“หมู” เป็นสัตว์เลี้ยงสุดสำคัญของชาวสารขัณฑ์ เพราะประชาชนของประเทศนี้ 90 เปอร์เซ็นต์ต่างขยันบริโภคเนื้อหมูกันอย่าง “สุดมัน” ทุกครัวเรือนเกิดฟ้าแลบ ฟ้าผ่าอย่างถี่บ่อย ในการคิดเมนูได้เกินกว่า 100 จานและ 100 หม้อ จนกลายเป็นอาหารสุดโอชะชนิด “ชูชกกลับชาติมาเกิดใหม่คงต้องหม่ำหมูรสแซบจนต้องท้องแตกตายอีกครั้งอย่างห้ามไม่อยู่”
ดังนั้น ถ้าเกิดวิกฤตจน “เนื้อหมูราคาแพง” ชาวสารขัณฑ์เป็นต้องสาปแช่งรัฐบาลจนเป็นข่าวใหญ่ แล้วจะ “สวดชยันโต” สลับกับ “สวดกงเต๊ก” จนกว่ารัฐบาลทำให้ราคาเนื้อหมูถูกลงได้
คงเพราะชาวสารขัณฑ์บริโภคเนื้อหมูเก่งกว่าชาติใดๆ ในโลก จึงมีนักเลี้ยงหมูระดับมืออาชีพมากมาย บางจังหวัด กลิ่นขี้หมูลอยไกลทั้งบาง ทั้งอำเภอ จนฟุ้งกระจายกลายเป็นสัญลักษณ์อันถาวร เช่น จังหวัดนครปฐมและนครราชสีมา “น้ำหอมกลิ่นขี้หมูจึงกลายเป็นกลิ่นอมตะ”
ชาวสารขัณฑ์นอกจากบริโภคเนื้อหมูได้เก่งแล้ว ยังนำคำว่า “หมู” มาใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสุรุ่ยสุร่าย เช่น นำมาสร้างวาทกรรมต่างๆ และใช้ตั้งฉายาให้กับปัจเจกบุคคลและองค์กรต่างๆ
“นำมาสร้างวาทกรรม” ได้แก่สำนวนต่อไปนี้ “กินอย่างหมู อยู่อย่างหมา ขี้หมูราขี้หมาแห้ง ฝนตกขี้หมูไหล คนจัญไรมาพบกัน หมูไป ไก่มา ยื่นหมูยื่นแมว หมูเขาจะหาม อย่าเอาคานเข้าไปสอด อุ้มหมูทั้งเล้า อุ้มมะพร้าวทั้งทะลาย อุ้มหมูทั้งมุ้ง แบกผักบุ้งทั้งกอ และดินพอกหางหมู” เป็นต้น
“ส่วนการให้ฉายา” นั้น “เด็กอ้วนทั้งหลาย คนอ้วนทั้งบาง และไหกระเทียมต่อขาทั้งประเทศ” จะได้รับฉายาในทันทีที่ถูกเห็นหน้า และในทันใดที่พบตัวเป็นเป็น เช่น “ไอ้หมูอ้วน ไอ้หมูตอน ไอ้หมูพะโล้ ไอ้หมูสามชั้น” หรือเรียกเป็นคำคล้องแบบ“หมูแผ่น หมูหยอง และหมูกระป๋อง” หรือเป็น “หมูแปลกใหม่” เช่น “หมูหิน หมูกระทะ หมูปิ้ง และหมูเด้ง”
โดยเฉพาะฉายา “หมูเด้ง” วันนี้ได้กลายเป็น “ฉายาฮิต” ของ “ฮิปโปน้อยสายพันธุ์แคระในสวนสัตว์ชลบุรี” ที่เป็นข่าวดังกระฉ่อนโลก จนมีนักท่องเที่ยว “ไปชมหมูเด้ง ตกวันนับหมื่นคน” เพราะ “หมูเด้ง” เป็นฮิปโปน้อยที่ขยันประจบนักท่องเที่ยวอย่าง “ฉลาดอัศจรรย์”
“ในสนามกีฬา” ทุกประเภทและบนเวทีพันตูทุกชนิด “ฉายาหมู” ก็ถูกนำมาใช้อย่างเฮฮา เช่น “หมูสนาม หมูในอวย” และ “เซียนอยู่รู หมูอยู่ตึก”
“ในทางการเมือง” นักการเมืองจำนวนไม่น้อย ก็ถูกสังคมตั้งฉายาอย่าง “สุดเห่ย”เช่น “หมูป่า หมูเลี้ยง หมูในเล้า หมูอ้วน หมูติดมัน และหมูสามชั้น” และ “รัฐบาลดินพอกหางหมู (หนี้)” เป็นต้น
วันนี้ นักวิชาการและกูรูทางการเมืองจำนวนไม่น้อย “ต่างห่วงใย” ว่า “รัฐบาลดินพอกหางหมู” ของสารขัณฑ์ในวันนี้ ยังบริหารประเทศแบบพระเวสสันดรอย่าง“ดุเดือด ดุดัน และดุฉกรรจ์” แล้ว
“หมูอ้วน” ที่มีดินพอกหางหมูตัวนี้ จะเสี่ยงภัยกลายเป็น “หมูย่างหรือหมูกระทะ”หรือไม่?
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี