“มาดามแพ” ดูจะเหมาะสมกับตำแหน่งอัครมาหาเสนาบดีของเธอเป็นอย่างยิ่ง
เพราะคำว่ามาดามนั้น รากเดิมมาจากภาษาอังกฤษว่า “madam” เป็นคำเรียกที่สุภาพสำหรับใช้กับสุภาพสตรีที่มีสามีแล้ว จะหมายถึงคุณผู้หญิง, นายหญิง หรือคุณนาย ก็ได้ ซึ่งคำว่า“มาดาม”ในภาษาอังกฤษนี้ ยังมีความหมายเหมือน คือถ้าหากนำไปใช้ผิดที่ผิดทาง ก็อาจจะเกิดความเข้าใจผิดว่า เป็น“แม่เล้า” หรือ “เจ้าของซ่อง”ได้เช่นกัน
แต่คำว่า“มาดามแพ”ในที่นี้ ถือว่าเป็นคำยกย่อง สื่อที่ใช้คำนี้ก่อนเพื่อน เท่าที่สังเกตมาแต่แรกเริ่ม-น่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ที่เรียกขาน“คุณหนูอุ๊งอิ๊งค์”ว่า“มาดามแพ” ถือว่าเป็นคำยกย่องที่ลงตัวทีเดียว ทำให้เธอดูมีวุฒิภาวะขึ้น จาก“อุ๊งอิ๊ง”ที่ฟังแล้วดูแล้วเหมือน“คุณหนูเอ๋อ” แม้ว่าจะใส่เครื่องหมาย“การันต์” ทัดอยู่บนหัว“ค.ควาย”แล้วก็ตาม แต่เวลาฟังก็ยังได้ยินเป็น“อุ๊งอิ๊ง-ออเอ๋อ”อยู่ดี
ดังนั้นคำว่า“มาดามแพ”จึงฟังดูดี สำหรับนายกรัฐมนตรีหญิงนามว่า“แพทองธาร ชินวัตร” และก็ชวนให้นึกไปถึงมหาอุปรากรยอดนิยมของฝรั่งเรื่อง“Madama Butterfly” ซึ่งประพันธ์โดย“จาโกโม ปุชชีนี” (Giacomo Puccin) คีตกวีชื่อก้องชาวอิตาเลี่ยนแห่งปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 และเราได้นำมาแปลงเป็นพากษ์ไทยว่า“สาวเครือฟ้า”
แต่ถึงที่สุดแล้ว, ความมี“วุฒิภาวะ”ไม่ได้อยู่ที่ชื่อ หรือสรรพนามที่เรียกขาน หากแต่อยู่ที่สติปัญญาของบุคคลผู้นั้นมากกว่า
”แพทองธาร ชินวัตร”หรือ“มาดามแพ” ต้องมีสติระลึกให้ได้อยู่ทุกลมหายใจเข้าออกว่า วันนี้ตนเองเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำฝ่ายบริหารอันเป็นหนึ่งในสามสถาบันหลักของประเทศไทย มิใช่“คุณหนูอุ๊งอิ๊งค์”คนเดิม ที่ภาระหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีซึ่งแบกไว้บนบ่านั้น หนักอึ้งมากกว่าการดูแลสามีหนึ่งคนและเลี้ยงลูกอีกสองคนด้วยเงินทองของ“ตระกูลชินวัตร”ที่บิดา-มารดาหาไว้ให้เรียบร้อยแล้วพร้อมสรรพหลายร้อยพันเท่า
ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนคนไทย 70 ล้านคน และความเจริญรุ่งเรืองสงบร่มเย็นอย่างสถาพรของบ้านเมือง คือภาระหน้าที่ที่นายกรัฐมนตรีจะต้องรับผิดชอบ นายกรัฐมนตรีเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดในฝ่ายบริหาร ซึ่งทุกการตัดสินใจและการกระทำของนายกรัฐมนตรี ล้วนมีผลกระทบต่อประชาชนและบ้านเมือง นายกรัฐมนตรีจึงต้องอาศัยความรู้และประสบการณ์ และสำคัญอย่างยิ่งต้องยืนอยู่บนหลักนิติรัฐและหลักนิติธรรมของบ้านเมือง นี้คือภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของนายกรัฐมนตรี
อย่างไรก็ดี ในสองสามวันที่ผ่านมานี้ จากพฤติกรรมของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ที่ปรากฏต่อสาธารณะ ยังไม่เห็นความมี“วุฒิภาวะ”ในตัวเธอ อย่างน้อย“ดอก”แรกที่ถูกผู้คนในสังคมโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์ ก็คือ ระหว่างถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรี“อุ๊งอิ๊งค์ 1”หน้าตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาล เธอได้เชิญชวนรัฐมนตรีทั้งคณะถ่ายรูปในลักษณะชูมือทำสัญลักษณ์“มินิฮาร์ท” กระทั่งเจ้าหน้าที่ต้องตะโกนห้ามปรามในทำนองว่า อยู่ใน“ชุดขาว”มิสมควรกระทำ เพราะไม่เหมาะแก่กาลเทศะ
ในเรื่องนี้ถือว่า“มาดามแพ”ยังขาดสติ ไม่สามารถระลึกไม่ว่าตัวเธอเองมีตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าคณะรัฐบาลที่มีรัฐมนตรีอีก 35 คนอยู่ในวัยอาวุโสกว่าเธอ ชุดขาวที่เธอและคณะรัฐมนตรีสวมใส่เป็นชุดพิธีการของราชการ ไม่ใช่คณะศิลปินนักร้องหรือดาราเกาหลีที่มาร่วมกันบันทึกภาพเพื่อเผยแพร่ให้แฟนคลับชื่นชมยินดีในโลกโซเชียล
