มีข่าวคราวว่าพรรคเพื่อไทยแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจะนัดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในสัปดาห์นี้ โดยมีเป้าหมาย เพื่อริบอำนาจประหารนักการเมืองสีเทา จริยธรรมบกพร่องจากศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเรื่องดังกล่าวพรรคร่วมรัฐบาลอย่างภูมิใจไทย และรวมไทยสร้างชาติ ถึงกับส่งเสียงยี้ออกมาจากการขับเคลื่อนของพรรคเพื่อไทย
นายสรรเพชญ บุญญามณี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ให้ความเห็นว่า เป็นที่น่าแปลกใจที่ยังไม่ทันไรหลังรัฐบาลเข้าแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเพียงไม่กี่วัน ก็จะยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเลยเพราะเนื้อหาที่จะแก้ไขรายมาตราก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับคุณสมบัติของรัฐมนตรีที่จะมาดำรงตำแหน่ง โดยเฉพาะการเอาคำว่าซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ออกจากรัฐธรรมนูญ ตนมีความเห็นว่า หากนักการเมืองที่เป็นนักการเมืองขี้โกงเข้ามามีอำนาจบริหารประเทศก็จะเกิดความเสียหายได้ ดังนั้นความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์จะต้องคงอยู่เพื่อเป็นมาตรฐานทางจริยธรรมให้กับนักการเมืองต่อไป
นายสรรเพชญ กล่าวว่า แม้ทั้งพรรคฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลจะจับมือร่วมกันแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งทำให้มีโอกาสผ่านได้ง่ายแต่ก็ต้องอาศัยเสียงของสมาชิกวุฒิสภาเพื่อให้ได้รับความเห็นชอบ ดังนั้นตนอยากให้ผู้เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ ชี้แจงให้ชัดว่า ประชาชนได้ประโยชน์อะไรจากเรื่องนี้ แล้วจะทำให้ประชาชนมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีการเมืองดี มีปากท้องดี ได้อย่างไร ตนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์พวกมากแล้วลากกันไปทำเรื่องเพื่อประโยชน์ของพวกพ้องตนเอง ในความเป็นจริงแล้ว หากจะแก้รัฐธรรมนูญก็ควรจะถามประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยตัวจริงเสียก่อน ผู้แทนที่เข้ามาใช้อำนาจไม่ควรแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อตนเองเพราะเคยเสียผลประโยชน์จากเรื่องนี้ หากดันทุรังสุดซอยประชาชนจะหมดศรัทธาได้
“การที่เราจะเป็นผู้แทนประชาชน มาใช้อำนาจ ทรัพยากรของประเทศแทนประชาชน ต้องยอมรับการตรวจสอบที่โปร่งใสและเข้มงวด หากเราทำให้การตรวจสอบอ่อนแอลง ระบบการเมืองของเราก็จะสูญเสียความน่าเชื่อถือการแก้ไขรัฐธรรมนูญควรเน้นไปที่การเพิ่มความโปร่งใสและเสถียรภาพให้กับระบบการเมือง แทนที่จะเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มนักการเมืองบางกลุ่ม” นายสรรเพชญกล่าว
พ.ต.อ.กอบ อัจนากิตติ สมาชิกวุฒิสภา(สว.) กล่าวว่า รัฐธรรมนูญได้กำหนดบทบาทของแต่ละฝ่ายไว้แล้วในรัฐธรรมนูญ เช่น สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกรัฐสภา ดังนั้น ทุกคนต้องเคารพรัฐธรรมนูญก่อนเป็นลำดับแรก เวลาปฏิญาณตนเข้าปฏิบัติหน้าที่ก็บอกว่าจะพิทักษ์รัฐธรรมนูญ
แล้วจู่ๆ จะมาแก้ไขรัฐธรรมนูญ แล้วที่ออกสื่อว่าจะแก้ไขเรื่องมาตรฐานจริยธรรม ในเมื่อไม่มีจริยธรรมแล้วคุณมาเป็นนักการเมืองทำไม จริยธรรมมันอยู่ที่ตัวคน หากคุณคิดเสียสละเพื่อบ้านเมือง ต้องมีจริยธรรมก่อนเป็นลำดับแรกเลย ซึ่งจริยธรรม คือ การปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ละอายและเกรงกลัวต่อการปฏิบัติตัวผิด ทุจริตคิดมิชอบ เท่านี้เอง นี้คือจริยธรรม หากนักการเมืองไม่มีจริยธรรมก็กลับไปอยู่บ้านเลยเพราะที่รัฐสภา ไม่ใช่จะมาทำอะไรตามอำเภอใจ
เมื่อถามถึงว่าฝ่ายพรรคการเมืองให้เหตุผลว่า ที่เสนอแก้ไขมาตรา 160 (4) และ(5)เพราะไม่มีความชัดเจนเลยต้องเสนอแก้ไขให้ชัดเจน พ.ต.อ.กอบกล่าวว่า“จะมาแก้ไขเรื่องนี้ มันอยู่ในตัวคน เพียงแต่มาเขียนให้เป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้นเอง แล้วคุณจะไปกลัวอะไร เรื่องต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ถ้าคุณไม่ใช่คนชั่ว คุณกลัวอะไร”
ดร.ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม อดีตสมาชิกวุฒิสภา(สว.) นักวิชาการอิสระและที่ปรึกษา ด้านการเมืองการปกครองและกฎหมายมหาชน สถาบันสุจริตไทยโพสต์เฟซบุ๊ก ดร.ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สว.059 ระบุข้อความว่า... นี่หรือการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อประชาชน? เราอยากได้นักการเมืองที่ต้องสุจริต ก็ขอแก้เป็น”ที่ไม่ถูกจับได้ว่าทุจริต”เรามีศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อชี้ว่าใครไม่สุจริต ก็แก้เงื่อนไขให้การลงมติเอาออกจากตำแหน่ง ทำได้ยากขึ้น แม้ ป.ป.ช.จะชี้ว่าทุจริต แล้วก็ไม่เพียงพอ ต้องให้ศาลฎีกาเท่านั้น ตัดสินก่อน โดยโยนภาระให้ฝ่ายประชาชนเป็นผู้หาหลักฐานมากล่าวหา และตัดอำนาจ ป.ป.ช.ที่จะฟ้องตรงต่อศาลได้ “ใครกันนะที่มีพฤติกรรมไม่อยากได้ประชาธิปไตยสุจริต?”
คำสัมภาษณ์ของ สส.สรรเพชญ สว.กอบและอดีตสว. ดิเรกฤทธิ์ คงเตือนสติพรรคเพื่อไทยว่าอย่าไปยุ่งกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเลย อดีตเคยมีให้เห็นบทเรียนมามากแล้ว อย่าไปหาเรื่องตกงานระยะยาวอีกเลย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี