แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...

nn ประวิตร กรุงเทพฯ “ฉันมีความปรารถนาที่จะให้เธอแบ่งย่อโทรเลขของฉันมีไปถึงสมเด็จพระบรมราชินีนารถนั้น ลงพิมพ์ให้ทราบทั่วไปแก่มหาชนอันเป็นที่รักใคร่ของเราเนืองๆ จึ่งเป็นน่าที่ของเธอที่จะนำคำแปลโทรเลขนั้นถวายสมเด็จพระบรมราชินีนารถตามพระไทยของสมเด็จพระบรมราชินีนารถ จะทรงเห็นควรว่าส่วนใดเป็นการลับ ซึ่งไม่ควรจะปรากฏเปิดเผยตามแต่จะวินิจฉัยได้ทุกประการ วิธีซึ่งจะให้เป็นการสดวกต่อไปภายน่านั้นบรรดาโทรเลขสำคัญเซนสยามินทร์นั้นประสงค์จะให้ปรากฏในหนังสือพิมพ์ราชการ แต่โทรเลขที่เซนจุฬาลงกรณ์นั้น ประสงค์ว่าเป็นส่วนเฉพาะตัวแลเป็นการลับ แต่ก็ตามพระไทยสมเด็จพระบรมราชินีนารถสุดแต่จะทรงเห็นควร งดไว้เสียฤๅจะมีพระเสาวนีให้ลงพิมพ์โทรเลขฉบับใดก็ได้ ตามแต่สมเด็จพระบรมราชินีนารถจะทรงเห็นสมควรทุกประการ” (พระบรมนามาภิธัย) จุฬาลงกรณ์ (คำแปลพระราชโทรเลข มีมาแต่เมืองโรม วันที่ 8 มิถุนายน ศก 116 เวลาบ่าย 5 โมง 15 นาที มาทางมอลเแมน ถึงกรุงเทพฯ วันที่ 5 เวลาเที่ยง 55 นาที ส่งถึงออฟฟิศหลวง
เวลาบ่าย 2 โมง พระราชโทรเลขจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และคำแปลถึงพระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าประวิตรวัฒโนดม)...

nn เมื่อนักข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลซักถามเรื่องสำคัญแบบจี้ใจ จี้จุดแพทองธาร ชินวัตรในที่สุดนายกรัฐมนตรีอายุน้อยที่สุดของไทย ก็เกิดอาการหงุดหงิดจนเก็บอาการไม่อยู่ ถึงกับบอกว่า นักข่าวอย่างถามแบบนี้นะ อย่าถามยุแยง โอ้ว! อีกไม่นานแพทองธารคงใช้วิธีแบบเดียวกับทักษิณ ชินวัตร เคยใช้กับนักข่าวที่ถามคำถามซึ่งไม่อยากตอบ ไม่อยากได้ยิน โดยยกป้ายเครื่องหมายถูก-ผิด ใส่นักข่าวที่ถาม มันช่างป็นเรื่อง like father, like daughter เสียนี่กระไรเลยจริงๆ เชียว...

nnคำถามจากนักข่าวกับคำตอบจากปากของนายกรัฐมนตรี คือเครื่องบ่งบอกให้สาธารณชนได้ประจักษ์ว่า อะไรมีสาระมากกว่ากัน ถ้านักข่าวถามคำถามโง่ๆ นายกรัฐมนตรีไม่จำเป็นต้องตอบคำถามโง่ๆ แต่หากนักข่าวถามคำถามที่มีสาระ และมีผลบวกผลลบต่อบ้านเมือง นายกรัฐมนตรีต้องตอบคำถามนั้น ส่วนคำตอบจะบ่งบอกว่าโง่หรือฉลาด มีสาระหรือปราศจากสาระ ก็ขึ้นอยู่กับระดับสติปัญญาของนายกรัฐมนตรีเท่านั้น...

nn มีข่าวว่า แพทองธาร ชินวัตร จะไปพูดเรื่องอนาคตของบ้านเมือง โดยงานนี้จัดขึ้นเพื่อขายบัตรหาเงิน ก็เลยทำให้มีคำถามว่า แพทองธารจะไปพูดเรื่องอนาคตของบ้านเมืองในแง่มุมไหน เพราะเท่าที่ตามดูคำพูดของแพทองธารมาโดยตลอด ยังไม่พบแม้แต่น้อยว่าเขาจะมีวิสัยทัศน์ใดๆ เอาแค่ตอบคำถามนักข่าวทุกๆ วัน ก็ยังไม่พบสาระใดๆ แม้แต่น้อย แต่ได้พบอีกว่าหลายครั้งพูดไม่รู้เรื่อง พูดผิดตลอดเวลา แล้วก็วิ่งหนีคำถามโดยตอบว่าเรื่องนี้กำลังหารือกัน กำลังคุยกัน แต่ไม่เคยมีข้อสรุปที่ชัดเจนออกมาสักครั้ง แต่จะว่าไป ปัญหาเรื่องที่แพทองธารจะไปแสดงวิสัยทัศน์ถึงอนาคตของประเทศไทยก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่ทว่าเรื่องที่ใหญ่ยิ่งกว่าคือ คนที่จะไปฟังแพทองธารพูดนั้นคิดดีแล้วใช่ไหม ถามย้ำว่าคิดดีแล้วใช่ไหม หรือว่าไม่ต้องคิด เพราะไม่รู้จะคิดไปเพื่ออะไร เนื่องจากว่าจำเป็นต้องไป เพราะคนพูดคือนายกรัฐมนตรี ส่วนพูดแล้วมีสาระหรือไม่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะไม่ได้คาดหวังสาระอยู่แล้ว ส่วนงานนี้จะมีเจ้าสัวรายใหญ่บิ๊กบึ้มของไทยไปยกมือไหว้แพทองธารอย่างอ่อนน้อมน่ารักน่าชัง เหมือนตอนที่ทักษิณไปพูดเมื่อเดือนสิงหาคมหรือไม่ ก็ต้องรอดูกันต่อไป...

nn เมื่อพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำรัฐบาลผสม ประจักษ์ว่าพรรคร่วมรัฐบาลจงใจปล่อยเกาะพรรคเพื่อไทย ในเรื่องจงใจแก้ไขรัฐธรรมนูญบางมาตรา แล้วก็ยังถูกสาธารณชนจับได้ไล่ทันว่า การแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้มีแนวโน้มว่าจะหมกเม็ดแก้แบบสุดซอย เพื่อลบล้างผิด และฟอกขาวให้นักการเมืองบางรายที่มีสถานะผู้ต้องโทษคดีอาญาให้กลับมามีบทบาทเป็นผู้ยึดกุมอำนาจรัฐได้อีกครั้ง แต่แล้วในที่สุดพรรคเพื่อไทยก็ต้องหลบเรื่องจงใจแก้รัฐธรรมนูญไว้ชั่วคราว โดยแก้ตัวพัลวันว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นต้นคิดเรื่องนี้ แต่พรรคอื่นเป็นต้นคิด...

nn แต่คอการเมืองรู้ทันพรรคเพื่อไทยดี และจับไต๋ได้อีกว่า พรรคเพื่อไทยยังไม่จบเรื่องนี้อย่างแน่นอน แต่ใช้การดองเรื่องไว้ก่อน เพราะเป้าหมายของพรรคในการช่วยล้างผิด ฟอกขาวให้นักโทษผู้ต้องคดีอาญารายหนึ่งยังไม่บรรลุเป้าหมาย ส่วนข้ออ้างว่าพรรคการเมืองอื่นเสนอแก้รัฐธรรมนูญ จึงทำให้พรรคเพื่อไทยต้องเสนอร่างแก้แบบคู่ขนานไปด้วย เป็นข้ออ้างที่ฟังแล้วทุกคนบอกว่า ก็อ้างไปเถอะ แต่ก็มีคำถามต่อท้ายว่าจะมีคนเชื่อสักกี่คนกัน...

nn เมื่อเพื่อไทยไปต่อเรื่องแก้รัฐธรรมนูญไม่ได้ หมายถึงไปไม่ได้ในขณะนี้ แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่ไปต่อ เพราะเพื่อไทยกำลังรอจังหวะแก้รัฐธรรมนูญเพื่อล้างผิดให้กับนักโทษชายเทวดารายหนึ่ง เมื่อวันนี้ไปต่อไม่ได้ เพื่อไทยก็จึงแก้เกี้ยวโดยการให้ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) วิสุทธิ์ ไชยณรุณ ออกมาประกาศยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดของตนเองที่พูดเรื่องแก้รัฐธรรมนูญบางมาตรา โดยเฉพาะประเด็นตัดมาตราที่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริยธรรมนักการเมือง พร้อมกันนั้น วิสุทธิ์ยังอ้างว่าเมื่อเพื่อน (หมายถึงพรรคร่วมรัฐบาล) ไม่เอาด้วย ก็ถอยได้ ไม่ได้ลำบากใจอะไร เพราะเป็นแนวทางประชาธิปไตย แต่สิ่งที่วิสุทธิ์พูดก็เหมือนๆ กับโยนผิดให้พรรคประชาชน เมื่อวิสุทธิ์พูดเหมือนโยนผิดให้พรรคประชาชน ก็มีคนของพรรคประชาชนบางคนบอกว่า แหม! ทีอย่างนี้ละก็โทษพรรคประชาชน ทีพรรคประชาชนเรียกร้องเรื่องต่างๆ สารพัดเรื่อง โดยเฉพาะเรื่อง digital wallet ก็ไม่เคยเห็นพรรคเพื่อไทยจะฟังเสียงของพรรคประชาชนสักครั้ง...

nn ประเด็นค่าเงินบาทแข็งในขณะนี้ ย่อมส่งผลต่อคนขายสินค้าออก (exporters) แต่ก็ส่งผลดีต่อคนนำเข้าสินค้า (importers) รวมถึงคนที่ชอบท่องเที่ยวต่างประเทศ และคนที่ส่งลูกหลานไปเรียนต่อในสหรัฐฯ ซึ่งจะเห็นว่าค่าเงินบาทอ่อนหรือแข็งนั้นมีผลดีและลบต่อคนบางกลุ่มเสมอ เพราะฉะนั้น คนที่บอกว่าค่าเงินบาทแข็งเป็นปัญหา ก็ต้องรับฟังด้วยว่าคนที่เขาได้ผลดีจากค่าเงินบาทแข็งก็ยังมีในประเทศไทย ส่วนการที่รัฐบาลต้องการให้ค่าเงินบาทอ่อน ก็ต้องฟังคนที่ต้องการให้ค่าเงินบาทแข็งด้วย...

nn พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง บอกว่าจะเชิญชวนให้ธนาคารแห่งประเทศไทยมาทำงานร่วมกันในด้านนโยบายการคลังกับนโยบายการเงิน และบอกว่านโยบายการเงินควรสอดคล้องกับนโยบายของรัฐ และขอให้ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติถอดหมวกแล้วไปนั่งทำงานร่วมกันเพื่อหาจุดร่วมของนโยบายการเงินและการคลัง เพื่อให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัว ฟังคำพูดของพิชัยแล้วรู้สึกว่าดีกว่าคำปรามาสผู้ว่าฯ แบงก์ชาติที่ออกมาจากปากของพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เจ้าของฉายาไอเดียกระฉอก (แต่ไม่เคยเป็นจริง) แต่ก็ต้องถามรองนายกฯ พิชัยว่า แล้วเคยฟังเหตุผลของแบงก์ชาติบ้างหรือไม่ หรือเห็นว่าแบงก์ชาติเป็นตัวทำลายเศรษฐกิจของประเทศ แล้วเข้าใจเอาเองว่ารัฐบาลคือผู้ผดุงเศรษฐกิจเพียงผู้เดียว พิชัยต้องรู้ไว้ด้วยว่าแบงก์ชาติต้องเป็นอิสระจากการแทรกแซงโดยนักการเมืองที่มีนิสัยชอบหว่านเงินของคลังหลวงเพื่อซื้อคะแนนนิยมการเมือง ถามว่าพิชัยรู้จักพิษสงของ populist policy หรือไม่ และถามว่าพิชัยสนับสนุนนโยบายประชานิยม ใช่หรือเปล่า...nn

ธรรมกร