อีกสองเรื่องที่สะท้อนให้เห็นถึง“วุฒิภาวะ”ของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ที่ยังแยกไม่ออกระหว่างความเป็น“คุณหนูอุ๊งอิ๊ง” กับ “มาดามแพ”หรือ“สร.1” อันเป็นรหัสย่อของตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสำหรับใช้กับ“ว.-วิทยุสื่อสาร”
ดังจะเห็นได้จากการให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวหลังประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษเมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา คำถามแรกเรื่องการถูกฟ้องร้องที่ผู้สื่อข่าวใช้คำว่า“นิติสงคราม”ซึ่งไม่น่าจะถูกต้องในข้อเท็จจริงสำหรับคำนี้ เพราะเรื่องที่มีผู้ร้องไม่ใช่เกิดจากการกลั่นแกล้งทางการเมือง แต่เป็นเรื่องที่มีฐานมาจากการละเมิดรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญหรือไม่อย่างไรต่างหาก จึงได้มีการร้องไปยังองค์กรที่มีอำนาจในการตรวจสอบและวินิจฉัย โดยผู้สื่อข่าวได้ถามเรื่อง“คิวกฐิน”ที่มีผู้ร้องจองไว้มากมายหลายเรื่อง
ทั้งนี้ นางสาวแพรทองธารจะทราบหรือไม่ทราบกับความหมายของคำว่า“จองกฐิน”หรือไม่อย่างไรมิอาจเดาได้ แต่เธอได้ย้อนถามผู้สื่อข่าวว่า “คิวกฐินเลยหรือ” และย้อนถามผู้สื่อว่าว่า ”อันนี้คือคำเปรียบเทียบใช่มั้ยคะ” ผู้สื่อข่าวย้ำว่า “หมายถึงมีนักร้องเตรียมที่จะร้องในหลายๆ คดี” มาดามแพจึงตอบว่า “แค่สื่อมวลถามเนี่ย ก็สงสารเราแล้วเนาะ ก็ที่ผ่านมา ตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยมีคดี พอมาถึงจุดนี้มีคดี ก็พยายามจะรับมือให้ได้ดีที่สุด แล้วก็จริงๆ ไม่อยากมีคดี ลูกยังเล็กอยู่นะคะ”
อันที่จริงง่ายนิดเดียว ถ้าหาก“มาดามแพ”ไม่อยากมีคดี หรือเป็นห่วงว่าลูกยังเล็ก ก็ไม่สมควรจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ก็จงจำไว้ด้วยว่า นับจากวันนี้บนเก้าอี้นายกรัฐมนตรีเป็นต้นไป หากยังแยกไม่ออกระหว่างความเป็นนายกรัฐมนตรีที่ถูกครอบครองและครอบงำโดยอดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งคนทั่วไปต่างก็ทราบกันดีว่าเป็นผู้ที่คอยชักใยและบงการชี้นำอยู่ข้างหลังนั้น ย่อมมิอาจหลีกเลี่ยงคดีความหรือ“คิวกฐิน”ที่จะมีคนร้องตามมาอยู่เรื่อยๆ ได้เป็นอันขาด
อีกหนึ่งคำถามจากสื่อที่แสดงถึงวุฒิภาวะของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร อันเกี่ยวเนื่องกับการถูกบิดาครอบครองและครองงำ โดยผู้สื่อข่าวถามว่า “พอท่านนายกฯก้าวขึ้นมา นามสกุลชินวัตรก็ปฏิเสธไม่ได้ ความเป็นพ่อลูกระหว่างท่านนายกฯกับท่านทักษิณ ทำให้มีคนมองว่าระบอบทักษิณกลับมาอีกแล้ว และก็มีการปรามาสว่ายังไงก็หนีไม่พ้นเงาท่านทักษิณ” นางสาวแพรทองธารเงียบไปชั่วอึดใจและเอียงคอทำหน้าเบ้ก่อนจะตอบว่า “จะไม่ขอตอบเรื่องท่านทักษิณแล้ว เพราะว่าเราต้องเดินไปข้างหน้า วิสัยทัศน์ที่ดี ไม่ว่าจะมาจากใครก็ตาม อายุเท่าไหร่ก็ตาม วิสัยทัศน์ที่ดี คือสิ่งที่ดี เพราะฉะนั้นขอตอบแค่นี้แล้วกันค่ะ”
”วิสัยทัศน์ที่ดี คือสิ่งที่ดี”ที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร พูดถึงนั้น คงมิได้หมายความถึงวิสัยทัศน์ที่อดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร กล่าวในงานเนชั่นทีวี-จัดดินเนอร์ทอล์ก“Vision For Thailand 2024”เมื่อวันที่ 22 สิงหาคมคมเดือนที่แล้ว ไม่ว่าจะเรื่องการแก้หนี้, เรื่องดิจิทัลวอลเล็ต, เรื่องให้ต่างชาติเช่าที่ดิน 99 ปี หรือเรื่อง”เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” ซึ่งบรรจุไว้ในนโยบายหลักชองพรรคเพื่อไทยที่รัฐบาลจะแถลงต่อรัฐสภาระหว่างวันที่ 12-13 กันยายนนี้
หากเป็นเรื่องเดียวกันยุ่งแน่ และที่มาดามแพบอกว่า“ไม่อยากมีคดี-เพราะลูกยังเล็ก” เห็นจะลำบาก เพราะเรื่องนี้จะตอบอย่างไรกับเสียงที่ดังอื้ออึงอยู่ในเวลานี้ว่า รัฐบาล“อุ๊งอิ๊งค์ 1”เป็นรัฐบาลเปลือกหอยที่มีคนครอบงำและบงการ ?!
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี