เป็นเพราะอาถรรพณ์กาลีบ้านกาลีเมืองหรือไฉน จึงมีอาเพศเหตุร้ายที่เป็นความหายนะเกิดขึ้นทุกครั้งที่ผู้นำจิตวิญญาณพรรคเพื่อไทย มีอำนาจบารมี เหนือรัฐบาล เกิดหายนะรอบด้านทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ที่สุดของความเลวร้าย คือ หายนะทางจริยธรรม ซึ่งเป็นที่มาของความหายนะทั้งมวล
ฤๅเป็นเพราะความไร้คุณธรรม ขาดจริยธรรมของผู้นำจิตวิญญาณเพื่อไทยเป็นเหตุให้ธรรมชาติลงโทษด้วยอุทกภัยที่เลวร้าย จงใจให้รัฐบาลเพื่อไทยแก้ปัญหาผู้ประสบภัยมากกว่าให้ความสำคัญกับการทำลายองค์กรอิสระ อาทิ ศาลรัฐธรรมนูญและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติแต่ดูเหมือนว่า พรรคเพื่อไทยไม่สำเหนียกต่อคำเตือนจากธรรมชาติ คือ แทนที่จะเร่งรีบช่วยเหลือฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาผู้ประสบภัยทั้งภาคเหนือ อีสานตลอดผู้ประสบภัยในภาคใต้ แต่พรรคเพื่อไทยกลับไปเร่งรัดแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อเปิดทางให้ผู้นำจิตวิญญาณพรรคเพื่อไทย ได้มีอำนาจทางการเมืองถูกต้องตามกฎหมาย และได้นำความหายนะครั้งใหญ่มาสู่ประเทศไทยเหมือนในอดีต
จากความจริงที่ประจักษ์ว่าความมุ่งมั่นจริงจังในการเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทย เน้นเป้าหมายไปที่แก้ในหมวด “มาตรฐานจริยธรรมและความสุจริตเป็นที่ประจักษ์”ในรัฐธรรมนูญปี 2560 เพื่อกรุยทางให้ผู้นำจิตวิญญาณเพื่อไทย ผู้ไร้มาตรฐานทางจริยธรรมและทุจริตเป็นที่ประจักษ์ ได้กลับมีอำนาจเหนือพรรคเพื่อไทยอย่างถูกกฎหมาย เนื่องจากว่า รัฐธรรมนูญ 60 บัญญัติไว้ ไม่ให้บุคคลที่ไม่มีจริยธรรมโกงชาติปล้นแผ่นดินมีตำแหน่งทางเมือง สมุนบริวารนายใหญ่จึงมุ่งมั่นแก้รัฐธรรมนูญ หมวดจริยธรรมให้ได้ ไม่ว่าต้องแลกกับความหายนะอย่างไร โดยไม่ถอดบทเรียนในอดีตว่ารัฐบาลไทยรักไทยสมัยทักษิณ ชินวัตรและรัฐบาลเพื่อไทยสมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรได้สร้างความหายนะให้แก่ประเทศชาติและผู้นำรัฐบาลในสมัยนั้นอย่างไร
รัฐบาลพรรคเพื่อไทยสมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี เกิดอาเพศเป็นมหาอุทกภัยตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม 2554 ถึงเดือนมกราคม 2565 มีคนตาย 1,098 ราย ราษฎรได้รับผลกระทบ 12.8 ล้านราย ประเมินค่าความเสียหายครั้งนั้นประมาณ 1.44 ล้านล้านบาท ความหายนะคราวนั้นเหมือนธรรมชาติเตือนให้รัฐบาลใส่ใจความเป็นอยู่ของคนไทย แต่รัฐบาลเพื่อไทยในสมัยนั้น ไม่ใส่ใจกลับเดินหน้าเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมเข้าสภาด้วยวาระซ่อนเร้นที่มีเป้าหมายล้างความผิดให้นายใหญ่ที่ลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ
ทั้งนี้ ร่างเดิมที่เสนอโดยนายวรชัย เหมะและคณะให้นิรโทษกรรมเฉพาะการกระทำที่เกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ปี 2549 เท่านั้น แต่เมื่อ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมผ่านวาระรับหลักการ และในระหว่างตั้งกรรมาธิการศึกษา กมธ.พรรคเพื่อไทยนำฉบับของนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ ได้เพิ่มการนิรโทษกรรมที่รวมถึงคดีทุจริตย้อนหลังไปถึงปี 2547 ด้วย นั่นก็หมายถึงจะล้างผิดให้แก่“ทักษิณ ชินวัตร”พ้นจากคดีทุจริตทุกคดีที่ทักษิณตกเป็นนักโทษ, เป็นจำเลยและเป็นผู้ต้องหาอยู่ขณะนั้น
จากความเจ้าเล่ห์เพทุบายของพรรคเพื่อไทยทำให้พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)ซึ่งเป็นฝ่ายค้านต่อต้านเต็มที่ แต่รัฐบาลเพื่อไทยใช้อำนาจเผด็จสภาผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอยวาระสองและสามผ่านสภาตอนตีห้าของวันใหม่ เป็นเหตุให้การต่อต้านของฝ่ายค้านล้นออกนอกสภา ซึ่งเป็นที่มาของการชุมนุมประท้วงใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทยเมื่อสส.ปชป.เก้าคน นำโดยนายสุเทพเทือกสุบรรณ ลาออกจากสส.ปชป.เพื่อตั้งคณะ กรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์(กปปส.)และนำการชุมนุมต่อต้านการนิรโทษกรรมสุดซอย ในการชุมนุมประท้วงข้ามปีของกปปส.ที่ประชาชนร่วมนับล้านคนครั้งนั้นถูกต่อต้านจากผู้สนับสนุนเพื่อไทยที่มีกองกำลังติดอาวุธแฝงตัวอยู่หมู่ผู้สนับสนุนรัฐบาลทำร้ายมวลชน กปปส.เสียชีวิต 32 ราย และได้รับบาดเจ็บนับพันคนจนเกิดความวุ่นวาย เป็นเหตุให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ามาควบคุมอำนาจยับยั้งความหายนะเมื่อ วันที่ 22 พฤษภาคม 2557
น.ส.ยิ่งลักษณ์ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจากความผิดย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี จากตำแหน่งเลขาฯสภาความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม สองอาทิตย์ก่อนหน้าพลเอกประยุทธ์ ยึดอำนาจและน.ส.ยิ่งลักษณ์หนีออกนอกประเทศราววันที่ 25 สิงหาคม วันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอ่านคำพิพากษาตัดสินจำคุกเธอ 5 ปี ในคดีทุจริตจำนำข้าวทั้งน.ส.ยิ่งลักษณ์และนายทักษิณ ถูกศาลฯตัดสินเด็ดขาดในความผิดทุจริตคอร์รัปชั่นซึ่งรัฐธรรมนูญปี’60 ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองตลอดชีวิต
ดังนั้นเมื่อน.ส.แพทองธาร ชินวัตร ผู้สืบสันดานจันทร์ส่องหล้า ได้เป็นนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยจึงเร่งรีบให้แก้รัฐธรรมนูญ ในหมวดที่ กำหนดมาตรฐานจริยธรรมและความสุจริต เพื่อล้างผิดให้บิดาและอาหญิง พรรคเพื่อไทยจึงให้ความสำคัญกับการแก้รัฐธรรมนูญมากกว่า ใส่ใจในลางร้ายที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ดินโคลนถล่มเชียงราย เชียงใหม่ ลามไปถึงอีสานและภาคใต้ มหาอุทกภัยที่เชียงรายนอกจากคร่าชีวิตคนไป 16 ศพแล้วความเสียหายที่ตามมายังไม่อาจประเมินได้ เนื่องจากว่าดินโคลนกว่า 68,000 ตันทับถมบ้านเรือนโรงเรียน สถานที่ราชการ ร้านค้า สำนักงานทั่วเมืองแม่สาย
หลังจากน้ำลดชาวแม่สาย บริษัท ร้านค้าต่างช่วยกันตักดินโคลนมหาศาลออกจากอาคารบ้านเรือน ผู้ประสบภัยบางรายจ้างรถรถไถรถแบ๊กโฮ ขุดรถยนต์รถมอเตอร์ไซค์จากใต้ดินโคลนทับถม ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ ในหลวง รัชกาลที่ 10 พระราชทานเครื่องฉีดน้ำแรงสูง 100 เครื่องให้ใช้ฉีดดินโคลนออกจากพื้นที่ประสบภัย ในขณะที่นายกรัฐมนตรีละล้าละลังสั่งการให้จัดการนำดินโคลนออกไปจากพื้นที่ก่อนที่จะแห้งกรังยากต่อการขุดไถ นายกฯสั่งการโดยไม่มีมาตรการว่า ต้องทำอย่างไร ดินโคลนเกือบเจ็ดหมื่นตันขนไปไว้ที่ไหน ปล่อยให้ทหารอาสาสมัครกู้ภัยและชาวบ้านแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปตามยถากรรม ในขณะที่รัฐมนตรีกลาโหม อดีตทหารป่าที่เคยคิดล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขด้วยปากกระบอกปืนกับรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ หมกมุ่นอยู่กับความพยายามแก้รัฐธรรมนูญและการนิรโทษกรรม ช่วยนายใหญ่โดยรวมผู้กระทำผิดอาญามาตรา 112 ไว้ในร่างกฎหมายนิรโทษกรรม
จึงพูดได้เต็มปากว่าผู้นำจิตวิญญาณพรรคเพื่อไทยนำความวิบัติมาสู่สังคมไทย ตั้งแต่วันแรกที่กลับมาเขาได้สร้างความหายนะ ความแตกแยกครั้งใหม่ โดยการทำลายความยุติธรรมและธรรมาภิบาลของไทยโดยไม่ติดคุกตามคำพิพากษาศาลแม้แต่วันเดียว การใช้เล่ห์เพทุบายหลอกลวงแม้กระทั่งถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ ที่ยอมรับความผิดและยอมรับโทษตามคำพิพากษาของศาล แต่หลังจากได้รับพระราชทานอภัยโทษ จากจำคุกแปดปีเหลือหนึ่งปี นอกจากไม่ยอมเข้าคุกแล้วเขายังสำรอกออกตัวว่า ถูกกลั่นแกล้งถูกใส่ร้ายทั้งๆ ที่ไม่เคยกระทำความผิด
ความเจ้าเล่ห์เพทุบายบวกความอหังการของผู้นำจิตวิญญาณพรรคเพื่อไทย นอกจากสร้างโกรธแค้นชิงชังและแตกแยกครั้งใหม่ในสังคมไทยแล้ว เขายังเป็นต้นเหตุให้นายเศรษฐาต้องพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพราะเจ้าของพรรคเพื่อไทยบัญชาให้แต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน ผู้ขาด
คุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญเป็นรัฐมนตรี ดังคำพิพากษาตอนหนึ่งว่า “ผู้ถูกร้องที่1(นายเศรษฐา)ได้เข้าพบบุคคลคนหนึ่งก่อนนำรายชื่อผู้ถูกร้องที่2(นายพิชิต)ขึ้นทูลเกล้าฯการให้บุคคลอื่นใช้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคบหาสมาคมกับคู่กรณีผู้มีความประพฤติหรือผู้มีชื่อเสียงในทางเสื่อมเสียอันอาจกระทบกระเทือนต่อความเชื่อถือศรัทธาของประชาชนในการปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี”
ศาลฯไม่ได้ระบุว่าบุคคลที่นายเศรษฐาเข้าพบเป็นใคร ก่อนนำชื่อนายพิชิตขึ้นทูลเกล้าฯแต่สังคมไทยเชื่อว่าบุคคลดังกล่าว คือ ผู้ครอบครองนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ที่มีผู้ร้องต่อกรรมการเลือกตั้งให้พ้นจากหน้าที่ ขณะนี้มีอยู่สิบคำร้องและในสิบคำร้องนั้นมีสี่คำร้องสำคัญ ที่อาจทำให้นายกรัฐมนตรีหญิงคนที่สองของไทยเผชิญชะตากรรมเลวร้าย เพราะสี่คำร้องสำคัญล้วนแต่เกี่ยวข้องกับผู้นำจิตวิญญาณพรรคเพื่อไทย ที่ตอบคำถามสื่อด้วยความอหังการว่า#เป็นผู้ครอบครองนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 จึงพูดได้ว่าผู้นำจิตวิญญาณพรรคเพื่อไทยกำลังนำความหายนะมาสู่สังคมไทย ไม่เว้นแม้แต่นายกรัฐมนตรีและผู้ที่ครอบครองเธอ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี