เดือนมิถุนายน นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรีไทยสั่งให้มีการร่างกฎหมายเพื่อทำให้เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ หรือ เรียกง่ายๆว่า บ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย โดยระบุร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวอาจช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายในการท่องเที่ยว เพิ่มการจ้างงาน และฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง และแม้ แพทองธาร ชินวัตร ขึ้นมาเป็น นายกรัฐมนตรีคนใหม่แทนที่ นายเศรษฐา ผู้เชี่ยวชาญมองว่าร่างกฎหมายดังกล่าว จะยังคงดำเนินการต่อไป แม้ว่าผลการสำรวจพบว่า 50% ประชาชนไม่เห็นด้วย และไม่คุ้มค่าเศรษฐกิจระยะยาว
ก่อนที่นายกฯอุ๊งอิ๊งค์จะผลักดันร่างพระราชบัญญัติกาสิโนถูกกฎหมาย อยากให้ท่านผู้ทรงเกียรติทั้งหลายได้ทราบข้อมูลจากประเทศเพื่อนบ้านว่า บ่อนการพนันคุ้มค่าทางเศรษฐกิจในระยะยาวหรือไม่ และที่สำคัญต้องตระหนักว่า บ่อนการพนันคือแหล่งอาชญากรรมข้ามชาติที่เกิดขึ้นมากมายในประเทศเพื่อนบ้านที่มีบ่อนการพนันถูกกฎหมาย
ในประเทศฟิลิปปินส์ การพนันส่วนใหญ่เกิดขึ้นภายใต้การผูกขาดของ Philippine Entertainment and Gambling Corporation หรือ PAGCORหน่วยงานนี้ เป็นของรัฐ 100% PAGCOR มีหน้าที่รับผิดชอบในการออกใบอนุญาตดำเนินการการพนันในประเทศ โดย 50% ของรายได้จะส่งตรงไปยังงบประมาณของประเทศ
ปี 2003 PAGCOR เริ่มออกใบอนุญาตให้เปิดบ่อนการพนันออนไลน์ นอกชายฝั่งที่รู้จักกันในชื่อ โปโก (POGO) ด้วยความมุ่งหมายเรียกลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนจีนต่างประเทศ ในเบื้องต้นการเปิดโปโกหละหลวมส่งรายได้เข้ารัฐน้อยมาก จนกระทั่งปี 2016 PAGCOR ตรวจสอบรายได้ของโปโกเข้มข้นปี 2016 รัฐจึงมีรายได้จากโปโก 7.3 หมื่นล้านเปโซ ปี 2017 รายได้เข้ารัฐจากโปโกเพิ่มขึ้นเป็น 3.1 แสนล้านเปโซ ระหว่างปี 2016 ถึง 2019 รายได้จากโปโกส่งเข้ารัฐสูงขึ้นอย่างมีนัย 1.8 ล้านล้านเปโซ
ในสมัยประธานาธิบดี โรดิโก ดูเตอร์เต ผู้เป็นมิตรดีต่อปักกิ่ง รัฐบาลเปิดโอกาสให้นักธุรกิจจีนทั้งสีขาวสีเทากว่า 100,000 คน เข้ามาทำธุรกิจในฟิลิปปินส์ แน่นอนคนจีน ซึ่งเชี่ยวชาญการค้ารู้ว่า ธุรกิจที่หาเงินได้ง่ายไม่มีอะไรเกินบ่อนการพนันออนไลน์ ที่ผู้บริหารและลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนจีน ต่อมา ถึงสมัยประธานาธิบดี เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ หรือ บองบอง ที่มีข้อขัดแย้งรุนแรงกับจีน ในปัญหาทะเลจีนใต้ ประธานาธิบดี มาร์กอส หันหลังให้ปักกิ่งหันไปเป็นญาติดีกับวอชิงตันรัฐบาล โดยมาร์กอสเข้มงวดกวดขันต่อกิจการที่คนจีนบริหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งโปโก ส่วนใหญ่อยู่ภายใต้บริษัทจีนหรือไม่ ก็จีนใช้คนฟิลิปปินส์ เป็นนอมินี
ข้อมูลในหน่วยงานสอบสวนกลางฟิลิปปินส์พบว่าโปโกได้รับอนุญาต มี 46 แห่ง แต่ที่ไม่มีใบอนุญาต 250 ถึง 300 แห่งทั่วประเทศ โปโกไม่มีใบอนุญาตเปิดอยู่ได้ เพราะผู้บังคับใช้กฎหมายเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ซึ่งเหมือน#กับกรณี นายตู้ห่าวและบ่อนการพนันออนไลน์ จังหวัดนครศรีธรรมราช นายตู้ห่าวและบ่อนการพนันออนไลน์ เกิดขึ้นไม่ได้ หากไม่มีข้าราชการกังฉิน กับ นักการเมืองท่องถิ่นเกี่ยวข้อง
กรณีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ วันที่ 28 มีนาคมผู้สื่อข่าวรายงานจาก จังหวัดนครศรีธรรมราช ตำรวจ สอท.สนธิกำลัง บุกจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์เครือข่ายใหญ่ใน จังหวัดนครศรีธรรมราช 3 เป้าหมาย ได้ตัวผู้ต้องหาทั้งสิ้น 80 คน และตรวจยึดของกลาง อีกเป็นจำนวนมาก หลังจากเจ้าหน้าที่ส่งผู้ต้องหาดำเนินคดี สื่อท้องถิ่นรายงานว่าอดีตรองนายกเทศมนตรีหญิงเมืองจันดี มีสามีคนจีน เป็นเจ้าของ/ผู้เช่าโกดังใหญ่ที่แปลง เป็นศูนย์คอลเซ็นเตอร์และเป็นผู้จัดหาที่ตั้งสำนักงาน ตลอดที่พักอาศัยให้ผู้ต้องหาจีนสีเทากลุ่มนั้น แต่จนถึงวันนี้ยังไม่รายงานว่า อดีตรองนายกเทศมนตรีหญิงคนนั้น ถูกสอบสวนดำเนินคดีแต่อย่างใด หรือเป็นเพราะการทุจริตมีทุกหย่อมหญ้าในประเทศไทยฉันใดในประเทศฟิลิปปินส์ก็ฉันนั้น
ปธน.มาร์กอส แห่งฟิลิปปินส์ สั่งแบนโปโกทั้งหมดทั่วประเทศ หลังเกิดคดีอื้อฉาว เมื่อเจ้าหน้าที่บุกทลายโปโกผิดกฎหมาย ในท้องที่ของนายกเทศมนตรีหญิงเมืองบัมบัง ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงมะนิลาเพียง 130 กิโลกเมตร และนายกเทศมนตรี หนีออกนอกประเทศระหว่างการสอบสวนดำเนินคดีร้ายแรง อลิซ เกา นายกเทศมนตรีวัย 36 ปีถูกกรรมาธิการวุฒิสภา สอบสวนตั้งแต่เดือนพฤษภาคม หลังจากกองปราบฯสนธิกำลังกับกระทรวงมหาดไทยบุกทลายโปโก ในท้องที่ของเธอเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาการบุกทลายโปโกผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือคนงานหลายสัญชาติ 720 คน ที่ถูกบังคับให้ทำงานในคอลเซ็นเตอร์ออกมาได้ การบุกทลายในครั้งนั้น เจ้าหน้าที่พบว่าพื้นที่ 50 ไร่ ของเธอถูกแปลง ให้เป็นแหล่งอาชากรรมข้ามชาติ มีทั้งการค้ามนุษย์ จับตัวเรียกค่าไถ่ ต้มตุ๋นการพนันและฟอกเงิน
การสอบสวนดำเนินคดีต่อนายกเทศมนตรี เป็นไปอย่างเชื่องช้า ทั้งๆ ที่ผลการสอบสวนพบว่าเธอเป็นสายลับจีน ที่แฝงตัวในฟิลิปปินส์หลายปี และเธออาจเป็นนอมินีแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ ที่สร้างรายได้กับธุรกิจผิดกฎหมายปีละหลายหมื่นล้านเปโซ ถึงแม้ถูกกล่าวว่า เป็นสายลับและเป็นนอมินีอาชญากรรมข้ามชาติ แต่นายกเทศมนตรีสาวผู้ลึกลับ ก็หนีออกนอกประเทศไปได้ นี่มันเป็นเพราะอะไร ถ้าไม่ใช่การทุจริตที่มีทุกหย่อมหญ้าเหมือนในประเทศไทย
20 สิงหาคม 2567 กรรมาธิการวุฒิสภา เปิดเผยรายงานว่า อลิซ เกา หนีออกนอกประเทศตั้งแต่เมื่อวันที่18 กรกฎาคม น้องสาว และเพื่อนร่วมงาน ที่ถูกจับได้ในประเทศอินโดนีเซีย ให้การว่า มีรถยนต์มารับตอนกลางคืนที่บ้านในชานกรุงมะนิลา และนำพวกเธอมุ่งหน้าไปยังท่าเรือแห่งหนึ่ง พวกเธอถ่ายขึ้นเรือเร็วล่องในทะเลประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนถ่ายขึ้นเรือใหญ่ ไปยังเมืองเดนปาซ่าประเทศอินโดนีเซีย อลิซ เกา โดยสารเรือต่อไปมาเลเซียและ สิงคโปร์ โดยสารเรือกลับประเทศอินโดนีเซีย วันที่ 21 กรกฎาคม ต่อมา วันที่ 4 กันยายน สำนักข่าวบีบีซี รายงานจากอินโดนีเซียว่า อลิซ เกา ถูกจับในอินโดนีเซีย และกำลังอยู่ระหว่างกระบวนการส่งตัวกลับไปฟิลิปปินส์ ข่าวการจับกุมตัว อลิซ เกา ได้ อาจทำให้น้ำหนักข้อหาสปายอ่อนลงไป เพราะหากเธอเป็นสายลับจีนจริง ปักกิ่งต้องคุ้มครองไว้ในสถานทูต หรือไม่ก็ในที่ปลอดภัย
ตั้งแต่ถูกสอบสวนดำเนินคดี จนหนีออกนอกประเทศของเธอ ทุกขั้นตอนดูราบรื่นง่ายดาย คล้ายกับการหนีคดี หนีศาลของอดีตนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย จึงเป็นบทเรียนแก่นายกหญิงคนที่สองของไทยว่า อย่าริอ่านผ่านพระราชบัญญัติบ่อนการพนันถูกกฎหมาย ตราบใดที่ยังมีทุจริตทุกหย่อมหญ้าในประเทศไทย
ในเวลาเดียวกัน กับที่มีรายงานผู้ต้องหาคนสำคัญถูกจับได้ ในกรุงมะนิลา ปธน.มาร์กอส ออกคำสั่งให้เปลี่ยนวีซ่าทำงานผู้บริหารโปโก 2,000 คน เป็นวีซ่านักท่องเที่ยวให้อยู่ในฟิลิปปินส์ได้เพียง 59 วัน ระหว่างเตรียมปิดโปโกทั้งหมดภายในสิ้นปี พร้อมกันนั้น รัฐบาลสั่งให้กระทรวงแรงงานจัดหางานใหม่ ให้ลูกจ้างโปโกที่คาดว่าจะตกงานประมาณ 120,000 คน
นักวิเคราะห์จากบริษัท Jone Lange laSalkle หรือ JLL กล่าวว่า ปิดโปโกทั่วประเทศ มีผลกระทบต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ และภาคธนาคารน้อย เนื่องจากว่า โปโกมีส่วนเพียง 7.1 ล้านล้านเปโซ หรือ 7% ของ 4.3 ล้านล้านเปโซ ที่เป็นฐานเศรษฐกิจมวลรวมของประเทศ ส่วนภาคธนาคาร อาจมีผลกระทบจากหนี้เสีย ในส่วนการรับจำนองที่อยู่อาศัย และเครดิตการใช้จ่ายซึ่งมีหนี้เสียถึง 9.6% ในปี 2021 แต่ดีขึ้นบ้างในปีนี้มีหนี้เสียเพียง 7%
รายงานจากกระทรวงการคลัง ระหว่างปี 2016 ถึง 2019 โปโกส่งรายได้เข้ารัฐประมาณ 18,000 ล้านเปโซ แต่หลังจาก ปธน.มาร์กอส ตีตราให้โปโกกลายเป็นแหล่งอาชญากรรมข้ามชาติ ค่าธรรมเนียมและส่วนแบ่งจากรายได้สุทธิโปโก ปี 2022 ลดลงเหลือเพียง 7 พันล้านเปโซ และต่ำที่สุดในปี 2023 ที่รัฐมีรายได้จากโปโกเพียง 5 พันล้านเปโซ ข้อมูลเหล่านี้ จึงเป็นกรณีศึกษา ต้องนำมาประกอบการพิจารณาว่า บ่อนการพนันถูกกฎหมายคุ้มค่าเศรษฐกิจหรือไม่ในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม ประเทศฟิลิปปินส์ที่การพนันทุกอย่างอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานประธานาธิบดี และเตรียมปิดบ่อนการพนันออนไลน์ทั้งหมดภายในสิ้นปี 2024 แต่การพนันไม่ได้หมดไป เพราะปธน.มาร์กอส ประกาศสร้างกาสิโนแปดแห่งขึ้นมาใหม่ ในรูปแบบบ่อนพนัน และสถานบันเทิงครบวงจร ขึ้นมาแทนบ่อนพนันออนไลน์นอกชายฝั่งที่สั่งปิด กาสิโนในรูปสถานบันเทิงครบวงจรแห่งแรก จะเปิดให้บริการในฐานทัพคลาร์กของสหรัฐปลายปี 2024 ที่รัฐบาลประมาณการว่าจะสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวและการพนันปีละ 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งหมดเป็นข้อมูลคร่าวๆ จากประเทศเพื่อนบ้านที่พบว่า บ่อนการพนัน ไม่ว่าจะถูกกฎหมาย หรือไม่ ล้วนเป็นที่มาของอาชญากรรมร้ายแรง รวมถึงความมั่นคงภายในของชาติ ที่มักมีสายลับจารชนแฝงตัวเข้ามาในรูปนักลงทุน หรือนักพนันได้ง่าย ในประเทศที่มีนักการเมืองแและข้าราชการกังฉิน มีทั้งในสภาและนอกสภาทั่วทุกหย่อมหญ้าของประเทศ
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี